บทที่ 166 : องค์หญิงผู้โชคร้าย (4)
”ไป๋หยานโอกาสหน้าข้าจะไม่ทำให้เสียเปล่าอีก หากข้าสามารถฉวยอะไรมาได้ข้าจะริบมาให้หมด”
ไป๋หยานลูบคางเบาๆ พลางพยักหน้าอย่างจริงจัง “เอาล่ะ จำไว้ว่าครั้งต่อไปอย่าให้เปล่าประโยชน์เช่นนี้อีก เจ้าควรจะ … ” ก่อนที่นางจะทันกล่าวได้จบประโยค ใบหน้าของนางพลันเปลี่ยนไป
ฉู่อีอี้ไม่เข้าใจว่าจู่ ๆ เหตุใดไป๋หยานจึงมีท่าทีแปลกไป ทว่าทันทีที่นางหันหลังกลับไปมอง นางก็รับรู้ ทั้งสามัญสำนึกก็เริ่มจะหวาดกลัว
”ไป๋หยานข้าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ข้ามีบางอย่างต้องทำ ข้าขอตัวก่อน”
ทันทีที่เด็กสาวกล่าวจบนางไม่รอให้ไป๋หยานรับคำ นางรีบวิ่งตัวปลิวไปที่ลานหลังบ้านทันที
ไป๋หยานเม้มปากขณะจ้องมองบุรุษเจ้าเสน่ห์ที่มายืนอยู่เบื้องหน้า พลางกัดฟันกล่าวว่า “ดูเหมือนท่านจะเห็นว่าบ้านของข้าเป็นบ้านของท่านไปแล้ว”
ชายหนุ่มรูปงามเลิกคิ้วเอ่ยกล่าวว่า”ก็ตำหนักของข้าถูกบุตรชายของเราเผาเกลี้ยงแล้ว”
เขาไม่ได้กล่าวว่าบุตรชาย”ของเจ้า” หากแต่เป็นบุตรชาย “ของเรา”
”มีหลักฐานใดพิสูจน์ว่าเฉินเอ๋อเป็นผู้วางเพลิง?”
”ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้วางเพลิงหรือไม่ทว่าตอนนี้ข้าเป็นคนไร้บ้านแล้ว แน่นอนว่าข้าต้องมาอาศัยอยู่กับเจ้า”
ไป๋หยานมองหน้าชายไร้ยางอายผู้นี้พร้อมกับสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ข้าปฏิเสธได้หรือไม่ ?”
”ได้”
ตี้คังตอบกลับอย่างรวดเร็วกระทั่งไป๋หยานคาดไม่ถึง นางมองเขาด้วยความประหลาดใจ “ก็แล้วเหตุใดท่านจึงยังอยู่ที่นี่อีก ?”
”ก็อยู่เพื่อขึ้นเตียงกับเจ้า”
ตี้คังดึงไป๋หยานเข้าสู่อ้อมแขนมือใหญ่ ๆ ของเข้าเลื่อนเข้าไปใต้อาภรณ์ของนาง นิ้วเรียวยาวของเขาไต่ลงไปลูบไล้ต้นขาที่เนียนเรียบของนางอย่างอ่อนโยน
ร่างของไป๋หยานสั่นสะท้านนางคำรามด้วยความโมโห “ท่านบอกเองว่าข้าปฏิเสธได้ เหตุใดท่านจึงยังไม่ไปอีก !”
”ข้าเพียงบอกว่าเจ้าสามารถปฏิเสธได้ แต่ข้าไม่ได้บอกว่า ข้าจะยอมทำตามคำปฏิเสธของเจ้า … ” ริมฝีปากของตี้คังเชิดขึ้น รอยยิ้มของเขาดึงดูดใจ
“ไร้ยางอายจริงๆ !”
ไป๋หยานยกขาเล็งไปที่เป้ากางเกงของเขาด้วยความโกรธ
ตี้คังไม่หลบหรือแม้แต่จะหยุดนางเขาปล่อยให้นางเตะเป้าเขาอย่างง่ายดาย
จากนั้นเข้าก็มีทีท่าฮึดฮัดเขาจับมือของไป๋หยานแน่น “ในเมื่อเจ้าเตะเป้าข้าแล้ว เจ้าก็ต้องรับผิดชอบ ไม่ต้องเสียเวลาทำความสะอาดห้อง เพียงมีที่สำหรับเราสองคนพอซุกนอนก็พอ”
”อ๋องคัง!” ไป๋หยานดึงสาบเสื้อของเขาพร้อมกับคำราม “วันใดที่ข้าแข็งแกร่งกว่าท่าน วันนั้นข้าจะกดท่านลงกับพื้นให้หนักไม่ให้ท่านมีโอกาสพลิกตัวได้เลย !”
“เจ้ายังต้องการกดข้าอีกงั้นหรือ? เช่นนั้นก็ไปกดกันที่เตียงเลยจะดีหรือไม่ ? เมื่อหกปีก่อนเจ้าเองก็เคยกดข้ามาแล้ว ข้าไม่รังเกียจหากเจ้าจะถอดเสื้อผ้า และทำเช่นเดียวกับวันนั้นอีกครั้ง…”
ไป๋หยานมีทีท่าเย้ยหยัน”ต่อให้ข้าถอดเสื้อผ้าออก ท่านก็ไม่สามารถทำเรื่องอย่างว่าได้หรอก”
หลายวันก่อนนางวางยาพิษตี้คัง นี่ผ่านมายังไม่ถึงเดือนเลย เขาไม่มีทางทำเรื่องอย่างว่ากับนางได้เป็นแน่…
ตี้คังหรี่ตาลงก่อนจะคว้ามือของไป๋หยานไปวางที่ส่วนล่างกลางกายของเขา “เจ้าลองสัมผัสด้วยตนเองดีกว่ามั้ย ?”
”ท่าน… ”
ไป๋หยานกำลังจะโกรธมากขึ้นทว่าทันทีที่มือของนางสัมผัสกับจุดลับร้อน ๆ ความร้อนเร่านั่นก็ทำให้ใบหน้าของนางเปลี่ยนสี นางรีบหดมือกลับด้วยความรวดเร็ว
”ท่านไม่ได้โดนพิษของข้ากระนั้นรึ?”
เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?
ตี้คังยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์”โลหิตของข้าสามารถขจัดพิษได้ หลังจากโดนเจ้าวางยาในวันนั้น ข้าใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วยามก็สามารถขจัดพิษได้สิ้น ดูสิว่าตอนนี้เจ้ายังมีอะไรจะหลอกล่อข้าอีก ?”
ใบหน้าของไป๋หยานมืดมนลงอย่างสิ้นเชิงนางรีบสะบัดตัวหลุดออกจากวงแขนของชายหนุ่ม พร้อมกับถอยหนีอย่างร้อนรน
”อ๋องคังท่านมันเดรัจฉาน !”
”ข้าเป็นเดรัจฉานเจ้าเรียกข้าว่าเดรัจฉานก็ไม่ผิด ทว่า… ” นัยน์ตาเรียวคมของตี้คังเต็มไปด้วยประกายวาววับราวกับปีศาจกำลังหัวเราะ “จากนี้ไป ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นว่า สิ่งใดคือเดรัจฉานจริง ๆ !”
ไป๋หยานเกือบลืมชายผู้นี้เป็นสัตว์อสูร การเรียกเขาว่า “เดรัจฉาน” ก็ถูกต้องแล้ว
ทั้งเขายังเป็นจิ้งจอก…จิ้งจอกเจ้าเล่ห์เขี้ยวลากดินอีกด้วย !