บทที่ 211 เปลี่ยนกระดูก[รีไรท์]
เป็นอย่างที่ฉู่ชวิ๋นคิดเอาไว้จริง ๆ ด้วย จักรพรรดิอ๋าวฮวงตั้งใจจะให้เขาเปลี่ยนกระดูกกับโครงกระดูกมังกรโบราณตัวนี้ หัวใจของฉู่ชวิ๋นพลันเกิดความสับสนเต็มไปหมด
มังกรธรรมดาก็ถือว่า เป็นสิ่งมีชีวิตที่หายากที่สุดแล้ว ไม่ต้องพูดถึงมังกรโบราณเลย
ถ้าสามารถเปลี่ยนกระดูกได้สำเร็จ ฉู่ชวิ๋นก็จะสามารถเอาชนะศัตรูได้ โดยไม่ต้องใช้พลังลมปราณเลยด้วยซ้ำ
นี่คือมังกรโบราณดึกดำบรรพ์ โครงกระดูกของมันสามารถเก็บรักษาได้เป็นเวลาหลายล้านปี
“แน่ใจนะครับ ?” ฉู่ชวิ๋นถามออกมาในขณะที่บังคับให้ตนเองใจเย็นลง โครงกระดูกมังกรเป็นสิ่งที่มีความแข็งแกร่ง แต่ไม่เคยมีใครลองเปลี่ยนกระดูกกับมันมาก่อน ถ้าล้มเหลว ผลที่ตามมาคงเกินกว่าที่คาดคิดเอาไว้หลายเท่า
นี่เป็นอย่างสำนวน ในโอกาสดี ๆ มักมีอันตรายซ่อนอยู่เสมอ
“จริง ๆ แล้วตัวข้าไม่เคยสนใจวิชาลมปราณจำแลงมาก่อน แต่พ่อข้านี่สิ ท่านใช้เวลาทั้งชีวิตศึกษาวิชานี้ แต่น่าเสียดายที่ท่านมีขีดจำกัดหลายอย่างเกินไป สุดท้ายก็ทำตามฝันไม่สำเร็จ” จากคำบอกเล่าของจักรพรรดิอ๋าวฮวง ข้อจำกัดที่ว่าก็คือวิชาลมปราณจำแลงเหมาะสมต่อผู้ฝึกตนที่เป็นมนุษย์เท่านั้น
“ถ้าเป็นอย่างที่พ่อข้าว่าเอาไว้จริง ๆ ถ้าแกจะฝึกวิชาลมปราณจำแลง แกก็ต้องเปลี่ยนกระดูกเสียก่อน ไม่งั้นแกรับพลังลมปราณจำแลงไม่ไหวแน่ ๆ”
“แต่ผมอยู่ดินแดนเซียนมาสามพันปี ผมไม่เคยได้ยินวิธีการเปลี่ยนกระดูกมาก่อนเลยนะ” ฉู่ชวิ๋นถามด้วยความสับสน
“อย่าว่าแต่ สามพันปีเลย ต่อให้แกอยู่อีก สามหมื่นปี ก็ไม่มีทางรู้ว่าการเปลี่ยนกระดูกต้องทำยังไง” จักรพรรดิอ๋าวฮวงมองหน้าฉู่ชวิ๋นและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ฉู่ชวิ๋นเสียวสันหลังวาบ นี่คือการเดิมพันครั้งใหญ่ นี่คือการเดิมพันด้วยชีวิตของตัวเขาเองจริง ๆ
“แกจะไม่ทำก็ได้นะ ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าแกจะต้องเจอกับอะไรบ้าง” จักรพรรดิอ๋าวฮวงกล่าวต่อ ฉู่ชวิ๋นหันไปมองหน้าชายชราพยายามชั่งใจ ชีวิตคือการเสี่ยงโชค
ในวินาทีนั้นเอง
“ผมจะทำ” ฉู่ชวิ๋นตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น จะเข้าใจในความหนักแน่นนี้
จักรพรรดิอ๋าวฮวงมองหน้าเขาและถามว่า “แน่ใจนะ ?”
ฉู่ชวิ๋นลุกขึ้นยืน หันหน้ามองไปทางโครงกระดูกมังกร “ผมมีทางเลือกด้วยหรือไง ? ผมไม่มีทางเลือกอีกแล้ว ถ้าพันธนาการแห่งท้องฟ้ายังอยู่ในตัวผมแบบนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับคนพิการ”
“แต่มันจะอยู่กับแกไปชั่วชีวิตเลยนะ” จักรพรรดิอ๋าวฮวงเอ่ย
ฉู่ชวิ๋นหัวเราะในลำคอ “ถ้าผมมีชีวิตรอดต่อไปได้น่ะนะ ผมโชคดีมาตลอด การเปลี่ยนกระดูกครั้งนี้โชคชะตาก็ต้องเข้าข้างผมแน่นอน ผมนี่แหละจะเดินไปบนเส้นทางที่เหนือกฎแห่งสวรรค์ แม้แต่พันธนาการแห่งท้องฟ้าก็ไม่อาจหยุดยั้งผมได้” ฉู่ชวิ๋นพูดจบ ก็เงยหน้ามองท้องฟ้า
ในแววตาของจักรพรรดิอ๋าวฮวง พลันปรากฏความตึงเครียดขึ้นมาแล้ว สีหน้าของเขาผสมกันด้วยความวิตกกังวลและความอยากรู้อยากเห็น
“คุณอยากให้ผมลองเปลี่ยนกระดูกอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ ?” ฉู่ชวิ๋นพลันหันกลับไปมองหน้าจักรพรรดิอ๋าวฮวง
จักรพรรดิอ๋าวฮวงหลบตาในขณะที่ตอบเบา ๆ
“ข้ายอมรับก็ได้ ข้าอยากให้แกลองเปลี่ยนกระดูกดู ถ้าแกทำได้สำเร็จ ข้าก็จะได้ลองทำตามบ้าง”
ฉู่ชวิ๋นจ้องมองชายชรา พูดว่า “ในเมื่อโอกาสดีแบบนี้มาถึงแล้ว คนเราจะปล่อยผ่านไปได้ยังไง เอาไว้ผมกลับออกมาได้ พวกเรามาดื่มฉลองกันนะ”
“ดี!” จักรพรรดิอ๋าวฮวงพยักหน้าอย่างแข็งขัน “ข้าจะรอ”
ในขณะเดียวกันนั้น จักรพรรดิอ๋าวฮวงก็ส่งหินคริสตัลมาให้ฉู่ชวิ๋น
ชายหนุ่มรับหินคริสตัลมาถือและหันกลับไปยังโครงกระดูกมังกร
จักรพรรดิอ๋าวฮวงยืนมองฉู่ชวิ๋นเดินเข้าไปยืนอยู่ใต้โครงกระดูกมังกรและสร้างม่านพลังปิดกั้นบริเวณเอาไว้
…
ฉู่ชวิ๋นเงยหน้ามองโครงกระดูกมังกรทองคำที่ลอยอยู่เหนือหัว หัวใจของเขาเต้นรัวเหมือนกลองตี ลำตัวของโครงกระดูกมังกรมีขนาดไม่ได้ใหญ่โตอะไรมาก แต่ถึงแม้มันจะมีขนาดตัวยาวแค่ไม่กี่เมตร มันก็ทำให้ฉู่ชวิ๋นรู้สึกเวียนหัวได้แล้ว
ฉู่ชวิ๋นนั่งลงและเริ่มใช้ความคิด
ไม่เคยมีใครเปลี่ยนกระดูกกับมังกรมาก่อน ไม่เคยมีใครบอกเอาไว้ว่าการเปลี่ยนกระดูกต้องทำอย่างไร ไม่มีตำราหรือคัมภีร์ไหนเคยกล่าวถึงเรื่องนี้!
ในวันนี้ ฉู่ชวิ๋นได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน และมันเป็นสิ่งที่บังคับให้ชีวิตเขามีทางเลือกแค่สองทาง คือรอดหรือตาย!
ด้วยเหตุนี้ ฉู่ชวิ๋นจึงนั่งใช้ความคิดอยู่เป็นเวลาสองวันเต็ม ๆ เขาลองนึกวิธีต่าง ๆ อยู่ในใจก็พบว่าไม่มีวิธีไหนที่จะทำได้ ความคิดของเขาตลอดสองวันไร้ประโยชน์ทั้งหมดทั้งสิ้น คนเราจะเปลี่ยนกระดูกของตัวเองกับกระดูกของมังกรได้ยังไง ?
ฉู่ชวิ๋นไม่อยากจะเชื่อความคิดบ้า ๆ นี้เลย เรื่องเปลี่ยนผิวหนังยังเคยพอได้ยินมาบ้าง แต่เรื่องเปลี่ยนกระดูกแบบนี้ เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
สองวันหลังจากนั้น ฉู่ชวิ๋นก็ยังหาวิธีไม่ได้อยู่ดี
“ท่านมังกร วิธีนี้มันจะได้ผลจริง ๆ เหรอครับเนี่ย” ชายหนุ่มเงยหน้ามองโครงกระดูกมังกรและอยากจะร้องไห้ออกมาแล้ว เนื่องจากความคิดแปลก ๆ เรื่องการเปลี่ยนกระดูกมังกร ก็มาจากมังกรตัวนี้นั่นเอง
ล่วงเลยมาจนถึงวันที่ห้า ฉู่ชวิ๋นคิดวิธีการเปลี่ยนกระดูกมาได้นับหมื่นวิธี แต่ก็ไม่มีวิธีไหนที่ใช้ได้จริงเลย
เห็นทีคงมีอยู่แค่หนทางเดียวเท่านั้น คือเอากระดูกของตัวเองออกมาและใส่กระดูกมังกรเข้าไปแทน ฉู่ชวิ๋นกัดฟันกรอด ดวงตาเป็นประกายด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ เขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว ไม่งั้นได้ถูกฆ่าตายระหว่างการต่อสู้แน่ ๆ หรืออีกอย่าง เขาอาจจะถูกพันธนาการแห่งท้องฟ้ากัดกร่อนพลังลมปราณจนสุดท้ายก็แห้งตายไปในที่สุด
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเป็นประกายระยิบระยับ แสงสีทองจากโครงกระดูกมังกรก็เป็นประกายระยิบระยับ
ชายหนุ่มไม่อยากล้มเหลว เขาอยากจะลองสู้ดูอีกสักตั้งหนึ่ง เมื่อตัดสินใจยอมรับความเสี่ยง ฉู่ชวิ๋นก็ไม่คิดอะไรมากมายอีกแล้ว เริ่มต้นจัดการม่านพลังทันที
หลังจากนั้นสักครู่หนึ่ง ทุกอย่างก็พร้อมแล้ว
“ขออนุญาตนะครับ” ฉู่ชวิ๋นค้อมศีรษะลงทำความเคารพ และกระโดดขึ้นไปนั่งอยู่บนโครงกระดูกมังกรทองคำ
เนื่องจากนี่คือครั้งแรก ฉู่ชวิ๋นจึงอยากจะเริ่มต้นด้วยมือข้างซ้ายก่อน เนื่องจากเขาเป็นผู้ใช้วิชามังกรและเคยอาบเลือดมังกรมาแล้ว โครงกระดูกมังกรจึงไม่ปฏิเสธเขา ฉู่ชวิ๋นหยิบกรงเล็บมังกรจากขาหน้าข้างซ้ายขึ้นมา ก่อนที่จะกระโดดลงมาจากตัวมัน กรงเล็บมังกรมีขนาดใหญ่เท่ากับโต๊ะกินข้าว จับดูก็รู้ว่าเป็นทองคำบริสุทธิ์ ทองคำส่องแสงเป็นประกาย น้ำหนักน่าจะไม่ต่ำกว่า ห้าพันกิโลกรัม
ฉู่ชวิ๋นโยนกรงเล็บมังกรเข้าไปในม่านพลังที่เขาสร้างเอาไว้
“เคล็ดวิชา มังกรเพลิงเก้าโลกันต์!” ฉู่ชวิ๋นสะบัดฝ่ามือและปล่อยพลังออกไป เกิดเป็นเปลวไฟพวยพุ่งลงมาจากท้องฟ้า ตรงลงมาเผาผลาญกรงเล็บมังกรเป็นจุดเดียว แต่โชคร้ายที่ผ่านไปหลายชั่วโมง กรงเล็บมังกรก็ไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
ฉู่ชวิ๋นเหนื่อยล้ามีเหงื่อออกท่วมตัว การใช้พลังครั้งนี้เผาผลาญพลังลมปราณของเขาไปจำนวนไม่น้อย ชายหนุ่มทำได้แต่เพียงสลายม่านพลังเท่านั้น
ฉู่ชวิ๋นยกมือลูบไล้กรงเล็บมังกรที่มีขนาดเท่ากับโต๊ะกินข้าวด้วยความปวดหัว เขาอยากจะใช้ไฟลนให้มันมีขนาดเล็กลง แต่ดูเหมือนว่าวิธีนี้จะไม่ได้ผล ถ้าสมมุติต้องเปลี่ยนกระดูกกับกรงเล็บนี้จริง ๆ มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยสักนิด
แต่ถ้ากรงเล็บมีขนาดเล็กลงหน่อย ก็น่าจะพอเป็นไปได้ ในขณะที่เขาคิดอย่างนี้ พลัน กรงเล็บมังกรก็มีขนาดเล็กลงไปจากเดิมถึงครึ่งหนึ่งทันที
ฉู่ชวิ๋นจ้องมองด้วยความเหลือเชื่อ หัวใจของเขากระตุกวูบ มันฟังเขารู้เรื่องงั้นเหรอ ? กระดูกมังกรสามารถเปลี่ยนขนาดได้ตามใจชอบงั้นเหรอ ?
ด้วยความอยากรู้ ฉู่ชวิ๋นจึงลูบมือไปบนกรงเล็บมังกรและใช้สมาธิอีกครั้ง
วูบ!
กรงเล็บมังกรพลันเล็กลงไปจากเดิมอีกครึ่งหนึ่ง “เล็กลง เล็กลงมากกว่านี้อีก…”
แล้วกรงเล็บมังกรก็ลดขนาดลงมา จนมีขนาดเท่ากับมือคนตามความต้องการของฉู่ชวิ๋น
“ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้นกว่านี้อีกนิด…” ฉู่ชวิ๋นลองใช้สมาธิ แต่ครั้งนี้กลับไม่เกิดปฏิกิริยาอะไรเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าเขาจะสั่งให้กระดูกมังกรหดตัวได้ แต่ขยายตัวกลับไปไม่ได้ ฉู่ชวิ๋นจึงอดรู้สึกผิดหวังขึ้นมาไม่ได้จริง ๆ
กรงเล็บที่เขาหยิบมานี้เขามือได้ก็จริงแค่ขาดนิ้วมือ! ฉู่ชวิ๋นเดินไปหยิบขาจากช่วงกลางลำตัวของโครงกระดูกมังกรมาสำรวจ มังกรทองคำมีขาอยู่ห้าข้าง มีข้างละสี่ นิ้วเมื่อรวมกันแล้วก็จะได้ยี่สิบนิ้ว เท่ากับจำนวนนิ้วมือนิ้วเท้าของมนุษย์พอดี ฉู่ชวิ๋นเดินเข้าไปในม่านพลังที่เขาสร้างเอาไว้ ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมเรียบร้อย
ฉู่ชวิ๋นมีสีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง นี่คือสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน อันตรายแค่ไหนไม่มีใครทราบ หลังจากนี้เขาจะรอดชีวิตหรือไม่ก็ไม่มีใครรู้
ฟู่!
เลือดสาดกระจาย ฉู่ชวิ๋นถลกผิวหนังของมือข้างซ้ายออกมา จนเห็นกระดูกสีขาว มัดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่อยู่ด้านใน หน้าผากของฉู่ชวิ๋นมีเม็ดเหงื่อผุดพราว ดวงตาเป็นสีแดงก่ำ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ตัวคนสั่นระริกอย่างรุนแรง เขาถลกผิวหนังของมือข้างซ้าย ซึ่งมีเส้นประสาทเชื่อมต่อไปถึงหัวใจ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจึงกินลึกลงไปถึงกระดูกดำ ขั้นตอนต่อมา คือ การถอดกระดูกนิ้วมือของตนเอง มือขวาของฉู่ชวิ๋นสั่นเทา แต่ดวงตาของเขาเป็นประกายหนักแน่นมุ่งมั่น ชายหนุ่มถลกผิวหนังของมือข้างซ้ายเรียบร้อยและกำลังจะดึงกระดูกนิ้วโป้งออกมาจากข้อต่อ
“อ๊าก…!”
ฉู่ชวิ๋นส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าที่แสนหล่อเหลาบิดเบี้ยว หน้าผาก ขมับ และลำคอมีเส้นเลือดปูดโปน ร่างกายของเขาชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อเหมือนกับคนที่เพิ่งตกน้ำ
ขวับ!
“อ๊าก…!” ฉู่ชวิ๋นทำได้เพียงแค่กัดฟันและคำรามออกมา ร่างของเขาสั่นเทาตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยเส้นเลือด และในที่สุด เขาก็ดึงกระดูกนิ้วโป้งออกมาได้สำเร็จ!!!