บทที่ 152 : อ่อนโยนโดยพลัน (3)
บนหน้าผากของนาง ยังมีไออุ่นจากริมฝีปากของเขาอยู่
ครั้นไป๋หยานกลับไปที่ลานหน้าบ้าน นางก็พบร่างที่คุ้นเคยเพิ่มมาอีกสองร่าง
ไป๋เสี่ยวเฉินเงยใบหน้าเล็ก ๆ ขึ้นมองไป๋หยานผู้ซึ่งกําลังเดินเข้ามาอย่างแช่มช้า พลันนัยน์ตากลมโตก็เปล่งประกายวิบวับ
เขาอยากจะพูดบางอย่างทว่าไป๋หยานห้ามไว้ก่อน ไป๋หยานหันไปมองใบหน้าสวย ๆ ของสตรีทั้งสองที่อยู่เบื้องหน้า
“อีอี้ เจ้าไม่รู้หรอกว่า ไปจอนั่นน่ะกระทําตัวน่าเกลียดเพียงใด ! นางไม่เพียงแต่กลั่นแกล้งรังแกพี่ไป๋หยาน นางยังกล้าแอบอ้างเป็นชายาอ๋องคัง ! โชคดีที่อ่องคังไม่ชอบนาง เลยสั่งขังนางเสียเลย”
หลานเสี่ยวหยุนกล่าวด้วยความรู้สึกโกรธ พูดถึงไปจ่อเมื่อใด นางก็อดไม่ได้ที่จะเช่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ส่วนฉู่อีอี้ครั้นนึกถึงใบหน้าของตี้คัง นางก็อดมิได้ที่จะแยกเขี้ยว ” ข้าเคยพบอ๋องคังที่เจ้าพูดถึง แม้ว่าข้าจะไม่ชอบขี้หน้าเขานัก ทว่าข้าก็ต้องยอมรับว่าเขาปราดเปรื่องมาก ไปงื่อนี้ก็ช่างกล้า นางใฝ่สูงถึงบิดาของเฉินเอ๋อได้เยี่ยงไร ?”
“เหตุใดเจ้าถึงไม่ชอบอ๋องคังล่ะ ?”
หลานเสี่ยวหยุนกระพริบตา มีหญิงสาวเพียงไม่กี่คนที่จะไม่หลงใหลในตัวอ๋องคัง นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ยินผู้หญิงบอกว่าไม่ชอบอ๋องคัง
ครั้นได้ยินเช่นนั้น ฉู่อีอี้ก็เบ้ปาก “ชายผู้นั้นนิสัยแย่มาก เขาต้องการจะตัดมือของไป๋หยาน”
” ทว่า….ในโลกนี้มีเพียงอ๋องคังเท่านั้นที่คู่ควรกับพี่ไป๋หยาน”
“ผู้ใดบอกล่ะ ? แม้ว่าพี่ชายของข้าจะหล่อไม่เท่าก๋องคัง ทว่านิสัยของพี่ชายข้าก็ดีกว่าหลายเท่านัก บุคลิกก็ดีกว่า ทั้งยังแข็งแกร่งมากด้วย นี่เฉินเอ๋อก็เคยสัญญากับข้าว่าจะช่วยพี่ชายของข้าจีบไป๋หยาน”
ฉู่อีอี้หันไปมองไป๋เสี่ยวเฉิน นางกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาที่ร้ายกาจของนางหลุกหลิกเล็กน้อย นางยิ้มพร้อมกับดึงตัวไป๋เสี่ยวเฉินเข้าหาตน “เฉินเอ๋อ เจ้ายังจะช่วยข้าใช่หรือไม่ ?”
ไป๋เสี่ยวเฉินมองฉู่อีอี้ ก่อนจะหันไปมองสตรีที่ยืนอยู่ด้านหลังนาง จากนั้นเขาก็กระพริบตา “หม่ามี้ของข้าอยู่ที่นั่น ท่านถามนางเองจะดีกว่านะ”
ใบหน้าของฉู่อีอี้แข็งค้าง นางค่อย ๆ หันศีรษะกลับไปมอง “ข้า…ข้าเพียงล้อเฉินเอ๋อเล่น…ฮี่ๆๆ”
ริมฝีปากของไป๋หยานเชิดขึ้น นางยิ้มไม่เหมือนยิ้ม “นี่เจ้ายังคิดหาทางสนับสนุนพี่ชายของเจ้าอีกกระนั้นหรือ ?”
รู่อีอี้รู้สึกละอายใจเล็กน้อย นางอยากประกาศจุดยืนของตน หากแต่นางก็กลัวว่าไป๋หยานจะไม่รักนาง
“พี่ไป๋หยานจ๋า…
นัยน์ตาของนางส่องประกายวิบวับ นางใช้สองแขนโอบเอวไป๋หยาน พร้อมกับใช้สายตาออดอ้อน
“ข้ารู้ว่าข้าผิดไปแล้ว อย่าผลักไสข้าเลยนะ ข้าสัญญาว่า ข้าจะไม่พยายามเกลี้ยกล่อมเจ้าให้แต่งงานกับพี่ชายของข้าแล้ว”
ครั้นเห็นไป๋หยานยังคงเฉยเมย แววตาของฉู่อีอี้ก็ยิ่งแลดูรันทดขึ้น
” พี่ไป๋หยาน พี่เปรียบเสมือนพี่สาวของข้า อย่าใจร้ายกับข้านักเลย ข้ายังไม่อยากกลับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาที่นั่นรู้จักแต่จะจํากัดเสรีภาพของข้า”
ก็แล้วเหตุใดพวกเขาถึงต้องจํากัด เสรีภาพของเจ้าล่ะ ?
มิใช่เป็นเพราะเจ้าชอบทําให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยุ่งเหยิงวุ่นวายหรอกรึ ?
ไป๋หยานยังตีหน้าเฉยเมยเฉกเช่นเคย
“เจ้ารู้ตัวว่าผิดหรือไม่ ?”
ฉู่อีอี้รีบพยักหน้าหมึก ๆ เพื่อแสดงความมุ่งมั่น
“ไม่มีโอกาสเป็นครั้งที่สองนะ” สีหน้าของไป๋หยานคลายลง ทว่ายังคงนิ่งเฉย
ฉู่อีอี้ยิ้มออกมาทันที นางรู้ดีว่าไป๋หยานนั้นแข็งนอกอ่อนใน
อีกด้านหนึ่ง หลานเสี่ยวหยุนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกไปด้วย เพราะนางกับฉู่อีอี้เพิ่งจะพบเจอกัน นางย่อมไม่อยากให้เพื่อนใหม่จากไปเร็วนัก
“หยุนเอ๋อ เจ้าเพิ่งบอกว่าพี่ใหญ่ของเจ้ากําลังจะเข้าวังหลวง เพื่อทําการลงโทษใช่หรือไม่ ?” ฉู่อีอี้หันไปทางเพื่อนใหม่ของนางพลางหัวเราะ “ข้าอยากเห็นวังหลวงจังเลย พาข้าไปดูด้วยนะ”
***จบบท อ่อนโยนโดยพลัน (3)***