บทที่ 160 : โยนบาป (2)
เช่นนั้นย่อมไม่ผิดที่พวกเขาจะเรียกเด็กคนนี้ว่า “ท่านอ๋องน้อย”
“เจ้าทําข้าหกล้ม !” องค์หญิงนัยน์ตาแดงก่ำ นางใช้ความเร็วสูงสุดแล้วเมื่อครู่ ทว่าเหตุใดเด็กเดรัจฉานนี่ถึงยังหลบได้ ?
“องค์หญิงเด็กก็ยังเป็นเด็ก”
ใบหน้าของเหล่าองครักษ์ต่างก็ยุ่งยากใจ ท่านอ๋องคังมีคําสั่ง ทุกคนในตําหนักอ๋องคังนี่ต้องให้การเคารพนับถือว่าที่พระชายา และท่านอ๋องน้อย
แล้วองค์หญิงหกมาสั่งให้พวกเขาลงมือกับท่านอ๋องน้อยแบบนี้ หากอ๋องคั่งรู้ผู้ใดจะแบกรับไหว ?
“ข้าไม่สนใจ ! พวกเจ้ากล้าขัดใจข้ากระนั้นรึ?” องค์หญิงเตะทหารนายหนึ่ง “เร็วเข้าสิ อย่าลืมนะว่าเสด็จพ่อของข้ามอบหมายให้พวกเจ้ามาดูแลอ๋องคัง ที่สุดแล้วเสด็จพ่อของข้าต่างหากที่เป็นเจ้านายที่แท้จริงของพวกเจ้า !”
ทหารที่โดนเตะหน้าเสีย ยิ่งได้ยินถ้อยคําขององค์หญิง เขาก็ยิ่งหน้าซีด “องค์หญิง ท่านไม่ควรมีรับสั่งเช่นนั้น ในเมื่อฮ่องเต้ทรงมอบหมายให้พวกเราเป็นคนของอ๋องคั่งแล้ว เราก็ต้องเป็นคนของอ๋องคั่ง ยามนี้ พวกเราต้องปกป้องท่านอ๋องน้อย”
“เช่นนั้น ข้าลงมือเอง !”
องค์หญิงหกกัดฟัน นางหยิบแส้ออกมาจากเอวอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ฟาดแส้ใส่ไปเสี่ยวเฉิน
ในขณะที่แม้เกือบจะถึงตัวไปเสี่ยวเฉินนั้น เด็กน้อยก็ยกมือขึ้นเกาคอ ศีรษะของเขาเอียงเล็กน้อยทําให้รอดพ้นจากเส้นทางแส้อย่างหวุดหวิด
ครั้งแรกเรียกได้ว่าบังเอิญ ทว่าครานี้ล่ะ ?
ยังจะบังเอิญอีกกระนั้นหรือ ?
ครั้นทหารจากตําหนักอ๋องคังเห็นการกระทําขององค์หญิงหก พวกเขาก็เหงื่อแตก หากท่านอ๋องน้อยโชคร้ายหลบไม่ทันแล้วละก็ มีหวังหน้าแตกยับอย่างแน่นอน
หากท่านอ๋องคั่งกลับมาแล้วรู้เรื่องนี้เข้า ไม่เพียงแต่ท่านอ๋องจะเล่นงานองค์หญิงหก ทว่าพวกเขาก็ต้องตายตกตามไปด้วยอย่างแน่นอน
“องค์หญิงหก ขออภัยด้วย !”
หัวหน้าองครักษ์ขยิบตาส่งสัญญาณให้เพื่อนของเขา จากนั้นทหารในกลุ่มก็เข้ามาห้อมล้อมองค์หญิงหกอย่างรวดเร็ว
“น้าทหาร”
ในขณะที่ทหารกําลังจะเข้าจู่โจมนั้น น้ำเสียงที่นุ่มนวลและสดใสก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
บรรดาองครักษ์ต่างนิ่งงัน พวกเขาหันกลับมามองไปเสี่ยวเฉินผู้ซึ่งกําลังอุ้มแมวน้อยสีขาวในอ้อมแขน หัวหน้าองครักษ์โค้งคํานับ พร้อมกับเอ่ยถามอย่างสุภาพว่า “ท่านอ๋องน้อยต้องการให้พวกเราทําเช่นไร ?”
“อาม่าคนนี้คงอายุน้อยเลยไม่รู้ดีชั่ว เฉินเอ๋อไม่อยากถือสานาง ปล่อยนางไปเถอะ”
ยามนี้กลุ่มคนจํานวนมากได้มารวมตัวกันด้านหน้าตําหนักอ๋องคัง ต่างได้ยินถ้อยคําของไปเสี่ยวเฉิน พลันสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจก็จ้องมองไปที่องค์หญิงหก
อายุยังน้อยอะไรกัน ?
เด็กที่โดนรังแกนั่นเพิ่งอายุห้าขวบเองมั้ง ส่วนอีกฝ่าย คือองค์หญิงหกนั่นโตเป็นสาวแล้ว !
แต่เด็กน้อยกลับใจคอกว้างขวาง ขณะที่องค์หญิงหกนั่นคิดแต่จะรังแกคน ทั้งขู่จะฆ่า ๆ
“รับทราบ ท่านอ๋องน้อย”
ครั้นได้ยินคําสั่งจากไปเสี่ยวเฉิน พวกทหารก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ว่ากันตามตรง พวกเขาก็ไม่อยากปะทะองค์หญิง ทว่าเพื่อป้องกัน ไม่ให้อ๋องคังโกรธ พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินหน้า
แต่เมื่อนี่เป็นคําสั่งของท่านอ๋องน้อย แม้ว่าองค์หญิงหกจะรอดมือไปได้ อ๋องคังก็ตําหนิพวกเขาไม่ได้
“พวกเจ้าคอยดู !”
องค์หญิงหกจัดทรงผมที่กระเซอะกระเซิงของนางอย่างรวดเร็ว พร้อมกับจ้องมองไปเสี่ยวเฉินอย่างดุดัน ก่อนจะแหวกทางฝูงชนจากไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากเวลาผ่านไปเพียงครู่ ฝูงชนต่างก็แยกย้ายกระจัดกระจาย บรรดาทหารจากตําหนักอ๋องคังต้องการที่จะคุ้มกันไปเสี่ยวเฉิน ทว่าเด็กน้อยกลับขับไล่พวกเขา
ล้อเล่นน่ะ
เขาจะลงมือได้อย่างไร หากมีทหารพวกนี้ตามติดตลอดเวลา ?
“นายน้อย บอกข้าหน่อยเถิดว่า ท่านวางแผนชั่วอะไรอีก ?”
หลังจากที่ทุกคนจากไปแล้ว เสี่ยวมี่ก็เลียอุ้งเท้าพร้อมกับเอ่ยถามเรียบ ๆ
หากไม่ได้วางแผนจะทําอะไรองค์หญิงแล้ว ด้วยนิสัยของนายน้อย ย่อมไม่มีทางที่เขาจะปล่อยนางไปง่าย ๆ เป็นแน่
“เสี่ยวมี่ ดูนี่สิ ข้าได้ของสิ่งนี้มาจากอาม่าใจร้ายนั่น”
***จบบท โยนบาป(2)***