“เจ้าเดรัจฉานน้อย เจ้ากล้าดียังไงมาเหยียบเงาของข้า !”
ในขณะที่ไป๋เสี่ยวเฉินกําลังเดินโต๋เต๋อย่างไร้จุดหมายอยู่ในสวนด้านหลังนั้น จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงคุกคามข่มขู่ตวาดแว๊ดขึ้นมา
ไป๋เสี่ยวเฉินย่นคิ้ว พร้อมกับหันไปตามทิศทางที่เสียงนั้นลอยลมมา
ไม่ไกลกันนัก มีกลุ่มขององค์หญิงองค์ชายตัวน้อย ๆ กําลังห้อมล้อมเด็กชายตัวเล็ก ๆ ผอมบางให้อยู่ตรงกลาง
เด็กชายร่างผอมบางคนนั้น แต่งกายด้วยชุดผ้ากระสอบแลดูแปลกแยกจากคนในกลุ่ม ใบหน้าหล่อเหลาของเขาแลดูเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ เขาจ้องมองเด็ก ๆ ที่ห้อมล้อมด้วยนัยน์ตาแข็งกร้าว
“เจ้ากระต่ายน้อย เจ้ากล้าดียังไงมาจ้องมองข้า !”
อันธพาลตัวน้อยที่เป็นผู้นํา เตะเด็กร่างผอมเต็มแรง ใบหน้ากลม ๆ ของเขาเต็มไปด้วยความยโสโอหัง
เด็กชายร่างผอมกัดฟันแน่น ไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมาเลย เขาเพียงก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวก่อนจะทรุดตัวลง
ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่ร้องออกมาสักแอะ
บางที่อาจเป็นเพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขา ทําให้เขารู้ดีว่าต่อให้ร้องออกมาก็เปล่าประโยชน์ รังแต่จะทําให้เจ็บตัวหนักกว่าเดิมก็เท่านั้น
“ข้าถามแล้วไม่ตอบ ! แม่ของเจ้าเป็นเพียงนางกํานัลเล็ก ๆ เจ้ามันก็แค่ลูกนางกํานัลต้อกต่อย ” อันธพาลตัวน้อย ก้าวไปข้างหน้า เขายกเท้าหมายจะกระทืบเด็กชายร่างผอมอย่างไร้ปรานี้
ทันใดนั้นเอง เสียงเด็กน้อยก็ยังแทรกขึ้น
“เสี่ยวมี่ จัดการเขาซะ !”
ฟิ้ว !
แมวน้อยสีขาวกระโจนขึ้นสู่อากาศอย่างรวดเร็ว มันพุ่งเข้าหาอันธพาลตัวน้อยทันที อันธพาลตัวน้อยร้องโวยวาย ด้วยการจู่โจมของแมวขาว ทําให้อันธพาลตัวน้อยล้มลงกับพื้น
“ องค์ชาย !”
ครั้นนางกํานัลเห็นอันธพาลตัวน้อยล้มลง พวกนางต่างก็หน้าชัดด้วยความหวาดกลัว พวกนางพยายามช่วยพยุงเขาขึ้นมา
แม้ว่าพระชายาไป๋รั่วจะมีเมตตาสักเพียงไร แต่หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับพระโอรสของนางแม้เพียงรอยขีดข่วน นางกํานัลเหล่านี้ก็คงไม่อาจพบเจอชีวิตดี ๆ อีกต่อไป
นางกํานัลช่วยพยุงอันธพาลตัวน้อยลุกขึ้นยืน ใบหน้ากลม ๆ ของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาจ้องมองไป๋เสี่ยวเฉิน “เด็กผี เจ้าเป็นใคร ? มาจากไหน ?”
“ข้าไม่ใช่เด็กผี เจ้าต่างหากเด็กผี !” ใบหน้าของไป๋เสี่ยวเฉินเต็มไปด้วยความโกรธพอ ๆ กัน “นอกจากนี้ หม่ามี้ของข้า ยังสอนข้าตั้งแต่เด็กว่าหากเขาไม่รุกรานเรา เราก็อย่ารุกรานเขา เหตุใดเจ้าจึงรังแกผู้อื่น ?”
ไป๋เสี่ยวเฉินเป็นผู้รักความยุติธรรม หากเห็นผู้ที่อ่อนแอกว่าถูกรังแก เขาก็จะไม่ยอมนิ่งเฉย
“นี่มันบ้านของข้า ดังนั้นข้าจะกลั่นแกล้งใครก็ได้ !” อันธพาลตัวน้อยเชิดหน้าอย่างภูมิใจ “เจ้าที่อยู่ในบ้านของข้า เชื่อไหมว่า ข้าจะให้เสด็จปู่ของข้าตัดหัวของเจ้ายังได้ !”
“ปู่ของเจ้ามีอะไรดีนักหนา ? ข้ามีทั้งป๊ะป่า มีทั้งพ่อบุญธรรม พวกเขาทั้งคู่ต่างก็มีอํานาจมาก แค่ปู่ของเจ้าจะน่ากลัวตรงไหน ?
แม้ว่าหัวใจของไป๋เสี่ยวเฉินจะไม่ต้องการยอมรับสถานะของตี้คัง ทว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เขาพบว่าการอ้างถึงป๊ะป่าก็พอมีประโยชน์อยู่บ้าง
อันธพาลตัวน้อยโกรธ “เสด็จแม่ของข้าบอกว่า ข้าเป็นคนมีอํานาจมากที่สุดในอาณาจักรนี้ หากข้าต้องการให้ใครสักคนตาย มันก็ต้องตาย ! นอกจากนี้ ข้ายังถูกลิขิตให้ปกครองแผ่นดินนี้ ไม่เพียงแต่เจ้า แม้แต่พ่อทั้งสองคนของเจ้าก็ยังต้องเลียรองเท้าของข้า !”
ประกายกระหายเลือดฉายวาบผ่านแววตาของไป๋เสี่ยวเฉิน “ลองพูดอีกครั้ง !”
” ข้าไม่พูด แต่ข้าจะทุบเจ้าแทน ! คุกเข่า และขอความเมตตาจากข้าเดี๋ยวนี้ !”
อันธพาลตัวน้อยวิ่งเข้าหาไป๋เสี่ยวเฉินด้วยความโกรธแค้น มืออ้วน ๆ ของเขากวัดแกว่งไปที่ใบหน้าของไป๋เสี่ยวเฉินอย่างดุดัน
เสด็จแม่ของเขาเคยบอกเขาว่า เขาเป็นพระนัดดาของฮ่องเต้ เป็นบุคคลที่สูงส่งที่สุดในโลกนี้ หากมีใครไม่เชื่อฟังเขา เขาก็สามารถทุบตีคนเหล่านั้น บังคับให้คนเหล่านั้นเชื่อฟังเขา !
ทว่า…
ก่อนที่มือของอันธพาลตัวน้อยจะเข้าถึงใบหน้านุ่ม ๆ ของไป๋เสี่ยวเฉิน ไป๋เสี่ยวเฉินก็จับมือเขาไว้ก่อนแล้ว
***จบบท อันธพาลตัวน้อย***