ยังมีอีกเรื่องที่ไป๋เฉิงเซียงยังไม่ได้พูด
จากการประชุมขุนนางเช้าวันนี้ ย่อมประจักษ์ชัดว่า เพื่ออ๋องคังแล้ว ฮ่องเต้ถึงกับปลดฮองเฮา นั่นแสดงว่าสถานะของอ๋องคังไม่ธรรมดาเลย
และหากมิใช่เพราะความโง่เขลาของหยูหรง เขาก็เพียงพูดจา หว่านล้อมไป๋หยานดี ๆ สักสองสามประโยค ให้นางผละจากตาเฒ่าสกุลหลานนั่น จากนั้นสถานะของบ้านสกุลไป๋ก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
“ท่านพี่…” นัยน์ตาของหยูหรงฉายประกาย “ข้ารับรองได้เลยว่าชายผู้ที่ไป๋หยานพบในตอนนั้นไม่ใช่อ๋องคัง ! ข้าเพียงไม่รู้ว่านางใช้วิธีใดหลอกอ๋องคังให้หลงคิดว่านางเป็นผู้หญิงคนนั้นของเขา ! “
อ๋องคังจะยินยอมให้ผู้หญิงที่เปื้อนมลทิน อีกทั้งไม่ซื่อสัตย์เช่นนั้นมาอยู่เคียงข้างเขาได้อย่างไร ?
เช่นนั้นหยูหรงจึงมั่นใจว่าไป๋หยานต้องใช้กลอุบายบางอย่าง เพื่อหลอกอ๋องคังให้คิดว่าคนที่เขาพบเป็นนาง
“ไยเจ้าถึงแน่ใจเช่นนั้น ?” ไป๋เฉิงเซียงเหลือบมองนาง พร้อมกับเอ่ยถามเสียงเย็น น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
หยูหรงกัดฟัน เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว อย่างไรเสียนางก็ต้องปั้นเรื่องต่อ “เมื่อหกปีก่อน ไป๋หยานมีความสัมพันธ์กับใครบางคนจริง ๆ ! ข้ารู้ เพราะข้ามักจะเห็นนางแอบย่องออกจากบ้าน ในวันที่ท่านไม่อยู่บ้าน แล้วต่อมานางก็ถูกชายคนนั้นทอดทิ้ง !“
หากเป็นอดีตที่ผ่านมา ไป๋เฉิงเซียงจะต้องเชื่อทุกถ้อยคำของหยูหรงอย่างไร้ข้อกังขา ทว่าหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ เขากลับตั้งข้อสงสัยในคำบอกเล่าของนาง
“นอกจากนี้ … ” นัยน์ตาของหยูหรงหม่นมัวลง “ไป๋หยานก็ตัดขาดกับตระกูลไป๋ของเราไปแล้ว คงไม่ดีเป็นแน่ หากนางจะเป็นชายาของอ๋องคัง ข้าคิดว่าคงจะดีกว่าหากเราหาทางส่งไป๋จื่อบุตรสาวคนเล็กของเราไปแทน“
ครั้นไป๋เฉิงเซียงได้ยินคำแนะนำที่งี่เง่าเช่นนี้ เขาก็ยิ่งโกรธ “นี่เจ้าไม่เห็นท่าทีที่อ๋องคังมีต่อไป๋จื่อเลยกระนั้นรึ ? เจ้ายังหวังว่าไป๋จื่อจะได้เป็นชายาของเขาอีกงั้นรึ ? อ๋องคังไม่มีวันยอมรับนางเป็นแน่ !“
“ท่านพี่” หยูหรงเยื้องกรายเข้าหาไป๋เฉิงเซียง “อย่างไรเสียท่านก็เป็นบิดาของไป๋หยาน โบราณว่าไว้ พ่อแม่เป็นคนจัดการ แม่สื่อเป็นคนดำเนินการ หากนางมิได้รับอนุญาตจากท่าน นางก็มิอาจแต่งให้อ๋องคัง หากท่านกดดันนาง ให้นางมอบตำแหน่งให้จื่อเอ๋อ โดยมอบผลประโยชน์บางอย่างให้แก่นาง ไหนเลยนางจะไม่ยินยอม”
ครั้นได้ยินเช่นนั้น ไป๋เฉิงเซียงก็นิ่งเงียบ
หยูหรงพูดถูก หากต้องส่งไป๋หยานไปเป็นชายาอ๋องคัง สู้ส่งไป๋จื่อไปเสียยังจะดีกว่า
อย่างน้อยที่สุดบุตรสาวคนสุดท้องของเขาก็เฉลียวฉลาด ทั้งยังอยู่ในโอวาท ในขณะที่ไป๋หยานนั้นกระด้างกระเดื่อง และยากแก่การควบคุม
“ยิ่งไปกว่านั้น… ” หยูหรงก้มหน้ายกมือปิดแก้มที่แดงช้ำซ้ำยังบวมเป่งของนาง พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “จื่อเอ๋อก็ยังเป็นน้อง แล้วเหตุใดนางจะเสียสละเพื่อน้องตัวเองไม่ได้ ?”
“แล้วอ๋องคังล่ะ … ” ไป๋เฉิงเซียงขมวดคิ้วนิ่วหน้า ประกายแห่งความกังวลยังฉายชัดในแววตาของเขา
“เรื่องนั้นง่ายจะตาย” หยูหรงกล่าวพร้อมรอยยิ้มมั่นใจ “เป็นเพราะเขาเข้าใจผิดคิดว่าไป๋หยานเป็นสตรีที่เขาพบเมื่อหกปีก่อน เขาจึงปฏิบัติกับนางต่างจากคนอื่นใช่หรือไม่ ? เช่นนั้นท่านก็แค่ให้ไป๋หยานบอกอ๋องคังว่า ผู้ที่อ๋องคังพบก็คือจื่อเอ๋อของเรา ข้าแน่ใจว่า ด้วยนิสัยของอ๋องคังแล้ว เขาจะต้องรับผิดชอบจื่อเอ๋อเป็นแน่“
อ๋องคังประกาศว่าเขาเป็นผู้ทำให้ไป๋หยานต้องอับอายขายหน้า เพราะโดนวางยาเมื่อหกปีก่อน แต่แท้จริงแล้ว รั่วเอ๋อบุตรสาวของนางเป็นผู้วางยาไป๋หยาน จากนั้นก็หาคนมาทำเรื่องอับอายขายหน้าให้ไป๋หยานต่างหากเล่า แล้วชายผู้นั้นก็มิใช่อ๋องคังด้วย
ไป๋เฉิงเซียงนิ่งเงียบหมดคำพูด แววตาของเขาแลดูสับสน หากมิใช่เป็นเพราะไม่ต้องการให้ไป๋หยานได้เป็นชายาของอ๋องคัง บางที…ภายหลังจากที่ได้รู้ความจริงแล้ว เขาอาจจะพยายามหาทางชดใช้ให้กับบุตรสาวคนโตในสิ่งที่เคยทำผิดพลาดไป
ทว่าตอนนี้ไป๋หยานไม่เชื่อฟังเขาเหมือนครั้งยังเยาว์ ทั้งไม่มีทางที่นางจะช่วยให้ตระกูลไป๋ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในอาณาจักรเช่นที่เขาวาดหวังไว้เป็นแน่
ดังนั้น…
เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากส่งจื่อเอ๋อบุตรสาวคนเล็กของเขาเข้าแทนที่
***จบบท ตระกูลไป๋ไร้ยางอาย (2)***