บทที่ 154 : การแก้แค้นของคัง (2)
แท้จริงแล้ว โลกนี้นับถือเรื่องของศิลปะการต่อสู้เป็นปัจจัยสําคัญ ความแข็งแกร่งจะเป็นตัวกําหนดค่าของแต่ละบุคคล
เช่นนั้นเมื่อเจ้าบ้านสกุลหลานป่วยหนัก ไป๋เฉิงเซียงจึงกลายเป็นผู้ที่มีอํานาจสูงสุดในเมือง และนั่นก็ทําให้บ้านสกุลไปได้ก้าวขึ้นสู่ตระกูลชั้นนําอันดับต้น ๆ
หากแต่ในความเป็นจริงบ้านสกุลไป๋นั้นมีเพียงเปลือก ทว่าภายในกลับกลวงโป
“ให้ตามที่เขาว่า”
ขณะนั้นเองไป๋เฉิงเซียงซึ่งกําลังนอนอยู่บนเตียงก็เอ่ยออกมาด้วยน้ําเสียงที่อ่อนแรง “เราสามารถมอบสิบล้านเหรียญทองให้ได้ ทว่าต้องใช้เวลาในการจัดเตรียม”
“ดีมาก หากพวกเจ้าเตรียมทองคําได้เรียบร้อย ก็ให้ส่งไปที่บ้านของข้า จากนั้นข้าจะมอบยาเม็ดขั้นสามให้” หมอปรุงยาเฒ่ายิ้ม ” อย่าลืมว่า นอกจากยาเม็ดขั้นสามแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดสามารถฟื้นอาการของท่านเจ้าบ้านไป๋ได้”
ไป๋เฉิงเซียงกําผ้าปูเตียงแน่น เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะสงบสติอารมณ์ลงได้ “พวกเจ้าส่งท่านอาจารย์หยูหน่อย”
“เจ้าค่ะ นายท่าน”
สาวใช้นําทางหมอปรุงยาเฒ่าออกไป
ครั้นเหลือกันเพียงลําพังสองคน ไป๋เฉิงเซียงก็สั่งให้หยูหรงบิดประตู เขาลดเสียงลง พลางกล่าวว่า “ในอดีตข้าไม่เคยบีบบังคับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของข้า ด้วยเห็นแก่หน้าบ้านสกุลไป๋ ทว่าตอนนี้ไม่มีทางอื่นใดแล้ว เจ้าจงแจ้งพวกเขาให้รวบรวมเงินมาให้ข้าสิบล้านเหรียญทอง !”
ในโลกนี้ เหตุที่ว่าไยผู้ที่แข็งแกร่งจึงสามารถอยู่ในตําแหน่งสูง ๆ ได้ นั่นเป็นเพราะพวกเขาสามารถปล้นทรัพย์ผู้ที่อ่อนแอกว่าได้นั่นเอง
นอกจากนี้ ไป๋เฉิงเชียงเองก็รู้ตัวดีว่าเขามิใช่ผู้ที่เก่งกาจด้านการต่อรอง เช่นนั้นเขาจึงเลือกใช้วิธีที่ง่ายที่สุดเพื่อจัดการเรื่องนี้
“ได้ ข้าจะให้คนไปจัดการเรื่องนี้” หยูหรงมองหน้าสามีที่ทั้งบวมทั้งฟกช้ํา “ท่านพี่ ท่านยังไม่ได้บอกข้าเลยว่าเกิดอะไรขึ้น”
ทันทีที่พูดถึงเรื่องนี้อีกครั้งใบหน้าของไป๋เฉิงเซียงก็เย็นชาลง ” ทุกอย่างเกิดจากไปหยานบุตรสาวทรยศของข้า แท้จริงแล้วนางเป็นคนของฮัวหลัว …”
หลังจากนั้น เขาก็อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์โบราณด้วยน้ําเสียงที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
หยูหรงกระพริบตาปริบ ๆ ” คนอย่างฮัวหลัวจะใช้ไปหยานทําอะไรได้ ? ในความคิดของข้า บางทีไป๋หยานอาจจะขายตัวให้กับหอบุปผาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน แม้แต่สัตว์อสูรที่นางมอบให้กับบ้านสกุลหลานก็น่าที่จะได้มาจากการนี้เช่นกัน”
ยิ่งพูดนางก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องราวที่นางคิดนั้นยิ่งเต็มไปด้วยเหตุผล หากไป๋หยานมิได้เป็นเป็นนางคณิกาของหอบุปผา เหตุใดนางจึงเปลี่ยนไปได้มากมายถึงเพียงนี้ ?
“มิใช่เช่นนั้น” ไป๋เฉิงเซียงส่ายศีรษะ “มีหญิงสาวอีกคนอยู่ข้างกายไป๋หยาน นางมีองครักษ์ที่แข็งแกร่งเป็นจํานวนมาก ความแข็งแกร่งของพวกเขาเหล่านั้นมิได้ด้อยไปกว่าขั้นที่สามเทียนเจี่ย ยิ่งไปกว่านั้นไป๋หยานยังสามารถเข้านอกออกในคฤหาสน์โบราณได้อย่างอิสระ พิสูจน์ชัดว่าฐานะของนางย่อมไม่ธรรมดา ”
องครักษ์ขั้นที่สามเทียนเจี่ย ?
นอกจากนี้ประโยคถัดมาของไป๋เฉิงเซียงยิงพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของนาง
“นอกจากนี้ ข้ายังได้ยินองครักษ์พวกนั้นเรียกนางว่า องค์หญิงน้อยอีกด้วย”
หยูหรงลดสายตาลงเล็กน้อย ประกายดุดันปรากฏในแววตาของนาง “ท่านพี่ ครั้งที่ข้าพยายามสร้างสัมพันธ์กับมาม่าฉ่แห่งหอบุปผา มาม่าฉู่บอกข้าว่าดาวเด่นของหอบุปผามีฐานะเปรียบดั่งราชินีบุปผา หากจะเรียกว่าองค์หญิงก็มิใช่เรื่องแปลก บางทีพวกนางอาจกําลังเข้าไปพบฮัวหลัว และองค์หญิงอะไรนั่นก็อาจเป็นผู้ที่ฮัวหลัวสั่งให้ดูแลไป๋หยานก็เป็นได้”
“ทว่าอย่างไรเสียนางก็เป็นนางคณิกา ขายเรือนร่างก็คือขายเรือนร่าง ไม่อาจเปลี่ยนความจริงที่ว่านางเป็นหญิงแพศยาได้หรอก ! หยูหรงกัดฟันด้วยความเกลียดชัง
นางเข้าใจดีแล้วว่าเหตุใดมาม่านูถึงได้แปรพักตร์ นี้เป็นเพราะไปหยานเป็นถุงเงิน ถุงทองของหอบุปผานี้เอง !
ทั้งแม่ทั้งลูกต่างก็ขายตัวให้หอบุปผาไปแล้ว เหตุใดพวกเขาจึงต้องซื้อแม่ลูกคู่นั้นอีกล่ะ ?
ไป๋เฉิงเซียงชกเตียง นัยน์ตาของเขาเบิกโพลงด้วยความโกรธเกรี้ยว “เหตุใดสตรีที่ดีพร้อม สภาพอ่อนโยนอย่างเยี่ยเอ๋อ ถึงได้ให้กําเนิดบุตรสาวไร้ยางอายเช่นนั้นได้ ? ไหนจะเสียตัวให้กับชายอื่น แล้วนี่ยังจะขายตัวเพื่อแลกกับเงินอีก ?”
***จบบท การแก้แค้นของตี้คัง (2)***