ไป๋เสี่ยวเฉินทําปากแก้มปอง ดูเหมือนเขาจะไม่พอใจอย่างแรง เขาบีบมือมารดาของตน
เฉินเอ๋อเกิดมาพร้อมความขาว และความนุ่มนวลเช่นนี้อยู่แล้ว ไม่ใช่ผลจากยาเม็ดนั้นเสียหน่อย
ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่ชอบรสชาติของยาเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย เช่นนั้นเขาจึงไม่ได้กินมันเข้าใจปะ ?
“พี่ไป๋หยาน ข้าอยากได้บ้าง !” นัยน์ตาของหลานเสี่ยวหยุนเปล่งประกายวิบวับ ขณะคว้ามือของไป๋หยานมาเขย่า “ข้าขอแลกยาเม็ดจิตวิญญาณมาเป็นยาขับสารพิษนี้จะได้หรือไม่ ?”
สําหรับเด็กสาว ๆ ไม่มีสิ่งใดยิ่งใหญ่ไปกว่ารูปร่างหน้าตา แม้แต่การฝึกฝนวิชาที่ยังถือว่าเป็นรอง
“หากเจ้าอยากได้ ข้าก็จะมอบยาขับสารพิษนี้ให้เจ้าด้วย แต่อย่ากินมากเกินไปเพียงสัปดาห์ละ 1 เม็ดก็พอ” ไป๋หยานมอบของขวัญให้กับสตรีทั้งสามคน ก่อนจะหันกลับไปมองท่านผู้เฒ่า เจ้าบ้านหลาน “ท่านตา การฝึกฝนของท่านอยู่ในระดับสูงสุดของขั้นที่สามเทียนเจี่ยแล้ว ทว่าร่างกายของท่านทรุดโทรมไปมาก แม้จะมียาเม็ดเทียนหยวนขั้นที่สี่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ท่านก้าวหน้ามากกว่านี้”
ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานโบกมือขัดคําพูดของนาง “คนแก่คนเฒ่าเยี่ยงข้าไม่ต้องการของพวกนี้แล้ว ข้ามีความสุขตามอัตภาพ แค่ท่านลุงของเจ้าคอยดูแลข้าก็เพียงพอแล้ว”
ไป๋หยานใช้นิ้วลูบคาง สีหน้าของนางแลดูครุ่นคิด “เช่นนั้นโปรดรอสักพัก หลานจะหายาเม็ดที่เหมาะสมสําหรับท่านมาให้ได้”
การจะปรุงยาเม็ดที่เหมาะสมนั้นได้ จําเป็นต้องหาสมุนไพรพิเศษ เช่นนั้นย่อมต้องใช้เวลาพอควรเลยที่เดียว
” หลานสาวที่แสนดีของข้า ข้ามแจ้งเจ้าว่า ไทเฮาส่งคนมาเชิญเจ้าเข้าวัง ทรงมีพระประสงค์จะพบเจ้า”
ใบหน้าของหลานฮูหยินผู้เฒ่าเบ่งบานราวบุปผา
อย่าคิดว่านางสูงวัยแล้วจะไม่สนใจรูปร่างหน้าตาตนเอง เพราะเรื่องรักสวยรักงามของสตรีนั้น ไม่ว่าอายุเท่าไรก็ไม่ต่างกัน
“ไทเฮา มีพระประสงค์จะพบข้ากระนั้นหรือ ?” ไป๋หยานพยักหน้าน้อย ๆ “ ข้าทราบแล้ว ข้าจะเข้าวังไปพบท่าน”
ทันทีที่ไป๋เสี่ยวเฉินได้ยิน นัยน์ตาโต ๆ ของเขาพลันสว่างไสวขึ้นทันที “หม่ามี้จะเข้าวังเหรอ ? ขอเฉินเอ๋อไปด้วยคนนะ”
“เจ้าจะเข้าไปทําอะไร ?” ไป๋หยานเหลือบมองเด็กชายพร้อมกับเอ่ยถาม
ไป๋เสี่ยวเฉินตอบเบา ๆ ว่า “ลูกอยากเห็นว่าวังหลวงเป็นอย่างไร ? สวยงามแค่ไหน ?”
“แม่พาเจ้าไปก็ได้ แต่ขณะอยู่ในวังเจ้าต้องทําตัวดี ๆ ห้ามก่อปัญหาใด ๆ”
” แต่ ถ้าลูกเจอไป๋รั่ว หญิงชั่วคนนั้นล่ะ และถ้านางต้องการทําร้ายลูกล่ะ”
” หากนางทําเช่นนั้นเจ้าก็ฆ่านางซะ ส่งนางไปลงนรกเลย !”
กล้ากลั่นแกล้งบุตรชายของข้าหรือ ? ไม่ต้องถามหรอกว่าข้าจะแนะนําลูกเช่นไร ?
เสี่ยวมี่ผู้ซึ่งกําลังนอนอยู่บนพื้นทําได้เพียงกลอกตาอย่างเซ็ง ๆ พร้อมกับหาวหวอด
อย่างพ่อทูนหัวตัวน้อยของข้าเนี่ยนะ ผู้ใดจะรังแกท่านได้ ? หลายปีที่ผ่านมาข้าเคยเห็นแต่ท่านรังแกผู้อื่น
อย่าลืมสิว่า จิ้งจอกเป็นสัตว์ที่ฉลาดแกมโกงที่สุด
“เฉินเอ๋อ” ไป๋หยานก้มลงมองบุตรชายผู้ซึ่งยามนี้กําลังเกาะต้นขาของนางอยู่ “แม่ไม่ต้องการให้เจ้าสร้างปัญหาที่นั่น แต่ในทํานองเดียวกัน หากมีผู้ใดมายั่วยุเราก่อนเราก็ไม่จําเป็นต้องกลัว จําไว้อย่าลังเลที่จะตอบโต้กลับ ! “
“ลูกเข้าใจแล้วหม่ามี้”
อย่าสร้างปัญหา แต่ก็ห้ามกลัว
นั้นเป็นสิ่งที่ไป๋หยานสอนเขา
” ท่านตาท่านยาย ข้าจะพาเฉินเอ๋อเข้าวังพร้อมข้า จากนั้นจะรีบกลับมา”
ไป๋หยานอุ้มไป๋เสี่ยวเฉิน พลางกล่าวลาท่านผู้เฒ่าทั้งสอง ก่อนจะเดินออกจากบ้านสกุลหลาน
ส่วนแมวน้อย เสี่ยวมี่ก็รีบลุกขึ้นจากพื้นกระโจนไล่ติดตามแม่ลูกทั้งสอง
ณ วังหลวง
ไทเฮากําลังเอนพระวรกายอยู่บนเก้าอี้ยาว พรั่งพร้อมด้วยนางกํานัลคอยถวายการดูแล เสียงขันทีประกาศขึ้นที่หน้าประตูว่า
“ทูลไทเฮา คุณหนูไป๋ขอเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”
***จบบท เข้าวังอีกครั้ง (2)***