กระแสลมแรงพัดกระหน่ํา
ท่ามกลางกระแสลมแรงที่พัดโหมกระหน่ํา ร่างในอาภรณ์แดงเจิดจ้างดงามหาใดเปรียบ นางอุ้มไปเสี่ยวเฉินไว้ด้วยมือข้างหนึ่งแววตาของนางเต็มไปด้วยอํานาจที่พร้อมจะคุกคามทุกผู้คน
แรงกดดันจากนางนั้นช่างน่าหวาดหวั่นยิ่ง แม้แต่รัชทายาทหนานกงอี้ก็ยังรู้สึกประหลาดใจ
เขาไม่เคยพบเห็นสตรีใดที่มีพลังน่าอัศจรรย์ใจเช่นนี้มาก่อนเลย
หรือเป็นเพราะก่อนหน้านี้เขาละเลยนางมากเกินไปจริง ๆ ?
ทันใดนั้นเอง จู่ ๆ หลังมือของเขาก็รู้สึกเจ็บแปลบ สติของเขาคืนมาอีกครั้ง เขาก้มลงดูจึงพบว่าเล็บของไปรัวจิกหลังมือเขาแน่นกระทั่งเขาอดมิได้ที่จะขมวดคิว“รัวเอ่อ…”
ไปชั่วรู้สึกตัว นางรีบปล่อยมือ นางกัดริมฝีปากตนเองจนซีด “ขอประทานอภัยเพคะ ฝาบาทรั่วเอ๋อรู้สึกตกใจกลัวพี่ใหญ่”
เมื่อครู่นี้ องค์รัชทายาทเหม่อมองไปหยานด้วยสายตาปลาบปลื้ม เขาไม่มองนางเลยแม้แต่น้อย
หากนางไม่หยิกองค์รัชทายาท เขาก็คงยังไม่รู้สึกตัวเป็นแน่ !
ไปรั่วหลุบตาต่ํา รอยยิ้มเหยียดหยันปรากฏขึ้นที่มุมปากนาง นัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยแววสังหาร
นางรู้สึกเสียใจเหลือเกิน เหตุใดนางถึงไม่สังหารหญิงผู้นี้ให้ตาย ๆ ไปเสียตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน โน้น !
“ฮ่องเต้ เสด็จ !”
ฉับพลันเสียงแหลมเล็กก็ดังแทรกมาในอากาศ ทําให้ทหารองครักษ์ผู้ซึ่งกําลังหวาดกลัวกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง
ปัง !
ร่างของทหารองครักษ์ร่วงทรุดลงกองกับพื้น หน้าอกของเขาทะลุเป็นรูโหว่ โลหิตพุ่งทะลักจากบาดแผลบนหน้าอกนั้นราวกับน้ําพุ
ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีผู้ใดเห็นไปหยานขยับกายเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
มิใช่เรื่องง่าย ที่จะแสดงพลังโดยไม่แม้แต่จะขยับมือ หรือเป็นได้ว่าไปหยานมิใช่คนไร้ประโยชน์เช่นที่พวกเขาคิด ?
“ป๊ะป๋า !”
ครั้นไปเสี่ยวเฉินเห็นชายในอาภรณ์สีม่วงเดินเคียงข้างหนานกงหยวนตรงเข้ามา นัยน์ตาจิ้งจอกกลมโตพลันเปล่งประกายแวววาว เด็กน้อยลงจากอ้อมแขนของมารดารีบวิ่งเข้าไปหาตี้คั่ง ร่างเล็ก ๆ ของเด็กน้อยปะทะร่างของชายหนุ่มอย่างแรง
ในใจของคังรู้สึกปลาบปลื้ม ที่สุดเด็กน้อยผู้นี้ก็ยอมรับข้าแล้วใช่หรือไม่ ?
” ป๊ะป๋าสุดหล่อ มีคนรังแกเฉินเอ๋อ”
“ผู้ใดกัน ?”
ยังมิทันที่ตี้คงจะได้แสดงอารมณ์ปลาบปลื้ม สีหน้าของเขาพลันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา ทันทีที่ได้ยินถ้อยคําเศร้า ๆ ของเด็กน้อย
ไปเสี่ยวเฉินเบ้ปากราวกับจะร้องไห้ “เมื่อครู่ เฉินเอ๋อเห็นอันธพาลน้อยคนนั้นรังแกหนานกงซุนในวังหลัง เช่นนั้นเฉินเอ๋อจึงช่วยเหลือหนานกงซุน ต่อมาบิดาของอันธพาลน้อยมาถึงเขาสังคนจับตัวเฉินเอ๋อหากเขาจับเฉินเอ๋อได้ เฉินเอ๋อก็คงจะไม่ได้พบป๊ะป๋าอีกแล้วก็คงต้องตายด้วยน้ํามือของพวกเขาด้วย !”
“อ้อ ! ใช่แล้ว อันธพาลน้อยนั่นยังบอกด้วยว่า เขาเป็นคนที่สูงส่งที่สุดในโลกนี้ แม้แต่ป้าป่าหรือพ่อบุญธรรมก็ไม่อาจเทียบเขาได้ เขาจะฆ่าล้างตระกูลเราอีกด้วย”
หลังจากกล่าวจบ ไปเสี่ยวเฉินก็ไม่ลืมที่จะแสดงสีหน้ายั่วยุอันธพาลตัวน้อยนั้นอีก
เจ้าคิดว่าเจ้ามีพ่อคนเดียวหรือไง ? ข้าก็มีพ่อแล้วก็มีตั้งสองคนด้วย และต่อให้มีหม่ามี้คนเดียวแม่ข้าก็สามารถรับมือศัตรูได้เป็นล้านคนแล้ว เชอะ !
ทั้ง ๆ ที่ตัวเขาเองก็ไม่อยากยอมรับบิดาใจร้ายตรงหน้าคนนี้ก็ตามทีเถอะ
ใบหน้าของคังแลดูดํามืด ทั้งน่าสยองขวัญต่อผู้พบเห็น สายตาของเขาจับจ้องมองหนานกงหลิน
หนานกงหลินหวาดกลัวสายตาของที่ดังอย่างยิ่ง เขาซุกกายเข้าสู่อ้อมแขนของไปรัวพลางร้องว่า “เสด็จแม่ ชายผู้นั้นน่ากลัวมาก .เสด็จแม่ให้เสด็จพ่ออุ้บ !”
สีหน้าของไปรัวซีดเผือด นางเกรงว่าบุตรชายจะพูดอะไรนําภัยมาสู่ตนอีก นางจึงรีบปิดปากเขาแน่นเพื่อไม่ให้สร้างปัญหาเพิ่มขึ้น
“ก็แค่คําพูดของเด็กอย่าได้ถือสาเลย” หนานกงหยวนกระแอม ก่อนจะกล่าว เขาพยายามที่จะยุติปัญหาทุกอย่าง ก่อนที่จะเกินรับมือ” อ่องคัง หลินเอ๋อยังเด็ก เด็ก ๆ ทะเลาะกันเป็นเรื่องธรรมดา”
“ไม่ ต่อให้เป็นเด็กก็ใช่ว่าจะอภัยให้ง่าย ๆ !”
***จบบทปลาบปลื้ม***