บทที่ 164 : องค์หญิงผู้โชคร้าย (2)
”ต้องโทษเราต้องโทษเราเอง !” สุรเสียงของหนานกงหยวนสั่นเทา “แต่เดิมเราคิดว่าเจ้าจะไม่ไปยั่วยุเขา นั่นคือเหตุผลที่เราไม่เคยบอกเจ้าเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเขา นับแต่ไป๋หยานกลับมาทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด”
ก่อนที่ไป๋หยานจะกลับมาตี้คังอยู่ในอาณาจักรนี้เนิ่นนานหลายปีโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ครั้นไป๋หยานกลับมาทั้งองค์ชาย องค์หญิง แม้แต่ฮองเฮาต่างก็เดือดร้อนไปทั่ว เพราะไปยั่วยุเขา
”วันนี้เจ้าต้องไปขอโทษเขาหาไม่แล้วอาณาจักรนี้อาจถูกทำลายลงด้วยมือของเจ้า !”
กระไรนะ?
องค์หญิงหกเงยหน้ากัดริมฝีปากแน่น”เสด็จพ่อ ที่พระองค์ตรัสมาหมายความเช่นไร ?”
หนานกงหยวนหัวเราะหยัน”เจ้ารู้หรือไม่ว่า ครั้งแรกที่เราพบตี้คังนั้นสถานการณ์เป็นเช่นไร ?”
”เรายังจำได้อย่างชัดเจนว่าเขาถูกยอดฝีมือระดับหวังเจี่ย(ระดับราชา) จำนวนนับไม่ถ้วนไล่ล่า เราคงไม่จำเป็นต้องอธิบายหรอกนะว่า ยอดฝีมือระดับหวังเจี่ย (ระดับราชา) นั้นมีพลังสูงส่งเพียงใด ภายในอาณาจักรนี้มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ก้าวเข้าถึงระดับนั้น”
”ทว่าภายใต้การล้อมกรอบของยอดฝีมือระดับหวังเจี่ยตั้งมากมายเจ้าลองเดาสิว่าตี้คังรอดพ้นจากคนพวกนั้นมาได้อย่างไร ?”
องค์หญิงหกใจสั่นสะท้านนางกำมือแน่น ริมฝีปากของนางซีดขาว
”ตี้คังเอาชนะบรรดายอดฝีมือระดับหวังเจี่ยได้เช่นนั้นหรือ?
ครั้นเห็นใบหน้าซีดขาวขององค์หญิงหกแล้วหนานกงหยวนก็สั่นศีรษะ
ทว่าในใจขององค์หญิงหกกลับไม่ได้รู้สึกดีขึ้นจากปฎิกิริยาของพระบิดาของนางหากแต่กลับยิ่งตึงเครียดหนักกว่าเดิม นางมองหนานกงหยวนนัยน์ตาไม่กระพริบ
หวนนึกถึงฉากในตอนนั้นแล้วหนานกงหยวนก็ยังตกพระทัยไม่หาย รอยสรวลแปลก ๆ ปรากฏขึ้นบนพระโอษฐ์ “ตี้คังกำจัดยอดฝีมือระดับหวังเจี่ยพวกนั้น ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว ! เพียงครั้งเดียวเท่านั้น !”
บูม!
ราวสายฟ้าฟาดลงกลางใจองค์หญิงหกตัวสั่นเทา ใบหน้าของนางตื่นตระหนก
ที่สุดนางก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดพระบิดาของนางถึงกลัวอ๋องคัง นางช่างโง่เง่าจริง ๆ ที่คิดจะใช้อำนาจของฮ่องเต้กดดันเขาให้อภิเษกสมรสนางเป็นพระชายา….
”เราไม่มีวันลืมภาพที่เห็นในวันนั้นเลยยอดฝีมือระดับหวังเจี่ยจำนวนมากมายทั้งแข็งแกร่งทั้งทรงพลัง ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าตี้คังแล้วกลับไม่ต่างใดจากมดตัวน้อย ๆ หาไม่แล้ว เหตุใดเราต้องยอมตามใจเขาไปทุกสิ่งเล่า ผู้ใดบ้างจะกล้าต่อกรกับพญายมเช่นเขา ? ”
ในใจขององค์หญิงหกนั้นทั้งตรอมตรมทั้งขมขื่นกระทั่งน้ำตาร่วง “เสด็จพ่อ ในเมื่อพระองค์ก็ทรงทราบว่าอ๋องคังแข็งแกร่งถึงเพียงนั้น ก็แล้วเหตุใดพระองค์ถึงยังพาเขาเข้ามาในอาณาจักรของเราอีก ? … ”
หากพระบิดาของนางไม่พาอ๋องที่หล่อเหลาดึงดูดสตรีเพศผู้นั้นเข้ามาในอาณาจักรบางทีนางก็คงไม่ต้องพบเขา แล้วก็ไม่ต้องลุ่มหลงรักใคร่ชายน่ากลัวผู้นี้
”เรามิได้ต้องการให้เขาเข้ามาในอาณาจักรของเราทว่าเป็นเขาเองต่างหากที่ต้องการจะมา เขาบอกว่าการเป็นคนในราชวงศ์จะทำให้เขาค้นหาใครบางคนได้ง่ายขึ้น ตอนนี้ดูเหมือนว่าผู้ที่เขากำลังตามหาอยู่ตลอดเวลานั่น ก็คือไป๋หยาน !”
เหตุใดคนที่มีพลังสูงส่งเช่นนั้นถึงไม่อยากเป็นฮ่องเต้เสียเอง? เพราะหากเขาต้องการ บัลลังก์ฮ่องเต้ก็จะเปลี่ยนมือทันที
องค์หญิงหกรู้สึกว่าในกระเพาะของนางกำลังปั่นป่วนกระทั่งนางต้องใช้มือกุมหน้าท้องแน่น พลางกัดริมฝีปากจนเลือดห้อ เพียงเพื่อระงับความอิจฉาริษยาในหัวใจตน ไม่ให้ใจของนางเจ็บปวดมากนัก
”เสด็จพ่อลูกเข้าใจแล้วเพคะ ลูกจะไปร้องขอความเมตตาตามที่ทรงมีพระประสงค์”
นางเงยหน้าขึ้นใบหน้าเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
นางโทษหนานกงหยวนพระบิดาของนางว่าเหตุใดก่อนหน้านี้เขาถึงไม่บอกนางเกี่ยวกับความน่ากลัวของตี้คัง ?
นางเกลียดไป๋หยานยิ่งกว่าเดิมเพราะไป๋หยานขโมยบุรุษของนางไป !
ทว่า!
ไป๋หยาน..เจ้าหัวเราะได้อีกไม่นานนักหรอกผู้ที่แกร่งกล้าทรงพลังเช่นนั้น ไหนเลยจะรักเดียวใจเดียว ? ไม่ช้าก็เร็ว ตี้คังจะต้องทิ้งเจ้าอย่างแน่นอน !
”ฝ่าบาทเกิดเรื่องแล้วพ่ะย่ะค่ะ !”
ทันใดนั้นเองขันทีก็วิ่งเข้ามาอย่างตื่นตะหนก พร้อมกับเหงื่อท่วมตัว เสียงเล็ก ๆ ของเขาฟังดูตื่นเต้นกระตือรือร้น
***จบบท องค์หญิงผู้โชคร้าย (2)*-*-*