“ฮองเฮา !”
แม่นมเฒ่าอุทาน ทันทีที่นางก้าวไปข้างหน้า มีดสั้นคมกริบก็แทงทะลุเข้าสู่หัวใจของนางอย่างรวดเร็ว
ดวงตาหญิงชราที่จับจ้องมองไป๋รั่วเต็มไปด้วยความเคียดแค้น นางสิ้นชีวิตทั้ง ๆ ที่ยังเบิ่งตาโพลง
“วันพรุ่ง ผู้คนจะโจษขานกันทั่วว่า ฮองเฮาไม่อาจรับได้ที่ถูกเนรเทศมาอยู่ตำหนักเย็นจึงปลงพระชนม์องค์เอง ส่วนแม่นมเฒ่าในฐานะผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ที่สุดก็ฆ่าตัวตายตามฮองเฮาไปด้วย” ไป๋รั่วมองดูสตรีที่กำลังจะหมดลมหายใจบนพื้น พลันริมฝีปากของนางก็ยกยิ้ม “แต่ไม่ต้องห่วง หม่อมฉันจะดูแลพระโอรส และพระนัดดาของเสด็จแม่เป็นอย่างดี เช่นนั้นขอพระองค์เสด็จสู่สุคติเถิดเพคะ“
ไป๋รั่วมองหนิงไต้เป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นนางก็หันหลังกลับ ทว่าก่อนที่นางจะเดินจากไป อาการคันก็กลับมาอีก นางขมวดคิ้ว พร้อมกับรีบเกาหลังตนเองอย่างทนไม่ไหว
ไป๋รั๋วจากไปได้ไม่นานนัก ร่างทระนงของตี้คังก็ปรากฏขึ้นในตำหนักเย็น
“ท่านอ๋อง ดูเหมือนว่าฮองเฮาจะหมดลมหายใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ทหารองครักษ์ที่มาพร้อมกับตี้คังกล่าวรายงานอย่างนอบน้อม “พวกเรามาช้าไปก้าวนึง“
ทหารองครักษ์รู้สึกไม่สบายใจนัก ท่านอ๋องมาที่ตำหนักเย็นเป็นการส่วนตัว จุดประสงค์ก็เนื่องมาจากรับสั่งเรื่องการอภิเษกของฮองเฮา เขาย่อมไม่ยอมให้นางรอดมือเขาไปได้ง่าย ๆ
ทว่าฮองเฮากลับสิ้นพระชนม์เสียแล้ว เช่นนั้นผู้ใดจะรับความพิโรธครั้งนี้แทนเล่า ?
“งั้นก็…” น้ำเสียงของตี้คังเย็นชา เขาทอดตามองหนิงไต้พลางกล่าวว่า “พานางไปที่หุบเขาพิษ“
หุบเขาพิษ ?
องครักษ์ตะลึงงัน ก็ฮองเฮาสิ้นพระชนม์แล้วมิใช่หรือ ? เหตุใดท่านอ๋องถึงมีรับสั่งเช่นนั้น หรือเป็นได้ว่าฮองเฮายังมีสิทธิ์รอด ?
“ท่านอ๋อง โปรดประทานอภัยให้ข้าน้อยด้วย ข้าน้อยสืบทราบมาว่าแม่นางไป๋หยานมีความเชี่ยวชาญทั้งในด้านการปรุงยา และการรักษาโรค หากเรามอบฮองเฮาให้กับนาง ข้าน้อยแน่ใจว่านางจะสามารถช่วยฮองเฮาได้เป็นแน่ …“
“ข้าบอกเมื่อไหร่กันว่าข้าต้องการช่วยนาง ?” ตี้คังปรายตามององครักษ์อย่างเย็นชา สีหน้าของเขาไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ “แจ้งกับหัวหน้าแห่งหุบเขาพิษว่า หญิงผู้นี้ ข้าส่งให้เขาใช้ลองยาพิษ จะทำสิ่งใดก็สุดแต่ใจ ทว่าลมหายใจของนางต้องยังคงอยู่”
องครักษ์รีบก้มหัวรับคำสั่ง เขารู้ดีว่าผู้ที่ทำให้เจ้านายของเขาโกรธย่อมไม่มีวันพบจุดจบที่ดี
“ท่านอ๋อง … ” องครักษ์ลังเลชั่วขณะ ก่อนจะกล่าวอย่างเคารพนบนอบ “เมื่อครู่ บ้านสกุลเฉียนส่งคนมาแจ้งว่า พวกเขาได้ล้างอายให้แม่นางไป๋หยานตามที่ท่านต้องการแล้ว ได้โปรดปล่อยคนของตระกูลเฉียนจะได้รึไม่ ?”
ริมฝีปากของตี้คังยกโค้ง รอยยิ้มของเขาแลดูโหดเหี้ยม “ให้ตาเฒ่าบ้านตระกูลเฉียนสละแขนของเขาสักข้าง หากเขายินยอม ข้าก็จะปล่อยคนตระกูลเฉียน“
อยากแตะต้องผู้หญิงของข้า ตาแก่เอ๊ย ! เจ้ารนหาที่ตายแท้ ๆ !
“พ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์ก้มหัวรับคำสั่งอีกครั้ง เขาไม่กล้าสบตาตี้คัง ด้วยเกรงว่าพลังที่กดขี่คุกคามนั่นจะทำให้เขาหายใจไม่ออก
หลังจากตอบรับคำสั่ง องครักษ์ก็รู้สึกหวาดกลัวกระทั่งเหงื่อท่วม เขารีบเข้าไปอุ้มร่างฮองเฮา จากนั้นก็มองไปที่แม่นมเฒ่าผู้ซึ่งยามนี้เต็มไปด้วยเลือดท่วมร่าง
“ท่านอ๋อง ต้องพานางไปด้วยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ ?”
“ไม่มีประโยชน์ที่จะแบกคนตายไปด้วย“
ครั้นกล่าวจบตี้คังก็หันหลังขวับจากไปทันทีโดยไม่แม้แต่จะมองร่างที่นอนอยู่บนพื้นอีกเลย เส้นผมสีเงินเป็นประกายท่ามกลางความมืดมิด ดึงดูดใจอย่างหาใดเปรียบ !
*****
วันถัดมา
ไป๋หยานเพิ่งตื่นนอน นางยืดตัวคลายกล้ามเนื้อ ยังไม่ทันที่นางจะลุกขึ้น ประตูห้องของนางก็ถูกกระแทกเปิดออก จากนั้นร่างสูง ๆ ของไป๋เซียวก็ปรากฏต่อสายตานาง
“พี่ใหญ่ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว !“
ไป๋หยานมองใบหน้าหล่อเหลา และอ่อนวัยของชายหนุ่ม พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นด้วยความฉงน “เกิดอะไรขึ้น ?”
“ฮองเฮาหายตัวไปอย่างลึกลับ ส่วนแม่นมเฒ่าคนสนิทของนางก็ตายอยู่ในตำหนักเย็น“
ฮองเฮาหายตัวไปกระนั้นรึ ?
ทันทีที่ได้ยินข่าวนี้ ผู้แรกที่ไป๋หยานนึกถึงก็คือ ‘ตี้คัง’
อย่างไรก็ตาม หากบุรุษจองหองผู้นั้นประสงค์ที่จะจัดการฮองเฮา เขาก็ไม่จำเป็นต้องลักพาตัวนาง ก็แค่ฝังสตรีผู้นั้นไว้ในตำหนักเย็นก็พอ
***จบบท ไป๋รั่วหญิงชั่วช้า (3)***