บทที่ 150 : อ่อนโยนโดยพลัน (1)
ทันใดนั้นเองสายลมแรงก็พัดกระทบแก้มของฉู่อีอี้ กระทั่งนางหวาดกลัว นางหน้าซีดพร้อมกับเซถอยหลังไปสองสามก้าว หลังจากยืดตัวตรงอย่างมั่นคงได้ นางก็ตวาด “นั่นผู้ใด !”
อึดใจถัดมา เด็กสาวก็ต้องตกตะลึง
บุรุษเจ้าเสน่ห์ที่ปรากฏกายต่อหน้าต่อตานางเรียกได้ว่าหล่อร้าย
เส้นผมของเขามีสีเงินแวววาวดั่งปีศาจ อาภรณ์สีม่วงก็เต็มไปด้วยจิตวิญญาณชั่วร้าย
วินาทีนั้น เป็นใครเห็นก็ต้องตะลึง ยากจะอธิบายความหล่อเหลาซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชายผู้นี้ได้
แน่นอนว่า ฉู่อีอี้เองก็ยังงุนงง นางคิดเสมอว่าพี่ชายของนางเป็นบุรุษรูปงามที่สุดในโลก แต่บุรุษที่อยู่เบื้องหน้านางผู้นี้ช่างหล่อเหลาอย่างยากจะหาผู้ใดเทียบ เทียบกับพี่ชายนางแล้วนับว่าไม่ด้อยกว่ากันเลย
“ปล่อยนางนะ !” ครั้นเห็นมือของชายหนุ่มยื่นออกมาโอบเอวไป๋หยาน นางก็ไม่พอใจ นางกัดฟันเอ่ยถ้อยคําเหล่านั้น
ตี้คังย่นคิ้ว
ครั้นเห็นท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปของคัง แววตาของไป๋หยานก็เปลี่ยนไป “อีอี้ เป็นน้องสาวของข้า”
น้องสาว ?
ตี้คังมองไป๋หยานอย่างสงสัย ทว่าเพราะคําพูดของนาง ทําให้กลิ่นอายสังหารของเขากระจายหายไป เขากุมมือไป๋หยานอย่างแผ่วเบาพลางกล่าวว่า
” ข้าไม่เห็นเคยรู้เลยว่าเจ้ามีน้องสาวอีกคน”
ฉู่อีอี้กระทืบเท้าอย่างหัวเสีย นางอยากจะกล่าวบางอย่าง หากแต่ไป๋หยานใช้สายตาปรามนางไว้
“คนผู้นี้ก็คืออ๋องคัง” ไป๋หยานอธิบาย
กระไรนะ ?
ฉู่อีอี้เบิกตากว้าง บุรุษเย่อหยิ่งผู้ซึ่งกําลังหากําไรกับไป๋หยานผู้นี้ก็คือบิดาแท้ ๆ ของเฉินเอ๋อกระนั้นหรือ ?
เขาคือชายผู้ที่ไป๋หยานบอกว่าแข็งแกร่งทรงพลังคนนั้นน่ะหรือ ?
ได้ยินเช่นนั้น ฉู่อีอี้ซึ่งกะจะระรานต่อ พลันชะงัก นางค่อย ๆ หดคอ ก้าวหลบไปข้างหลังสองก้าวโดยไม่รู้ตัว
พี่ใหญ่ มิใช่ว่าน้องสาวไม่อยากจะช่วยท่านนะ ทว่าศัตรูของพี่แข็งแกร่งทรงพลังเกินจะช่วยจริง ๆ !
“ไป๋หยาน” ตี้คังไม่สนใจมองฉู่อีอี้อีกต่อไป เขาเม้มใบหูไป๋หยาน
“เรามาคุยกันเถอะ ?”
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ออกแรงแต่อย่างใด ทว่าความรู้สึกอุ่น ๆ จากลิ้นที่สัมผัสใบหูนั้นก็มากเกินพอที่จะทําให้นางตื่นตัว
ไป๋หยานรีบสลัดตนเองออกจากพันธการของเขาโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย นางส่งหมัดตรงเข้าหาใบหน้าที่หล่อเหลานั้นอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่มือของนางกําลังจะถึงใบหน้าของเขา มือใหญ่ ๆ ของคังก็กุมกําปั้นของนางแน่น
“เจ้าไม่ชอบมือเล็ก ๆ ที่สวยงามของเจ้าแล้วกระนั้นหรือ ?” นิ้วเรียวยาวของชาย หนุ่มลูบไล้หลังมือของไป๋หยาน นัยน์ตาเรียวคมหรี่ลงเล็กน้อย ประกายอันตรายพุ่งออกมา จากก้นบึงของแววตา ” หากเจ้าไม่ต้องการ ข้าก็จะตัดมันทิ้งซะ”
ไป๋หยานหน้าง้ำ “นอกจากตัดแขนตัดขาของข้าแล้ว ท่านทําสิ่งใดได้อีกบ้าง ?”
ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้นางอีกสองก้าว “นั่นก็ขึ้นอยู่กับเจ้าว่าจะให้ข้าทําหรือไม่ ? “
ใบหน้าของไป๋หยานแลดูท้อแท้ นับแต่วันที่นางได้พบบุรุษผู้นี้ นางก็พบว่าเขาสามารถกล่าวถ้อยคําที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ได้เสมอไม่ว่าจะในโอกาสใด
“อีอี้” นางถลึงตาใส่ดิ์คัง ก่อนจะหันกลับไปมองฉู่อีอี้ “เจ้าไปพักผ่อนก่อนก็แล้วกัน ที่นี่มีห้องว่างหลายห้อง เจ้าเลือกได้ตามใจชอบเลย”
ฉู่อีอี้พยักหน้าหล็ก ๆ ใบหน้าของนางยังซีดอยู่เล็กน้อย หลังจากไป๋หยานลากตัวตี้คังออกไปแล้ว นางจึงเริ่มรู้สึกตัว
“องค์หญิงน้อย”
องครักษ์ในชุดขาวเข้ามาห้อมล้อมนาง พร้อมกับมองฉู่อีอี้ด้วยสายตาห่วงใย
ฉู่อีอี้หน้ายุ่ง “ชายผู้นั้นแข็งแกร่งมาก ข้ามสามารถช่วยอะไรไป๋หยานได้เลย”
”และ” นางกัดริมฝีปาก “เขารังแกไป๋หยานต่อหน้าต่อตาพวกเราได้ เช่นนี้ไป๋หยานกับเฉินเอ๋อต้องเจอแต่เรื่องทุกข์ใจมากเป็นแน่ ๆ
ชายผู้นี้เอะอะก็ตัดมือตัดเท้า ไร้ซึ่งเมตตา ไม่ใจดี ไม่อ่อนโยนทนุถนอมแตกต่างกับพี่ชายของข้าลิบลับ พี่ชายของข้าเชื่อฟังสองแม่ลูกนั่นจะตาย ทั้งยังยอมทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อแม่ลูกคู่นั้นได้
***จบบท อ่อนโยนโดยพลัน (1)*-*-*