ฝูงชนต่างถอนหายใจด้วยความเศร้า
ช่างเป็นเด็กที่น่ารักน่าชังอะไรเช่นนี้ ชาวบ้านบางคนถึงกับอดเป็นห่วงเด็กน้อยไม่ได้ ! ต่อให้มารดาของเขาทำสิ่งใดผิดไป ทว่าอย่างไรเสียเด็กก็คือผู้บริสุทธิ์
โดยเฉพาะคำเรียกขานที่ว่า ‘ท่านน้า ท่านลุง และท่านป้า’ นั้น ช่างอ่อนหวานไพเราะ สะเทือนหัวใจพวกเขายิ่งนัก ผู้ใดจะทนเห็นเด็กน้อยต้องได้รับอันตรายได้
“นอกจากนี้…” ไป๋เสี่ยวเฉินยิ้มอย่างซุกซน “เฉินเอ๋อไม่กลัวนางหรอก เพราะเฉินเอ๋อมีป๊ะป๋า กับหม่ามี้คอยสนับสนุนอยู่”
ชั่วอึดใจนั้นฝูงชนที่รู้สึกเศร้าอยู่เมื่อครู่ ก็มีปฏิกิริยาทันที
จริงสิ ! ตี้คังประกาศต่อสาธารณชนแล้วว่า ไป๋หยานเป็นผู้หญิงของเขา หากเป็นเช่นนั้น ย่อมแสดงว่าเด็กน้อยผู้นี้ก็อาจเป็นโอรสของเขาใช่หรือไม่ ?
หากหยูฮูหยินผู้เฒ่าคิดจะทำอันตรายโอรสของอ๋องคัง นางก็คงต้องกินดีหมีหัวใจเสือมาเป็นแน่
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผู้คนต่างมองเด็กน้อยด้วยสายตาเอ็นดู หยูฮูหยินผู้เฒ่ากลับไม่สนใจสิ่งใด นางรู้ดีว่าไป๋รั่ววางยาไป๋หยาน อีกทั้งไป๋รั่วยังเตรียมผู้ชายเพื่อให้ไป๋หยานได้ปลดปล่อยฤทธิ์ยาแล้ว เช่นนั้นอ๋องคังจะเป็นบิดาของเด็กสกปรกนี่ได้อย่างไร ?
“พวกเจ้า พาเขากลับไปพร้อมกับเรา !” นางตะโกนสั่งอย่างไม่ลังเล
ไป๋เสี่ยวเฉินไม่แม้แต่จะมองยายเฒ่าไร้ยางอาย เขายังคงกล่าวกับฝูงชนต่อไปว่า “ท่านน้า ท่านลุง ท่านป้า อีกไม่ช้าหม่ามี้ที่รักของข้าคงจะมาตามหาข้า โปรดแจ้งแก่นางด้วยว่า ข้าจะอยู่ที่บ้านสกุลไป๋สักหนึ่งคืนแล้วจึงจะกลับในเช้าวันพรุ่งนี้”
เขาไม่มีแผนที่จะพักในบ้านสกุลไป๋นานนัก เพราะคงไม่เป็นการดี หากคนเหล่านั้นเกิดตายด้วยเหตุที่เขาเล่นหนักเกินไป
หลังจากทิ้งคำวอนนี้ไว้ให้ผู้ยืนมุงแล้ว ไป๋เซียวก็เดินจูงมือไป๋เสี่ยวเฉินไปตามเส้นทางมุ่งสู่บ้านสกุลไป๋
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเสี่ยวมี่นั่งนิ่งอยู่บนไหล่ของไป๋เซียวเงียบ ๆ ดวงตาเสือน้อยมองไปที่ยายเฒ่าด้วยความสงสาร เพราะเขาเองก็คาดเดาไม่ได้ว่าคนพวกนี้จะโดนเล่นงานหนักเพียงใด
มันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเหตุใดยายแม่มดแก่นี่ถึงคิดอะไรเช่นนี้ออกมาได้ ? รึว่าชีวิตของนางเรียบง่ายสุขสบายจนเกินไป จึงอยากเชื้อเชิญพ่อทูนหัวน้อยคนนี้เข้าบ้าน ?
*****
ครั้นไป๋หยานมาถึงที่เกิดเหตุ ไป๋เสี่ยวเฉินก็จากไปแล้ว นางหรี่ตาลงเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำบอกกล่าวของคนรอบข้าง
“คุณหนูไป๋ บุตรชายของเจ้าถูกหยูฮูหยินผู้เฒ่าพาตัวไปแล้ว เจ้าควรรีบพาเขากลับมา หาไม่แล้วเขาอาจจะโดนรังแกได้”
คนในฝูงชนผู้หนึ่งกล่าวขึ้นอย่างใจดี
ไป๋หยานยิ้ม เอ่ยตอบเบา ๆ ว่า “ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณ”
หากบุตรชายของนางไม่เต็มใจย่อมไม่มีผู้ใดบังคับเขาได้ นางคิดว่า เด็กน้อยคงเบื่อหน่ายการเที่ยวเล่นในเมืองหลิวฮั่วนี่แล้ว เช่นนั้น เลยไปหาเรื่องสนุกที่บ้านสกุลไป๋ !
หากเขาอยากสนุก ก็ควรให้เขาสนุกให้พอว่ามั้ย ?
อีกอย่างบ้านสกุลไป๋เป็นผู้พาตัวเฉินเอ๋อไปเอง หากเกิดอะไรขึ้นจะโทษผู้ใดได้ ?
หยุดไฟไม่ให้มีควันไม่ได้ฉันใด ก็หยุดข่าวลือไม่ได้ฉันนั้น ในที่สุดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็ล่วงรู้ไปถึงหูของตี้คัง
ครั้นเขาได้ยินว่าหยูฮูหยินผู้เฒ่าดูถูกบุตรชายของเขา เรียกลูกของเขาว่าเป็นลูกนอกคอก ใบหน้าของตี้คังก็บึ้งตึงขึ้นทันที “ออกคำสั่งไปยังกรมราชทัณฑ์ให้เพิ่มบทลงโทษไป๋จื่อ และหากพวกเขาถามถึงเหตุผล…ก็ให้บอกไปว่า เป็นเพราะบ้านสกุลไป๋พูดในสิ่งที่ไม่สมควรพูด”
“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง“
ทหารองครักษ์กล่าวอย่างนอบน้อม “แล้วเด็กน้อยคนนั้น … “
ทหารยังไม่เข้าใจว่า เหตุใดนายของเขาจึงปฏิบัติต่อบุตรชายของไป๋หยานเป็นพิเศษ เพียงเพื่อเอาใจหญิงผู้นั้นงั้นหรือ ?
“พวกเขาอยากพาจิ้งจอกเข้าบ้านเอง ก็ช่วยไม่ได้ !“
พาจิ้งจอกเข้าบ้าน ? ท่านอ๋องหมายถึงอะไร ?
“ข้าไม่กังวลเรื่องเฉินเอ๋อ อย่างไรเสียเขาก็ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ แน่“
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะยอมให้ผู้ใดมารังแกบุตรชายของเขา …
“พ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์ป้องมือก่อนจะถอยออกไป
เมื่ออยู่เพียงลำพังอีกครั้ง ตี้คังก็มองไปที่ทะเลสาบเบื้องหน้าด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ทว่าริมฝีปากของเขากลับยกโค้งปรากฏรอยยิ้มที่น่ากลัว
“บ้านสกุลไป๋ …”
พวกเจ้ารนหาที่ตาย !
***จบบท บ้านสกุลไป๋รนหาที่ตาย***