บทที่ 284 ตัวปลอมอีกครั้ง
จั้งจินกัง ประมุข ประตูพระพุทธเจ้า จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 7 มีวิทยายุทธอันแกร่งกล้า แทบจะไร้คู่ต่อสู้ในขั้นเดียวกัน
แต่คนที่ทรงพลังถึงขนาดนี้กลับโดนฉู่ชวิ๋นทุบตีจนพิการ
พวกหลี่คุนรู้สึกเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง ในใจยิ่งอกสั่นขวัญผวาไปใหญ่
แต่พวกเขาไม่ได้กลัวถึงขั้นอยากจะหันหลังหนี ที่จั้งจินกังกลายเป็นแบบนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะอวดเบ่ง ยังไม่ทันจะได้ออกลายแสดงให้เห็นถึงวิทยายุทธด้วยซ้ำ
“จอมมารฉู่ ฝีมือดีนี่” หลี่คุนไม่งกคำชมเชยต่อผู้แข็งแกร่ง
ความแข็งแกร่งของเนื้อกายฉู่ชวิ๋นหาได้ยากจริง ๆ
“นายอยากลองไหมละ” ฉู่ชวิ๋นถามกลับ
“จอมมารฉู่ ฉันไม่ใช่จั้งจินกัง แกหลอกฉันไม่ได้หรอกนะ” หลี่คุนหัวเราะอย่างเย็นชา ความหมายก็คือฉันไม่โง่สู้ตัวต่อตัวกับแกหรอก
หลงเฟยหยาง วั่นเสวียน ฉุยเทียนโย่วก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน เพียงแค่ก้าวเดียวก็ทำให้อากาศรอบ ๆ เงียบงัน
เยวี่ยฟ๋านเตี๋ยมีแววตาหนักใจ แม้เขาจะใกล้ทะลวงไปสู่ขั้น 8 แล้ว แต่หากจะเอาชนะ 1 ในนั้นเกรงว่าจะต้องประมือกันเป็นร้อยเป็นพันกระบวนท่า ถึงจะรู้ผลหากทั้ง 4 คนลงมือพร้อมกัน มีแต่ความตายเท่านั้นนี่รออยู่
“จอมมารฉู่ แกมีความแค้นกับประตูวิญญาณสลายของฉันมาอย่างนาน ให้มันจบลงในวันนี้เถอะ” หลี่คุนมองฉู่ชวิ๋นอย่างเยือกเย็น เขาเลื่อนสายตาไปที่เยวี่ยฟ๋านเตี๋ย “เจ้าวังเยวี่ย จริง ๆ แกน่าจะได้มีชีวิตอย่างสุขสบายจนตาย แต่ดันไปผูกมิตรกับจอมมารฉู่ รนหาที่ตายจริง ๆ โทษคนอื่นไม่ได้นะ”
เยวี่ยฟ๋านเตี๋ยหัวเราะออกมาและพูดเสียดสี
“ไม่ผูกมิตรกับน้องฉู่ จะให้ผูกมิตรกับคนปากอย่างใจอย่างเหมือนแกรึไง”
นัยน์ตาหลี่คุนเป็นประกายเยือกเย็นและหัวเราะอย่างน่ากลัว
“หวังว่าตอนแกตายจะยังพูดจามีคุณธรรมแบบนี้ได้อยู่นะ”
“ทุกท่าน พวกเราร่วมมือกันสังหารจอมมารฉู่เพื่อเป็นการตักเตือนใต้หล้ากันเถอะ” หลี่คุนเอ่ยขึ้น
“ฆ่า” คำว่าฆ่ากลายเป็นระเบิดที่สะท้อนไปทั่วทั้งหุบเขา
หลี่คุนและหลงเฟยหยางร่วมมือกันพุ่งไปหาฉู่ชวิ๋น
ส่วนวั่นเสวียนและฉุยเทียนโย่วพุ่งไปหาเยวี่ยฟ๋านเตี๋ย
“พี่ใหญ่ ระวังตัวด้วย” ฉู่ชวิ๋นพูดยังไม่ทันจะขาดคำก็กำหมัดและพุ่งเข้าไปรับด้วยท่าทีอันทรงพลัง
ตู้มม
ลมปราณจากหมัดพัดโหม ไอสีม่วงถล่มทลายออกมา ทั้ง 3 คนเข้าสู้กัน
เยวี่ยฟ๋านเตี๋ยเองก็เข้าประมือกับอีก 2 คนเช่นกัน
ทันใดนั้น ลมปราณในร่างก็เคลื่อนไหวรุนแรง หมัดและฝ่ามือรวมเข้าด้วยกันปะทะกันจนเกิดเป็นการระเบิดอันน่าตกใจไปทั้งปฐพี จนหุบเขาสั่นไหวไม่หยุด
“จอมมารฉู่ วันนี้ฉันจะเด็ดหัวแกออกมาเพื่อตักเตือนใต้หล้า ว่าการเป็นศัตรูกับประตูวิญญาณสลายเท่ากับรนหาที่ตาย”
หลี่คุนรวมพลังเป็นฝ่ามือมโหฬารอันน่าตะลึงและฟาดไปที่หัวของฉู่ชวิ๋น
อย่างโอหัง
ลมปราณหมัดของฉู่ชวิ๋นพัดโหมก่อนที่เขาจะปล่อยหมัดออกไปกระแทกฝ่ามือมโหฬารจนแตกกระจายและปล่อยอีกหมัดออกไปอย่างแรง
หลงเฟยหยางฉวยโอกาสนี้ฟาดแส้เส้นหนาไปที่เอวของฉู่ชวิ๋นด้วยแรงอันน่าสยอง จนแม้แต่อากาศยังส่งเสียงกู่ร้อง
ฉู่ชวิ๋นหันหลังและโต้กลับด้วยแส้เช่นกัน ทั้งเร็วและแรง ลมปราณอันน่าสะพรึงหลั่งไหลออกมาตามหลังเสียงดังตู้ม
ฉู่ชวิ๋นปล่อย 2 หมัดรัว ๆ หมัดของเขาเป็นประกายในขณะที่กระหน่ำใส่หลงเฟยหยาง
หลงเฟยหยางยกมือขึ้น มีลมปราณมากมายหลั่งไหลออกมาเรื่อย ๆ เพื่อทลายพลังหมัดของฉู่ชวิ๋น แต่เขาเองก็กระเทือนเด็นออกไปไกลหลายร้อยเมตร
ฉู่ชวิ๋นหันตัวกลับพุ่งเข้าใส่หลี่คุน พร้อมปล่อยหมัดสะท้านฟ้าจนหลี่คุนถอยหลังรูด จู่ ๆ ฉู่ชวิ๋นก็อ้าปากและมีแสงสีม่วงพ่นออกจากปาก กระแทกเข้ากลางหน้าอกของหลี่คุนจนทำให้เขากระเด็นออกไปทันที
หลงเฟยหยางตกตะลึง ไม่คิดว่าการโจมตีของฉู่ชวิ๋นจะเหลือเชื่อขนาดนี้ ตัวเขากระโจนออกไปพลางยกมือขึ้นสร้างมังกรลมปราณขึ้นมา และพุ่งเข้าคำรามใส่ฉู่ชวิ๋นด้วยท่าทางสะท้านฟ้า
อวัยวะทั่วร่างของฉู่ชวิ๋นมีแสงบาง ๆ พ่นออกมา เขาปล่อยหมัดออกไป
มีเสียงคำรามมังกรดังขึ้นตามเป็นระยะ มังกรสีม่วงตัวหนึ่งโบยบินออกมาด้วยท่าทางกางกรงเล็บและทลายการโจมตีของหลงเฟยหยางทันทีก่อนจะพุ่งไปหาเขา
หลงเฟยหยางเอี๊ยวตัวหลบ เงามังกรกระแทกโดนผาหินด้านหลังจนระเบิดออกเป็นรูใหญ่น่ากลัว
หลี่คุนเห็นท่าไม่ดีจึงฝืนทนความแน่นหน้าอกเอาไว้ กระบวนท่าเมื่อกี้ที่
ฉู่ชวิ๋นพ่นแสงออกจากปากทำให้เขาแทบกระอักเลือด น่ากลัวจริง ๆ แต่เขาเองก็ไม่ใช่พวกกากเดน 2 มือสะบัดไสว มีเงาเหมือนตั๊กแตนสูงหลายเมตรปรากฏด้านหลัง ในขณะที่เขายกมือขึ้น เงาเหมือนตั๊กแตนก็ยกมีดขึ้นเช่นกันก่อนจะฟาดฉับลงมา
ฉับ
ลมปราณมีดอันน่ากลัวถาโถมออกมา แม้พื้นดินยังถูกฟันให้แยกออก
ฉู่ชวิ๋นหัวเราะเบา ๆ พลางยกมือปล่อยแสงม่วงออกไปกระเทือนจนคมมีด ลมปราณจนแตกกระจาย
การต่อสู้ของเยวี่ยฟ๋านเตี๋ยและอีก 2 คนก็สั่นสะเทือนฟ้าดินเช่นกัน เคล็ดวิชาต่าง ๆ ถูกปล่อยออกมาจนหมด เกิดการระเบิดเกิดขึ้นไม่หยุด
วิทยายุทธของวั่นเสวียนและฉุยเทียนโย่วห่างจากเยวี่ยฟ๋านเตี๋ยเพียงขั้นเดียวเท่านั้น ทั้ง 2 คนร่วมมือกันสู้จนเยวี่ยฟ๋านเตี๋ยถอยหลังไปเรื่อย ๆ
ฉู่ชวิ๋นกระโจนร่างออกไปไวปานสายฟ้าประชิดตัววั่นเสวียน ก่อนจะปล่อยหมัดออกไปจนเกิดเป็นคลื่นอากาศ
วั่นเสวียนตะลึง ไม่คิดว่าหลี่คุนกับหลงเฟยหยางร่วมมือกันยังทำอะไร
ฉู่ชวิ๋นไม่ได้ จึงรีบปัดป้อง
บึ้ม
หินรอบ ๆ ถูกแรงดันจนแตกกระจายออกทั้งหมด วั่นเสวียนโดนโจมตีเข้าจนถอยหลังไปหลายพันเมตรด้วยสายตาผวา แรงหมัดของฉู่ชวิ๋นน่ากลัวเกินไปแล้ว
“พี่ฉุย พี่ยื้อไอ้แก่นั้นไว้ก่อน เดี๋ยวพวกเรา 3 คนร่วมมือกันปลิดชีพจอมมารฉู่ได้แล้วค่อยไปช่วยพี่” หลี่คุนตะโกนออกมา
“วางใจได้ ไอ้แก่นี่ฉันจัดการเอง” ฉุยเทียนโย่วตอบ
“แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงกล้ามาทำตัวอวดเบ่งต่อหน้าฉัน” เยวี่ยฟ๋านเตี๋ยโมโหมาก หาก 2 คนร่วมมือกันเขาตั้งรับด้วยความตึงมืออยู่ แต่แค่
ฉุยเทียนโย่วคนเดียวจะขวางเขาได้ยังไง เขาจึงปล่อยลมปราณเข้าชนกับฉุยเทียนโย่ว สะเทือนจนเขาถอยหลังกรูด
“พวกเราลงมือพร้อมกัน” หลี่คุนตะโกนลั่น ยกมือพลางปล่อยลมปราณมากมายพุ่งเข้าใส่ฉู่ชวิ๋น
วั่นเสวียนและหลงเฟยหยางก็ไม่รอช้า แสดงวิทยายุทธของจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 7 ออกมาจนสะเทือนฟ้าดิน ลมปราณหลั่งไหลออกมาดั่งสายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้หรือหินที่สัมผัสโดนล้วนกลายเป็นผุยผงหมด
“อย่างพวกแกน่ะเหรอ” ฉู่ชวิ๋นหัวเราะเย็น ๆ เสื้อผ้าปลิวไสวทั้งที่ไม่มีลมพัดผ่าน ลมปราณพุ่งขึ้นสูงจนเทียมทัดกับความกดดันที่ทั้ง 3 คนปล่อยออกมา
ฉู่ชวิ๋นประสานมือและจิ้มนิ้วออกไป 3 ที เกิดเป็นพายุอุบัติขึ้นรอบกายจนกลายเป็นพายุสีม่วง 3 สายสูงนับสิบเมตร เสียงลมหวีดร้องราวกับเป็นปีศาจม่วง 3 ตนพุ่งเข้าใส่ 3 คนนั้น
ตู้ม ๆ !
การโจมตีที่ทั้ง 3 คนปล่อยออกไปถูกพายุบั่นจนแหลกลาญไปทั้งหมด ขณะนั้น แสงจากเปลวเพลิงสะท้อนไปทั้งนภา เสียงระเบิดดังสะเทือนอยู่ในหู แผ่นดินแยกออก หุบเขาสั่นไหว
ฉู่ชวิ๋นกระโจนครั้งเดียวก็ไปอยู่ตรงหน้าวั่นเสวียน แรงหมัดถล่มทลายราวสายฟ้าฟาด ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ
ด้านหน้าวั่นเสวียนเกิดเป็นคลื่นอากาศหล่อหลอมจนเป็นเกราะป้องกัน
7 ชั้น
บึ้ม ๆ !
เกิดเสียงระเบิดขึ้นหลายเสียง เกราะป้องกัน 7 ชั้นแหลกด้วยพลังหมัด
ฉู่ชวิ๋น ก่อนที่กำปั้นจะฟาดลงไปที่หน้าออกของวั่นเสวียนอย่างดุดัน !
บึ้ม !
เสื้อผ้าด้านหน้าอกของวั่นเสวียนระเบิดออก กระดูกหน้าออกส่งเสียงร้องเสียดหูก่อนเขาจะกระอักเลือดออกมา ร่างเขาล้มลงไปชนกับกำแพงผาในหุบเขาและทำให้หน้าผาระเบิดอย่างน่ากลัว
ฉู่ชวิ๋นกระโจนร่างไล่ตามไป
หลี่คุนและหลงเฟยหยางเห็นดังนั้น ไม่ทันได้คิดอะไรก็พุ่งไปจากคนละทิศเพื่อขวางฉู่ชวิ๋นไม่ให้ฆ่าวั่นเสวียน
มุมปากของฉู่ชวิ๋นเลิกขึ้นอย่างมีความหมาย ก่อนจะเปลี่ยนทิศพุ่งปราดไปหาหลี่คุน
การเคลื่อนไหวดั่งภูตผี แรงหมัดดั่งสายฟ้า
ตู้ม !
หลี่คุนโดนหมัดเข้าให้ที่คาง หลี่คุนฟันหลุดเลือดกลบปาก ในกองเลือดที่กระอักออกมามีหินลูกประมาณเล็บมือส่งแสงอ่อน ๆ ปนมาด้วย
ฉู่ชวิ๋นสายตาแปลกไปแวบหนึ่งก่อนจะยื่นมือไปหยิบหินเล็กก้อนนั้นมาไว้ในมือ เพียงบีบเบา ๆ หินก็แตกออก และมีกลิ่นเหม็นกระจายออกมา
“ยาเทพมารสมจริง”
ฉู่ชวิ๋นตะลึง ของแบบนี้มาอยู่นี่ได้ยังไง เขาเงยหน้ามองหลี่คุนที่ร่วงลงมาก็ได้เห็นลมปราณรอบกายเขาลดฮวบลง ไม่นานนักก็ตกไปอยู่จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 6
ฉู่ชวิ๋นกระโจนพรวดไปหาฉุยเทียนโย่วที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับ
เยวี่ยฟ๋านเตี๋ยอยู่ ยกมือขึ้นเป็นหมัดอันรุนแรงกระเทือนจนอีกฝ่ายกระอักเลือดและกระเด็นออกไป
ฉู่ชวิ๋นตามไปติด ๆ และฟาดแสงม่วงลงไปที่ท้องของฉุยเทียนโย่วจนอีกฝ่ายกระอักเลือดออกมาอีกอึกใหญ่ ขณะเดียวกันก็มีหินสีดำเล็ก ๆ พุ่งออกมาด้วยเช่นกัน
ฉู่ชวิ๋นยกมือเพื่อดูดมันมาไว้ที่ฝ่ามือ บีบเบา ๆ หินก็แตกออก
แล้วมองไปที่ฉุยเทียนโย่วอีกครั้ง จากจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 7 พลังร่วงลงไปกลายเป็นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 6
“น้องชาย นี่มันเรื่องอะไรกัน” เยวี่ยฟ๋านเตี๋ยก็รู้สึกได้ว่าวิทยายุทธของหลี่คุนและฉุยเทียนโย่วลดฮวบลง
“เป็นผลของยาเม็ดนี้ทั้งนั้น” ฉู่ชวิ๋นเอ่ยขึ้น
เยวี่ยฟ๋านเตี๋ยขมวดคิ้ว ยานี้เหม็นมากจริง ๆ
“นี่คือยาเทพมารสมจริง คนที่กินเข้าไปสามารถเพิ่มพูนวิทยายุทธในเวลาอันสั้นได้” สีหน้าของฉู่ชวิ๋นเยือกเย็น “พวกเราโดนหลอกแล้ว”
เยวี่ยฟ๋านเตี๋ยเข้าใจทันที “นายหมายความว่าพวกเขาไม่ใช่ตัวจริงหรอ”
ฉู่ชวิ๋นพยักหน้า “หลี่คุนเอย หลงเฟยหยางเอย ล้วนเป็นตัวปลอมทั้งนั้น”
“ไอ้สารเลวพวกนี้เจ้าเล่ห์เกินไปแล้วนะ หลอดพวกเราติดต่อกัน 2 ครั้ง” เยวี่ยฟ๋านเตี๋ยโมโห
สายตาฉู่ชวิ๋นเยือกเย็น “พวกเขาให้เราเปิดโปงหลี่คุนตัวปลอมคนแรก แล้วก็มีหลี่คุนอีกคนที่กินยาเทพมารสมจริงออกมา ทำให้วิทยายุทธเทียบเท่ากับหลี่คุนตัวจริง ทำให้เราคิดว่าพวกเขานี่แหละตัวจริง ใครจะไปคิดว่าพวกเขาก็ยังเป็นตัวปลอมอยู่ดี”
“ไอ้พวกระยำ เจ้าเล่ห์เพทุบายจริง ๆ” เยวี่ยฟ๋านเตี๋ยก่นด่า
ฉู่ชวิ๋นมองไปรอบ ๆ “พวกหลี่คุนตัวจริงอยู่ที่ไหน”
“แค่ก ๆ ….” หลี่คุนตัวปลอมมีฟองเลือดอยู่ในปาก “จอมมารฉู่ แกนี่สุดๆ เลยนะ ขนาดนี้แกยังจะดูออกอีก”
“บัดซบ ไอ้พวกระยำ….” เยวี่ยฟ๋านเตี๋ยทนไม่ได้ พุ่งไปเตะหลี่คุนตัวปลอมจนกลิ้งไปรอบ ๆ
“แม้พวกแกจะไม่ใช่ตัวจริง แต่ก็คงเป็นยอดฝีมือระดับสูงในสำนักตัวเองสินะ ถึงจะฆ่าตัวจริงไม่ได้ แต่ฆ่าพวกแกก็พอจะทำให้พวกมันเจ็บใจไปพักใหญ่เลยล่ะ” จิตสังหารของฉู่ชวิ๋นพุ่งแรง
เขาเองก็โดนหลอกจนทำอะไรไม่ได้ คนพวกนี้เจ้าเล่ห์เกินไป เกินใครจะเปรียบจริง ๆ เป็นจักรพรรดิเซียนฝึกวิชามา 3000 ปียังไม่เคยโดนปั่นหัวขนาดนี้มาก่อนถือว่าเขาเสียหน้ามากจริง ๆ
พรึ่บ
จู่ ๆ หลงเฟยหยางก็หนีไปทางปากทางหุบเขา รวดเร็วปานสายฟ้า
พวกเขามากัน 5 คน ตอนนี้บาดเจ็บหนักไป 4 คน เขาไม่หนีก็ต้องตายอย่างเดียว
“จะไปไหน” เยวี่ยฟ๋านเตี๋ยจะตามไปแต่ฉู่ชวิ๋นขวางเอาไว้ เขาประสานอิน ด้วยมือข้างเดียวก่อนจะจิ้มไปที่อากาศจากนั้นคลื่นพลังก็ปรากฏ
ตู้ม !
อากาศสั่นสะเทือน แสงเจิดจรัสมากมายพุ่งขึ้นฟ้ากลายเป็นเขตแดนปกคลุมหุบเขานี้ไว้
หลงเฟยหยางรวดเร็วมากก็จริงแต่ยังเร็วไม่พอ เมื่อม่านแสงโผล่ขึ้นอย่างกระทันหันเขาก็พุ่งชนอย่างจังจนกระเด็นกลับมา กระเทือนจนชาไปทั้งตัว
เขาลนลานนิดหน่อย ก่อนจะยกมือปล่อยโซ่ลมปราณใส่ม่านแสง แต่ที่เขาตะลึงคือโซ่ลมปราณของเขาสะท้อนกลับมา หากไม่ใช่เพราะเขาหลบเร็วคงจะบาดเจ็บด้วยการโจมตีของตัวเอง
เยวี่ยฟ๋านเตี๋ยตาค้างด้วยความตะลึงพลางพึมพำ “ได้ยินมานานแล้วว่าค่ายกลของน้องชายไร้คู่เปรียบ ถือว่าวันนี้มีบุญที่ได้เห็น”
“เดิมทีค่ายกลเก้ามังกรเพลิงสุริยันนี้ก็เตรียมไว้ให้พวกหลี่คุนนี่แหละ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ฆ่าได้แค่พวกตัวปลอม” ฉู่ชวิ๋นพูดอย่างหมดหนทาง
“ไม่เป็นไร วันหน้ายังมีโอกาสอีกเยอะ” เยวี่ยฟ๋านเตี๋ยเองก็เซ็งเหมือนกัน ตรากตรำมาตั้งนาน สุดท้ายก็ไม่บรรลุเป้าหมาย เขาก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองเช่นกัน
เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว
นัยน์ตาฉู่ชวิ๋นเป็นประกายดุร้าย เขาประสานอืนและตะโกนออกมา
“ขึ้น ! ”
ตู้ม !
มังกรเพลิงนับพันตัวโผล่ขึ้นจากพื้นดินสู่แผ่นฟ้า ทำให้อากาศยังต้องบิดเบี้ยว