ตี้คังหรี่ตาลงเล็กน้อย ขณะย่างเท้าเข้าหาไป๋หยานสองสามก้าว
ทันใดนั้นเองบรรยากาศโดยรอบก็เริ่มหนักอึ้ง ไป๋หยานรู้สึกราวกับว่านางกำลังจะหายใจไม่ออกจากแรงกดดันรอบตัว
“เขาเป็นบุตรชายของข้า แน่นอนว่าเขาต้องไปกับข้า !” ชายผู้นี้ดูภาคภูมิใจขณะที่กล่าวคำ “ส่วนเจ้า … คิดหรือว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ หลังจากที่ทำกับข้าถึงเพียงนี้ ?”
อย่างไรเสียตลอดชาตินี้ ข้าก็ไม่มีวันยอมปล่อยมือ !
แววตาของไป๋หยาน ค่อย ๆ เปลี่ยนไป “ท่านพยายามที่จะผลักเราแม่ลูกให้จนมุมใช่หรือไม่ ?..เช่นนั้น…ข้า…ไป๋หยานยอมเป็นหยกที่แหลกราญ ไม่ขอเป็นกระเบื้องที่สมบูรณ์ (ยอมตายไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี) ! ข้ายอมตายเสียดีกว่าไปกับท่าน !”
ถ้อยคำของหญิงสาวเปรียบเหมือนกำปั้น ทุบหัวใจของตี้คังอย่างรุนแรง
“ข้าผิดปกติที่ตรงไหน ? เหตุใดเจ้าจึงปฏิเสธข้าทุกทาง ?”
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยรู้สึกตกต่ำถึงเพียงนี้ ถ้อยคำของนางเหมือนจ้วงแทงเขาอย่างไร้ปรานี !
“ตี้คัง” ริมฝีปากของไป๋หยานโค้งขึ้นก่อให้เกิดรอยยิ้ม “เช่นนั้น ข้าขอถามท่าน ท่านรักข้าหรือไม่ ?”
“รัก.. ?”
ตี้คังค่อนข้างสับสน
ประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ของเขาเรียกได้ว่าเป็นศูนย์ แม้กระทั่งครั้งแรกของเขา ในครานั้นไป๋หยานก็เป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด ….
แล้วตอนนี้หญิงสาวผู้นี้ก็ถามเขาอีกเป็นครั้งที่สองด้วยคำถามเดียวกัน
“หัวใจของท่านไม่มีข้าอยู่ และหัวใจของข้าก็ไม่มีท่านเช่นกัน ก็แล้วเหตุใดท่านถึงยืนยันที่จะบังคับให้ข้าไปกับท่าน ? เพียงเพราะข้าให้กำเนิดบุตรชายให้ท่านงั้นหรือ ?” ไป๋หยานยิ้ม “ทว่า ยังมีสตรีอีกมากมายในโลกนี้ที่พร้อมเต็มใจจะมีบุตรให้แก่ท่าน และข้าก็จะไม่ยอมพลีกายให้กับบุรุษที่ไม่ได้รักข้า “
“ไม่…ในโลกนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถมอบบุตรให้ข้าได้ !“
นี่คือคำทำนายที่ปรากฏในอาณาจักรอสูร และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เขามาเหยียบเยือนโลกมนุษย์นี้ … กระทั่งพบกับนางตั้งแต่วันแรก
“ไป๋หยาน !”
ครั้นเห็นไป๋หยานดึงตัวไป๋เสี่ยวเฉินตั้งท่าเตรียมหนี ตี้คังก็รีบส่งเสียงร้องเรียกออกมาดัง ๆ ทำให้นางต้องหยุดชะงัก
ไป๋หยานจับตัวบุตรชายของตนเองแน่น ด้วยเกรงว่าชายหนุ่มอาจจะพรากตัวเด็กน้อยไป !
“ข้าจะให้เวลาเจ้า จะยังไม่พาเขาไปในเวลานี้ แต่ … ” ทันใดนั้นเอง ชายหนุ่มก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้านางอย่างกระชั้นชิด ร่างสูงสง่าของเขาปิดกั้นเส้นทางหนีของนางจนสิ้น “เจ้าขืนใจข้า ลักพาตัวบุตรชายข้า เรามาคิดบัญชีกันดีหรือไม่ ? ฮืม ?”
ทันทีที่จบประโยค แรงกดดันก็เพิ่มสูงขึ้น กระทั่งบรรยากาศโดยรอบเปลี่ยนเป็นหนาวเหน็บ
“แล้วท่านต้องการสิ่งใด ?” ขณะเอ่ยถาม ไป๋หยานก็เผลอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
นัยน์ตาเรียวคมของตี้คังหรี่ลง เขากล่าวพร้อมรอยยิ้มที่แลดูอันตราย “แน่นอนว่า ข้าจะขืนใจเจ้ากลับ !”
นับเป็นครั้งแรกที่ไป๋หยานเจอคนกล่าวตรง ๆ ไม่อ้อมค้อมเช่นนี้ แต่ก่อนที่นางจะทันคัดค้านใด ๆ ตี้คังก็ยกมือขึ้นโอบเอวนางจากนั้นทั้งคู่ก็หายตัวไปจากลานบ้านแล้ว
ทิ้งไป๋เสี่ยวเฉินไว้ที่นั่นแต่เพียงลำพัง
อีกนานพอควรกว่าเด็กชายจะรู้สึกตัว ครั้นรู้สึกตัวเขาก็อยากจะร้องไห้
เกิดอะไรขึ้น ไหนว่าจะมาลักตัวข้า ?
แล้วทำไมสุดท้ายกลับลักหม่ามี้ไปแทนที่จะเป็นข้า ?
“นายน้อย … ”
เสียงอ่อนล้าของเสี่ยวมี่ลอยมาจากอีกด้านหนึ่ง
“เสี่ยวมี่ เมื่อครู่นี้เจ้าหายไปไหนมา” เด็กชายเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ
“เอ่อ … ”
เสี่ยวมี่ไม่รู้จะตอบยังไง
เขาจะบอกนายน้อยได้อย่างไรว่า เขาอยู่ในอ้อมแขนของนายหญิงดี ๆ แต่กลับถูกบิดาของนายน้อยโยนไปไกลกว่าร้อยจั้ง กว่าจะกลับมาถึงที่นี่ได้ เขาต้องคลานมาด้วยความยากลำบาก !
ทว่าเรื่องน่าละอายเช่นนี้ เสี่ยวมี่จะไม่พูด
“เอ่อ…ข้าออกไปหากำลังเสริม” มันแก้ตัวแบบขอไปที
“เช่นนั้นกำลังเสริมอยู่ที่ไหน ?”
“เอ่อ … ระหว่างทางข้าเกิดนึกเป็นห่วงนายน้อย ข้าเลยวกกลับมา ว่าแต่นายหญิงกับผู้ชายหน้าตาน่ากลัวคนนั้นไปไหนกันแล้ว ?”
เมื่อกลับมาพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง สีหน้าของไป๋เสี่ยวเฉินก็หดหู่ลงทันที “คนเลวคนนั้น ลักพาตัวหม่ามี้ไป และทิ้งข้าไว้ลำพัง“
***จบบท ท่านรักข้าหรือไม่ ?***