การขโมยสูตรยาเม็ดจิตวิญญาณนั้นเป็นมติร่วมกันของพวกเขาทั้งสามคน แม้แต่กระบวนการกลั่นยาก็กระทำร่วมกัน ทว่าตอนนี้ดูคนทรยศไร้ยางอายทั้งสองนี่สิ พยายามปัดความรับผิดชอบลงบนหัวเขาแต่เพียงผู้เดียว !
“ศิษย์รัก ขอให้ข้าอธิบายก่อน” ฉิวชู่หรง (อาจารย์สาม) ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน ขณะที่กวัดแกว่งแขนไปหน้ามาหลังราวกับเด็กน้อย ด้วยไม่รู้ว่าจะวางแขนของตนไว้ที่ใด “ข้าทำไปเพราะความอยากรู้อยากเห็น เพียงคิดจะขอยืมมันซักหน่อยแล้วค่อยคืนภายหลังจากทดลองเสร็จ”
“รอจนท่านทดลองสร้างยาเม็ดจิตวิญญาณสำเร็จกระนั้นรึ ? หากเป็นเช่นนั้นเกาะนี้คงจะหายไปทั้งเกาะ ก่อนที่ท่านจะประสบความสำเร็จกระมัง ?”สีหน้าของไป๋หยานยิ่งแลดูน่ากลัวมากขึ้น “แล้วเรื่องที่ท่านทำลายสวนสมุนไพรของข้าล่ะ เรามาคำนวณค่าเสียหายกันก่อนดีหรือไม่ ?”
อาศัยช่วงเวลาที่ ฉิวชู่หรง (อาจารย์สาม) เผลอ เจิ้งฉี (อาจารย์ใหญ่) และเหรินอี้ (อาจารย์รอง) ก็แอบส่งสัญญาณให้กันอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่กระโจนเข้าโจมตีน้องชายของตน คนหนึ่งจับไหล่ฉิวชู่หรงไว้แน่น ขณะที่อีกคนหนึ่งใช้ความว่องไวของตนฉกถุงเก็บของพิเศษจากเอวของฉิวชู่หรง
“ศิษย์รัก เมื่อกระทำผิด คนเราย่อมต้องรู้จักรับผิดชอบ ถุง ๆ นี้เป็นสมบัติที่อาจารย์สามของเจ้าสะสมมาทั้งชีวิต ข้าขอใช้มันเพื่อชดเชยค่าเสียหายให้แก่เจ้า”
ใบหน้าเหี่ยว ๆ ของฉิวชู่หรงมืดมนลงทันที เขาคำรามอย่างโกรธแค้นใส่พี่ ๆ ของตน “เจิ้งฉี, เหรินอี้ เจ้าคนทรยศ !”
เจิ้งฉี (อาจารย์ใหญ่) ตอบกลับ โดบการตบบ่าน้องชายของตน พร้อมกล่าวว่า “เจ้าสาม…อย่างไรเสียพวกเราก็มีศิษย์เพียงแค่คนเดียว ไม่ว่าจะตอนนี้หรือในกาลข้างหน้า ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเราท้ายที่สุดก็ต้องตกเป็นของนาง ข้าพูดถูกหรือไม่ล่ะ ?”
ที่เขากล่าวมานั้นก็ไม่ผิด
แต่ทว่า…
ฉิวชู่หรงพยายามควบคุมหัวใจที่เจ็บแทบกระอักเลือดของตน เขาจ้องมองพี่ชายทั้งสองของตนด้วยสายตาไร้เยื่อใย “เช่นนั้นก็แล้วเหตุใดพวกเจ้าไม่นำถุงเก็บสมบัติของพวกเจ้าออกมาแทนล่ะ ?”
“โฮะ ๆ คนทำผิดก็คือเจ้า เช่นนั้นผู้ที่จะต้องชดใช้ย่อมต้องเป็นเจ้า” เหรินอี้ (อาจารย์รอง) กล่าวราวกับเรื่องที่เขาพูดคือเรื่องถูกต้องอย่างไร้ยางอาย
ไป๋หยาน ไม่สนใจการทะเลาะวิวาทระหว่างชายชราทั้งสาม นางใช้พลังวิญญาณของตนตรวจสอบของในถุง และแล้วนางก็ต้องประหลาดใจ เนื่องเพราะภายในถุงล้วนเป็นสมุนไพรล้ำค่าคุณภาพสูง ที่ต่อให้มีเงินก็ใช่ว่าจะหาซื้อได้หากอยู่ในโลกภายนอก !
นั่นทำให้ใบหน้าของนางผ่อนคลายลง นางยิ้ม “เพื่อเห็นแก่ความจริงใจ และมูลค่าสิ่งของที่ท่านนำมาชดเชย เช่นนั้นท่านก็เก็บสูตรนั่นไว้เถอะ แล้วข้าจะมอบวิธีกลั่นยาให้พวกท่านด้วย”
หลังจากไป๋หยานกล่าวจบประโยค ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของฉิวชู่หรงก็สว่างไสวขึ้นมาทันที กระทั่งกลายเป็นใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส นัยน์ตาที่อ่อนล้าของเขาทอประกาย
“ศิษย์รัก เจ้าคงไม่ได้หลอกอาจารย์ใช่หรือไม่ ? นี่เจ้าเต็มใจสอนพวกเราจริง ๆ เหรอ ?”
“ทว่า ข้าจำต้องจากที่นี่ไปสักพัก เช่นนั้นการสอนของข้าคงจะต้องรอจนกว่าข้าจะกลับมา” ความเย็นเยือกแผ่กระจายออกจากดวงตาของนาง
หกปีแล้ว …
ผ่านมาหกปีแล้วนับจากนางออกจากบ้าน และปล่อยให้คนพวกนั้นอยู่อย่างสงบสุขมาถึงหกปี ครานี้นางตั้งใจจะทวงคืนความเจ็บช้ำที่คนเหล่านั้นเคยทำร้ายนาง !
สายตาของผู้เฒ่าทั้งสามเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ พวกเขาทุกคนต่างก็รู้เรื่องราวในอดีตของศิษย์รัก หลังจากที่ใช้เวลาอยู่กับนางมานาน
ฉิวชู่หรง กล่าวขึ้นเป็นคนแรกหลังจากครุ่นคิดในสิ่งที่เขาได้ยินมา “ข้าได้ยินมาว่า ห้าปีที่แล้ว ชายาขององค์ชายรองให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง และสิงสาราสัตว์ทั้งหลายต่างก็คุกเข่าลงเพื่อคำนับเด็กคนนั้น เล่าลือกันว่านั่นทำให้องค์ชายรองได้ขึ้นเป็นองค์รัชทายาท และตอนนี้สตรีผู้นั้นก็กลายเป็นชายาขององค์รัชทายาทแล้ว”
“ศิษย์รักของข้า มิใช่ว่าอาจารย์ของเจ้าจะไม่ไว้ใจในความสามารถของเจ้า ทว่าพวกบ้านสกุลไป๋นั้นช่างไร้ยางอายเสียเหลือเกิน ข้าเกรงว่าพวกเขาจะทำให้เจ้าสะอิดสะเอียนกับพฤติกรรมของพวกเขาเสียมากกว่า” เหรินอี้ (อาจารย์รอง) นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อว่า “เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ ? ข้าจะส่งคนไปพร้อมกับเจ้า หากมีผู้ใดกล้ากลั่นแกล้งเจ้า ก็ให้คนของเราสังหารคนเหล่านั้นเสีย ! มีพวกเราคอยให้การสนับสนุนเจ้าอยู่เบื้องหลัง เจ้าก็สามารถท่องไปทั่วอาณาจักรโดยไม่ต้องกังวล !”
***จบบท ชายหนุ่มรูปงามปานภาพวาด (1)***