บทที่ 155 : การแก้แค้นของคัง (3)
ใช่แล้ว แม้ว่าไป๋เฉิงเซียงจะมีหยุหรง และแม้ว่าเขาจะเกลียดไป๋หยาน อีกทั้งไม่ชอบไป๋เซียว หากแต่เขาก็ยังคิดว่าภรรยาคนแรกของเขานั้นดีที่สุดเสมอ
สตรีที่อ่อนโยน งดงาม ทว่าโง่เง่าหูหนวกตาบอดเช่นนางจะไม่ดีที่สุดได้อย่างไร ?
“ท่านพี่ หากอาการบาดเจ็บของท่านหายดีแล้ว เราก็ควรไปหาไป๋หยานอีกครั้ง ตอนนี้เราได้กุมความลับของนางไว้แล้ว เราควรใช้ความลับนี้ข่มขู่นาง จากนี้ไปเราก็ไม่ต้องกลัวว่านางจะปฏิเสธเราอีก”
ก็แค่นางโลมในหอบุปผา มีคุณสมบัติใดที่จะเป็นพระชายา เมื่อถึงเวลาข้าก็แค่ใช้ความลับนี้ข่มขู่นาง ข้าไม่กลัวแล้วว่าไป๋หยานจะไม่ยอมยกอ๋องคั่งให้จื่อเอ๋อ
“นี่….”
ไป๋เฉิงเซียงยังรู้สึกถึงลูกถีบอันดุเดือดของไป๋หยาน พลันเขาก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่กลางอก เขาไม่คล้อยตามหยูหรง ได้แต่กล่าวอย่างระมัดระวังพอเป็นพิธีว่า “ไว้รอให้ข้าหายก่อนค่อยว่ากัน”
หยูหรงไม่ทันสังเกตเห็นความลังเลใจของไปเฉิงเซียงเลยแม้แต่น้อย เพียงได้ยินเขารับคํานางก็ยิ้ม
“ท่านพี่ ข้าจะไปหาเงินให้ท่านก่อน ท่านจะต้องหายดีในไม่ช้า”
กล่าวจบหยูหรงก็สั่งให้สาวใช้เข้ามาดูแลสามีของนาง จากนั้นนางก็เดินออกไปจากห้อง
ครั้นออกมาถึงลานด้านนอก สีหน้าของหยูหรงก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที นางมองไปที่ประตูห้องไป๋เฉิงเซียงด้วยสายตาเย็นชา “หากเจ้ามิใช่เสาหลักของบ้านสกุลไปแล้วล่ะก็ ข้าจะไม่มีวันเสียเงินสิบล้านเหรียญทอง เพื่อซื้อยาเม็ดขั้นสามนั่นให้เจ้าเป็นแน่ ข้าหวังว่า ทันทีที่ข้าให้กําเนิดบุตรชาย ทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่จะตกเป็นของข้า !”
นางค่อย ๆ ลดศีรษะลงอย่างช้า ๆ พลันรอยยิ้มเยาะก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากนาง
มารดาของนางคํานวณไว้แล้ว ว่าวันนี้นางสามารถตั้งครรภ์ได้ ทั้งคืนนี้มารดาของนางยังเตรียมจัดหาชายหนุ่มไว้ให้นางอีกด้วย !
หลังจากนางตั้งครรภ์ ไป๋เซียวย่อมหมดความหมาย
ช่วงเวลานั้น หยูหรงไม่รู้ตัวเลยว่า ทุกสิ่งที่นางพูดตกอยู่ในสายตาของคนผู้หนึ่ง
*****
ณ ตําหนักอ๋องคัง ทหารองครักษ์ผู้หนึ่งกําลังคุกเข่าพลางกล่าวรายงานอย่างนอบน้อม เนื่องจากแรงกดดันที่แผ่ออกโดยรอบ ทําให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยศีรษะขึ้นหรือแม้แต่จะหายใจแรง ๆ
เพียงครู่ เสียงทุ่ม ๆ ของชายหนุ่มก็ดังขึ้น
” ดูเหมือนว่าไป๋เฉิงเซียงจะว่างมากเกินไปแล้ว แทนที่จะหาทางช่วยบุตรสาวคนเล็ก เขากลับไปสร้างปัญหาให้หยานหยาน เช่นนั้นข้าคงต้องหาอะไรสักอย่างให้เขาทํา”
ใบหน้าหล่อเหลาของตี้คังเผยรอยยิ้มเยาะ น้ําเสียงของเขาเย็นยะเยือก “นําคําสั่งของข้าไปแจ้งว่า หากไป๋เฉิงเซียงต้องการจะช่วยไป๋จื่อ เขาต้องนําสินสอดทองหมั้นของหลานเยี่ยมาเป็นประกัน”
ถึงเวลาที่สินสอดทองหมั้นควรจะกลับคืนสู่มือเจ้าของที่แท้จริงได้แล้ว
” พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง ข้าจะไปที่บ้านสกุลไป๋ ทันที …”
ก่อนที่องครักษ์จะทันกล่าวได้จบประโยค เขาก็ถูกขัดด้วยน้ําเสียงดุดัน “ผู้ใดบอกว่าข้าต้องการให้เจ้าไปที่บ้านสกุลไป๋”
“เช่นนั้น…. “
“ติดประกาศไว้ที่กําแพงเมือง”
การติดประกาศไว้ที่กําแพงเมือง หมายถึงทุกผู้คนย่อมต้องรู้เห็นกับสิ่งนี้
สีหน้าขององครักษ์แลดูตกตะลึง นี่นับเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ของบ้านสกุลไป๋
อย่างไรก็ตาม เขารู้นิสัยของอ๋องคังดี ว่าไม่มีทางปล่อยไป๋จื่อไปง่าย ๆ เป็นแน่
พลันเสียงอันเย็นชา และไร้ความรู้สึกก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ส่วนไป๋จื่อแม่คนใจร้อนหุนหันพลันแล่นนั่น ไม่รู้จักสมบัติผู้ดี ส่งนางไปให้หอบุปผาฝึกอบรมไว้ให้บ้านสกุลไป๋คืนสินสอดทองหมั้นก่อน ค่อยส่งตัวนางกลับ”
มุมปากขององครักษ์กระตุก เขารู้สึกว่า นับแต่ท่านอ๋องได้พบว่าที่พระชายา ท่านอ๋องก็ดูเหมือนจะใช้วิธีการไร้ยางอายมากขึ้นทุกที….
เพียงนางไม่รู้จักสมบัติผู้ดีไม่มีมารยาท ถึงกับส่งนางไปให้หอบุปผาสั่งสอน ? สถานที่แบบนั้นจะสอนมารยาทอะไร ? ที่นั่นเป็นสถานที่สําหรับบุรุษแสวงหาความสําราญมากกว่า !
***จบบท การแก้แค้นของตี้คัง (3)***