บทที่ 151 : อ่อนโยนโดยพลัน (2)
ยิ่งไปกว่านั้น พี่ชายของนางต่อให้ข้ามภูเขาพันลูก แม่น้ำพันสาย บุกดินแดนอันตราย เพียงเพื่อเสาะหาสมุนไพรที่นางต้องการแล้ว เขาก็พร้อมยอมทํา
“องค์หญิงน้อย ข้ารู้สึกราวกับว่าพวกเขากําลังพรอดรักกัน…” หนึ่งในองค์รักษ์ผู้พิทักษ์องค์หญิง กล่าวขึ้นด้วยเสียงสั่น ๆ
ฉู่อีอี้จ้ององครักษ์เขม็งพลางกล่าวว่า “เจ้าเคยเห็นคนพรอดรักกันด้วยการตัดมือตัดเท้ากระนั้นรึ ? แล้วก็อย่าลืมสิว่าพวกเจ้าทุกคนล้วนเป็นคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เช่นนั้นหากพวกเจ้าจะสนับสนุนใครสักคน คนผู้นั้นก็จะต้องเป็นพี่ชายของข้า ข้าไม่สนใจพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้ารีบไปเตรียมกระดาษ และหมึกมาให้ข้า ข้าจะเขียนจดหมายถึงพี่ใหญ่”
แม้ว่าไป๋หยานจะไม่ให้นางเล่าเรื่องนี้ให้ฉู่อี้เฟิงรับรู้ แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งสามก็ไม่ควรรู้ หาไม่แล้วคนที่มาเยือนอาณาจักรแห่งนี้จะมิใช่มีเพียงนางเท่านั้น
“เอ่อ ? ทว่าตอนนี้ประมุขน้อยกําลังเข้าสันโดษ…” องครักษ์โง่เง่าคนหนึ่งเอ่ยเตือนหญิงสาวอย่างระมัดระวัง
ฉู่อีอี้ตบหัวองครักษ์ด้วยความโมโห ”เจอบิดาของเฉินเอ่อแล้ว อนาคตพี่สะใภ้ของข้ากําลังจะถูกฉกไป ! เขายังจะมัวฝึกอะไรอยู่อีกล่ะ ?!”
องครักษ์ไม่กล้ากล่าวคําใดอีก เพราะรู้ดีว่าหากองค์หญิงน้อยตัดสินใจแล้ว ย่อมไม่มีผู้ใดขัดนางได้
หากแต่เขาไม่ได้บอกนางว่า ตอนนี้ประมุขน้อยเข้าสันโดษ แม้ว่านางจะส่งจดหมายถึงประมุขน้อย เขาก็ไม่ได้อ่านอยู่ดี
ทว่าเมื่อพิจารณาถึงระดับสติปัญญาของฉู่อีอี้แล้ว นางคงคิดไม่ถึงเรื่องนี้ เช่นนั้นนางจึงเร่งรีบเขียนจดหมายส่งหาพี่ชายอย่างตั้งอกตั้งใจ อย่างไรก็ตาม กว่าฉู่อี้เฟิงจะได้อ่านทุกอย่างก็สายเกินไป
ในสนามหลังบ้าน บริเวณศาลาหิน
สายลมพัดพริ้ว ชายผ้าสีแดงปลิวสะบัด ไป๋หยานทําสีหน้าถมึงทึงใส่บุรุษที่อยู่เบื้องหน้า นางแยกเขี้ยวขณะกล่าวว่า “ข้าก็ยอมให้เฉินเอ๋อรับท่านเป็นบิดาแล้ว หากท่านอยากพบเฉินเอ๋อ ท่านก็ไป๋หาเฉินเอ๋อได้ ไยท่านถึงได้ตามตอแยข้าตลอดเวลาเช่นนี้ ?”
ตี้คังหัวเราะเยาะ “เจ้าข่มขืนข้า ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้า เช่นนั้นเราก็ต้องพัวพันกันอย่างนี้ตลอดชั่วชีวิต !”
ไป๋หยานเริ่มโกรธ ก็ผู้ใดใช้ให้นางไปข่มขืนเขาเล่า ?
“ไป๋หยาน เฉินเอื้อมีเพียงข้าเท่านั้นที่เป็นบิดาเขาได้ ส่วนเจ้าก็มีเพียงข้าเท่านั้นที่เป็นสามีของเจ้าได้ !” ตี้คังก้าวออกมาข้างหน้าสองก้าว เขาบังคับเชยคางไป๋หยานขึ้น ”ข้าสัญญากับเจ้าว่าข้าจะไม่พรากเฉินเอ๋อไปจากเจ้า ทว่าเจ้าก็ต้องเป็นภรรยาของข้า”
“เจ้าต้องมีคู่ชีวิต และข้าจะเป็นคน ๆ นั้นสําหรับเจ้า !”
เจ้าต้องมีคู่ชีวิต และข้าจะเป็นคน ๆ นั้นสําหรับเจ้า !
นิ้วมือของไป๋หยานสั่นระริก ทว่าสีหน้าของนางเรียบเฉย ดูราวกับว่านางไม่ได้หวั่นไหวไปกับถ้อยคําเหล่านั้นแม้แต่น้อย
ครั้นเห็นเช่นนั้น คังก็คลายมือออก “ไม่เป็นไร หากตอนนี้เจ้ายังไม่ยอมรับข้า ข้าก็รอได้ อย่างไรก็ตาม ที่ข้ามาที่นี่เวลานี้ก็เพื่อคิดบัญชีกับเจ้า”
ไป๋หยานเงยหน้าขึ้น นางอ้าปากเหมือนกับจะกล่าวบางอย่าง ทว่าริมฝีปากของชายหนุ่มก็กดลงมาเรียบร้อยแล้ว มือใหญ่ ๆ ของเขาโอบกอดรอบแผ่นหลังของนางแน่นกระชับ กระทั้งหน้าอกของนางแนบสนิทกับแผ่นอกของเขา
จุมพิตที่ลึกล้ำและยาวนาน กระทั่งไป๋หยานกัดลิ้นเขา เขาจึงปล่อยนางออกจากอ้อมแขน เขาหัวเราะเสียงต่ำ ๆ ” หยานหยาน ริมฝีปากของเจ้าช่างวิเศษจริง มันทําให้ข้าหลงใหลมากขึ้นเรื่อยๆ..”
”ออกไปนะ !”
ไป๋หยานโกรธ จนตวาดออกมา
ชายผู้นี้มาที่นี่เพื่อจูบข้าแค่นั้นหรือ ?
ครั้งนี้ คงไม่ได้รู้จี้วุ่นวายเช่นเดียวกับครั้งก่อน ๆ เขาเพียงใช้นิ้วมือเสยเรือนผมสีดํายาวของนาง ก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากเบา ๆ
“เจ้ายังติดหนี้ข้าอีกหกจูบ ไว้ข้าจะมาหาเจ้าใหม่”
ไป๋หยานตกตะลึง นางคุ้นเคยกับการใช้กําลังคุกคามของอ๋องคัง ทว่านี่เป็นครั้งแรก ที่เห็นด้านอ่อนโยนของเขา
หากแต่เมื่อไป๋หยานต้องการจะกล่าวบางสิ่ง ร่างของคังก็หายไปแล้ว เหลือเพียงสายลมเย็นพัดดอกท้อร่วงหล่นเป็นสาย
***จบบท อ่อนโยนโดยพลัน (2)***