บทที่ 171 : ข่มขู่ (2)
ไป๋หยานนิ่งอึ้งนางมองไป๋เฉิงเซียงด้วยความประหลาดใจ
ที่ผ่านมานางคิดเพียงว่าเขาไม่ต้องการคืนสินสอดทองหมั้น หากแต่ไม่เคยนึกว่าเขาจะมีความทะเยอทะยานมากมายถึงเพียงนี้…
โฮะโฮะ คิดว่าบุรุษที่น่ากลัว และเจ้าเล่ห์เยี่ยงตี้คังจะถูกหลอกได้ง่าย ๆ กระนั้นรึ ?
ครั้นเห็นไป๋หยานไม่กล่าวคำใดไป๋เฉิงเซียงก็คิดว่านางคงกลัว เขาจึงอมยิ้มอย่างภาคภูมิ พลางกล่าวว่า “ไป๋หยาน ตราบใดที่เจ้าเชื่อฟังข้า ข้าก็จะช่วยเจ้าเก็บความลับ”
ไป๋หยานมองสีหน้าราวกับผู้มีชัยของไป๋เฉิงเซียงนางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “อยากจะพูดอะไรก็พูด แล้วแต่ท่านเถิด ทว่าสินสอดทองหมั้นกับยาเม็ดจิตวิญญาณต้องคืนมาให้ครบ ขาดไม่ได้แม้แต่เม็ดเดียว หาไม่แล้วข้าจะทำให้ความแข็งแกร่งของท่านกลับคืนสู่จุดเดิม !
หากไป๋เฉิงเซียงรนหาที่ตายไยนางต้องขวางด้วยเล่า ? นางอยากเห็นว่าเขาจะตายยังไงต่อหน้าอ๋องคังมากกว่า
ไป๋เฉิงเซียงยิ้มค้างเขามองไป๋หยานอย่างไม่เชื่อสายตา “เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะเปิดเผยความลับของเจ้ากระนั้นหรือ ?”
หญิงผู้นี้ยังคิดจะล่อลวงอ๋องคังนางไม่กลัวเกรงอันใด ทั้งยังนิ่งสงบอยู่ได้
”ท่านจะกลับออกไปเองหรือจะให้ข้าโยนท่านออกไป” ไป๋หยานเท้าคาง หรี่ตามองไป๋เฉิงเซียง รอยยิ้มของนางหยามเหยียด ราวกับไม่ใส่ใจถ้อยคำของเขาเลยแม้แต่น้อย
”ไป๋หยานเจ้า…”
”ภายในสามวันคืนยาเม็ดจิตวิญญาณที่มารดาของข้ามอบให้ท่านมาให้หมด หาไม่แล้วความแข็งแกร่งของท่านจะถูกลดทอนกระทั่งเหลือเท่าเดิม !” รอยยิ้มจางหายไปจากใบหน้าของนาง นางเอ่ยกล่าวพร้อมแววตาคมเฉียบว่า “ใครก็ได้มาส่งคน ๆ นี้ออกไปหน่อย ! อ้อ ! ทว่า ชุดที่เขาสวมใส่อยู่นี้น่าจะใช้เงินจากสินสอดของแม่ข้าซื้อหามา เช่นนั้นก็ถอดมันคืนให้ข้าด้วย”
ทันทีที่นางกล่าวจบชายหลายคนก็ปรากฏกายขึ้น
แม้นางจะใช้คำว่า‘ส่ง’ หากแต่คนพวกนั้นก็จับไป๋เฉิงเซียงโยนออกไปอยู่ดี ทั้งยังถอดเสื้อผ้าของเขาออกก่อนจะโยนเขาออกไปที่ท้องถนนด้วย
แน่นอนว่าไป๋เฉิงเซียงไม่อาจต่อต้านคนเหล่านั้นทว่าเขากลับต้องหวาดหวั่นด้วยซ้ำ เมื่อตระหนักได้ว่าความแข็งแกร่งของคนเหล่านั้นก็อยู่ในขั้นที่สาม เทียนเจี่ยเช่นเดียวกับเขา
เหตุใดนางคณิกาของหอบุปผาถึงมีผู้คุ้มกันระดับนี้ได้? ด้วยความแข็งแกร่งของคนเหล่านี้ แน่นอนว่าหากพวกเขาออกจากหอบุปผา พวกเขาย่อมต้องเป็นที่ยำเกรงของผู้คนทั่วทุกพื้นที่
หากแต่บัดนี้คนเหล่านั้นกลับคุ้มกันนางคณิกาของหอบุปผาเพียงคนเดียว?
ก่อนที่ไป๋เฉิงเซียงจะทันได้คิดอะไรมากไปกว่านี้บรรดาจีนมุงก็ได้เข้ามารวมตัวกันรอบ ๆ เขาแล้ว เขารีบใช้มือปิดบังใบหน้า จากนั้นก็รีบเดินจ้ำอ้าวจากไปอย่างว่องไว เพื่อไม่ให้ผู้คนจดจำหน้าเขาได้
ทว่าโชคไม่ดีเลยไป๋เฉิงเซียงเป็นคนมีชื่อเสียงมากในอาณาจักรหลิวฮั่ว ทันทีที่เขาปรากฏตัวอยู่นอกคฤหาสน์โบราณ ก็มีคนจดจำเขาได้ เช่นนั้นชื่อของเขาก็ยิ่งขจรขจาย ทว่าในทางที่ไม่ดีนะ
ภายในคฤหาสน์โบราณไป๋หยานยังคงมองตามทิศทางที่ไป๋เฉิงเซียงจากไป พลางจิบน้ำชาเบา ๆ
จู่ๆ ฮัวหลัวก็ปรากฏกายขึ้น นางมีท่าทีครุ่นคิดเพียงครู่ ก่อนจะเอ่ยถามว่า “นายหญิง เราจะปล่อยให้เขาทำเช่นนั้นหรือ ?”
ไป๋หยานยิ้มเล็กน้อย”ในเมื่อเขาต้องการขุดหลุมฝังตัวเอง ไยข้าต้องขวางด้วย”
”นายหญิงนับจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนั้น มาม่าฉู่ก็ไม่สามารถเข้าใกล้หยูหรงได้อีก เช่นนั้นข้าน้อยคิดว่า ท่านไม่จำเป็นต้องปิดบังตัวตนอีกต่อไปแล้ว”
เดิมทีที่ไป๋หยานไม่เปิดเผยฐานะของตนก็เป็นเพราะนางต้องการให้มาม่าฉู่ตีสนิทกับหยูหรง ทว่าตอนนี้เรื่องแตกแล้ว เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังสิ่งใดอีก
ไป๋หยานไม่ตอบในทันทีทว่านางถามกลับ “มาม่าฉู่รู้อะไรมาบ้าง ?”
”เราพบเบาะแสบางอย่างแต่ยังไม่อาจยืนยันได้” ฮัวหลัวมองไป๋หยานครู่หนึ่ง ความห่วงใยปรากฏบนใบหน้าของนาง “เราได้รับทราบมาจากหมอตำแยที่เคยทำคลอดแม่นางหลานเยี่ยว่า แม่นางหลานเยี่ยเคยคลอดเด็กที่ตายตั้งแต่อยู่ในครรภ์… ”
มือของไป๋หยานที่กำถ้วยชาเคลือบคลายอย่างฉับพลันถ้วยชาร่วงตกกระทบพื้นแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย