บทที่ 147 : อยากตายก็เข้ามา (1)
องครักษ์ได้แต่มองตากันไปมาด้วยความเห็นอกเห็นใจ บ้านสกุลไป๋ ที่องค์หญิงน้อยกล่าวถึง
ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตาม หากองค์หญิงน้อยให้ความสนใจแล้วล่ะก็ พวกเขาเหล่านั้นต้องตกอยู่ในความทุกข์ทรมานอย่างไม่ต้องสงสัย
“องค์หญิงน้อย ท่านผู้อาวุโสกําชับมาว่า ท่านสามารถอยู่ที่นี่ได้เพียงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น จากนั้นก็ให้รีบกลับ” หนึ่งในองครักษ์ลังเลชั่วขณะ ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยท่าทางสุขุม
แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะองค์หญิงน้อยผู้นี้ต้องสร้างปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน หากไม่รีบพานางกลับ อาณาจักรหลิวฮั่วต้องยุ่งเหยิงระส่ำระสายเพราะนางเป็นแน่
ฉู่อีอี้ยกยิ้ม นางยังคงคล้องแขนไป๋หยานขณะกล่าว ” พวกเจ้ากลับไปเรียนท่านผู้อาวุโสด้วยว่าข้าจะอยู่ที่นี่กับไป๋หยานสักพัก ห้ามพวกเขาบ่นอะไรอีก”
ไป๋หยาน ?
องครักษ์ต่างก็นิ่งอึ้ง
นามนี้อาจฟังไม่คุ้นหูนัก ทว่าจากถ้อยคําขององค์หญิง ดูเหมือนว่าตัวตนของไป๋หยานจะไม่ธรรมดา….
ประเดี๋ยวนะ !
ทันใดนั้นเอง องครักษ์บางคนดูเหมือนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ร่างของพวกเขาแข็งทื่อชั่วขณะ
“องค์หญิงน้อย แม่นางไป๋หยาน ผู้นี้ก็คือ …”
ก่อนที่องครักษ์จะทันกล่าวจบ ฉู่อีอี้ก็หันกลับมามองพวกเขาด้วยแววตาดุร้าย “หากเจ้ากล้าเปิดเผยเรื่องของไป๋หยานแล้วล่ะก็ อย่าได้ตําหนิว่าข้าไม่เตือนพวกเจ้า ผู้อาวุโสต้องฆ่าเจ้าแน่ !
“เฮือก… !”
องครักษ์สูดลมหายใจเข้าด้วยความหวาดกลัวและตกใจ
“องค์หญิงน้อย … นางก็คือสตรีผู้ซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ กระนั้นหรือ ?”
ว่ากันว่า เมื่อห้าปีก่อน ผู้อาวุโสได้รับลูกศิษย์อัจฉริยะคนหนึ่ง ศิษย์ผู้นั้นไม่เพียงแต่เป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านการปรุงยาระดับเหนือธรรมชาติ ที่แม้แต่ผู้อาวุโสเหล่านั้นก็ยังด้อยกว่า
ยิ่งไปกว่านั้น ยังว่ากันว่า ท่านประมุขแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ชื่นชอบสตรีผู้นั้นมาก นอกจากเขาจะยอมรับนางแล้ว เพื่อมิให้นางถูกผู้อื่นรบกวน เขายังห้ามมิให้ผู้ใดย่างกรายเข้าเกาะศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย
และตอนนี้หญิงสาวอัจฉริยะ ที่ลือเลื่องทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นก็ปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าพวกเขาแล้ว !
องครักษ์ต่างก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก หากองค์หญิงน้อยไม่กล่าวเตือนพวกเขาก่อน พวกเขาคงจะอวดอ้างไปทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทันทีที่กลับไปถึงแล้ว
“ไปกันเถอะ”
ไป๋หยานจูงมือฉู่อีอี้ออกจากป่าเดินมุ่งหน้าไปทางประตูเมือง
ระหว่างทาง ฉู่อีอี้รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะนางเคยสงสัยว่าโลกภายนอกดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นจะเป็นเช่นไรบ้าง นัยน์ตาของนางเปล่งประกายระยิบระยับด้วยความตื่นตาตื่นใจ
“อีอี้ ข้าจะส่งเจ้าไปที่คฤหาสน์โบราณก่อน เจ้าอย่าสร้างปัญหาล่ะ” ไป๋หยานรู้นิสัยของหญิงสาวดีจึงมิลืมที่จะกล่าวเตือนนาง
ถึงไป๋เสียวเฉินจะชอบสร้างปัญหา หากแต่ก็ต่อเมื่อมีผู้ใดไปยั่วยุเขาก่อน ทว่าฉู่อีอี้ไม่ใช่ นางไม่สนใจว่าจะมีผู้ใดจะยั่วยุนางก่อนหรือไม่ หากนางไม่ชอบใจ นางก็พร้อมจะทําสงครามกับทุกคน
” ข้ารู้น่า”
ฉู่อีอี้ทําปากจู่ ใบหน้าน่าเอ็นดูของนางแดง ยานมาใส่ใจแต่อย่างใด
เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้เก็บถ้อยคําของไป๋หยาน
ไป๋หยานรู้สึกปวดหัว นางไม่รู้ว่าคิดถูกหรือผิดที่ทิ้งเด็กสาวคนนี้ไว้เพียงลําพัง
“เอาล่ะ ถึงแล้ว”
ครั้นมาถึงคฤหาสน์โบราณ ในขณะที่ไป๋หยานกําลังจะพาฉู่อีอี้เข้าไปด้านใน
น้ำเสียงแสดงออกถึงความประหลาดใจอย่างชัดเจนพลันดังขึ้น กระทั่งไป๋หยานยังต้องชะงัก
“ไป๋หยาน เหตุใดเจ้าถึงมาที่นี่ได้”
ไป๋หยานเอียงศีรษะกลับไปมอง นางเผชิญหน้ากับชายวัยกลางคนที่อยู่หน้าประตู พลางเอ่ยถามด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ท่านมีปัญหาใดกระนั้นรึ ?”
ไป๋เฉิงเซียงค่อนข้างละอายใจ “ข้ามาที่นี่เพื่อพบคนของหอบุปผา ทว่าเหตุใดเจ้าถึงเข้าไปข้างในได้ ?”
ไป๋เฉิงเซียงอยากจะกล่าวมากกว่านี้ หากแต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ นัยน์ตาของเขาฉายแววตกตะลึง
หรือไป๋หยานมีความเกี่ยวข้องกับหอบุปผา ?
เช่นนั้น เขาอาจใช้นางเป็นสะพานเชื่อมต่อหอบุปผาได้ !
***จบบท อยากตายก็เข้ามา (1) ***