บทที่ 176 : ขโมยยาเม็ดจิตวิญญาณ ? (5)
”ข้าไม่เป็นไร”ไป๋เซียวเช็ดเลือดออกจากมุมปาก “เอายาอายุวัฒนะไปให้เขา เขาเป็นสหายเก่าของข้า”
”ขอรับคุณชายไป๋” หลังจากรับคำแล้ว ชายผู้นั้นก็รีบวิ่งไปที่ด้านข้างของเด็กหนุ่มที่หมดสติ
ครั้นเห็นเช่นนั้นนัยน์ตาของหยูเฟยพลันแดงก่ำด้วยความโกรธ “หยุดนะ ! นั่นคือของ ๆ บ้านสกุลไป๋ ซึ่งหมายความว่ามันเป็นของน้องสาวข้า ผู้ใดอนุญาตให้เจ้าใช้มันกับคนนอก”
ไป๋เซียวจะมียาอายุวัฒนะได้อย่างไรนี่ต้องเป็นทรัพย์สินที่ถูกขโมยมาจากบ้านสกุลไป๋เป็นแน่ และถึงแม้ว่าไป๋เซียวจะได้รับมาอย่างชอบธรรม ทว่ายาเม็ดนั่นก็นับเป็นของน้องสาวเขาอยู่ดี
แล้วยาดีๆ เช่นนี้ เหตุใดจึงเอามาให้คนนอกเล่า ?
หากเขาจะมอบยาอายุวัฒนะให้กับคนนอกเช่นนั้นก็ควรมอบให้ข้า !
แน่นอนว่าประโยคสุดท้ายนี่แหละคือเหตุผลที่แท้จริงของหยูเฟย
”ท่านพ่อนั่นมันยาอายุวัฒนะนี่ ข้าต้องการมัน !”
บุตรชายของหยูเฟยดึงแขนเสื้อบิดาของตนขณะเดียวกันก็จ้องมองเม็ดยาในมือของผู้อารักขา เขากลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความละโมบ
”ท่านพ่อไป๋เซียวต้องขโมยยาอายุวัฒนะจากบ้านสกุลไป๋มาจำนวนมากเป็นแน่ ข้าต้องการมัน ข้าต้องการมัน !” เด็กหญิงอีกคนหนึ่งกล่าว “ยิ่งไปกว่านั้น คนชั้นต่ำนี่มีสิทธิ์อะไรที่จะได้รับยาเม็ดนี่ ? ควรเอามาให้พวกเราดีกว่า !”
ครั้นได้ยินคำร้องขอจากพี่ชายและน้องสาวคู่นี้ ใบหน้าของหยูเฟยก็อ่อนลง “เอาล่ะ ข้าจะเอายานั่นมาให้พวกเจ้าเอง ไม่ต้องห่วง”
ยาเม็ดเหล่านั้นเป็นของไป๋เซียวเขาย่อมสามารถมอบให้ผู้ใดก็ได้ที่เขาต้องการ
ทว่าผู้อารักขาไม่ใส่ใจหยูเฟยเขาเดินไปข้าง ๆ ชายหนุ่ม จากนั้นก็ป้อนยาอายุวัฒนะใส่ปากของชายหนุ่มผู้หมดสติ
”เจ้ากล้าดียังไง!” หยูเฟยโกรธจัดที่เห็นผู้อารักขายังดื้อด้าน “เจ้าเป็นเพียงสุนัขรับใช้ของบ้านสกุลไป๋ เจ้ากล้าเอาของ ๆ สกุลไป๋ไปให้ผู้อื่น คอยดูเถอะ ข้าจะให้ไป๋เฉิงเซียงสังหารเจ้า และไป๋เซียวเด็กไร้ค่านั่นพร้อมกันซะเลย !”
เนื่องจากผู้อารักขาคอยติดตามไป๋เซียวหยูเฟยจึงสันนิษฐานว่าชายผู้นี้คงทำงานให้กับบ้านสกุลไป๋ ในเมื่อเขาเป็นพี่ชายคนโตของฮูหยินไป๋ เหตุใดชายผู้นี้จึงกล้าเพิกเฉยใส่เขา ?
ครั้นได้ยินถ้อยคำของหยูเฟยใบหน้าของชายคนนั้นก็เย็นชาลงทันที เขาเป็นยอดฝีมือขั้นสูงที่อยู่ในตำแหน่งผู้คุ้มกฎซ้ายของหอบุปผา ไหนเลยจะยอมให้ชายสารเลวคนนี้ กล้าดีมาเรียกเขาว่าสุนัขรับใช้ ? …
“ต่อให้เจ้าบ้านสกุลไป๋มายืนอยู่ต่อหน้าข้าเขาก็ไม่กล้าเอ่ยว่าข้าเป็นสุนัขรับใช้ !” ผู้คุ้มกฎซ้ายหัวเราะเยาะ พร้อมกล่าวเย้ยหยัน
ครั้นได้ยินถ้อยคำดังกล่าวหยูเฟยก็หัวเราะเหยียดหยาม “เจ้าเป็นเพียงผู้คุ้มกันเล็ก ๆ กล้าทำตัวโอหังต่อหน้าข้ากระนั้นรึ ? หากเจ้าเก่งกาจสามารถจริง ไหนเลยจะต้องมาฟังคำสั่งไป๋เซียว ? กะแค่ผู้คุ้มกันกระจอก ๆ เพียงข้าใช้มือข้างเดียวก็สามารถขยี้เจ้าจนตายได้แล้ว !”
แววตาของผู้คุ้มกฏซ้ายเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยคนพวกนี้สมควรตายจริง ๆ เหตุใดทุกคนที่เกี่ยวข้องกับไป๋เฉิงเซียงถึงได้ชอบรนหาที่ตายกันนักนะ ?
”ขออภัยข้าไม่ต้องใช้มือก็จัดการกับเจ้าได้”
ปัง!
ทันทีที่กล่าวจบประโยคก็ราวกับมีกำปั้นยักษ์ชกเข้ากลางลำตัวของหยูเฟย ร่างของเขาลอยละลิ่วเข้าหาฝูงชนทันที
”ผู้ใดผู้ใดทำร้ายข้า ? !” หยูเฟยลุกขึ้นด้วยความโมโห ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
ส่วนชายที่ยืนอยู่เบื้องหน้าไป๋เซียวนั้น
เขาไม่เห็นหยูเฟยอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ
เหตุใดผู้คุ้มกันเล็กๆ จึงทรงพลังได้ถึงเพียงนี้ เหตุใดเขาไม่เข้าร่วมกับราชสำนัก หรือหอบุปผาเล่า มาอยู่กับบ้านสกุลไป๋ด้วยเหตุใด ?
”พี่ใหญ่!” ทันใดนั้นเอง เสียงดังกระหึ่มก็พุ่งทะลุแหวกอากาศมาจากด้านหลัง
ครั้นฝูงชนหันกลับไปมองแหล่งที่มาพวกเขาก็เห็นไป๋เฉิงเซียงและหยูหรงมาพร้อมกับคนของพวกเขา
***จบบท ขโมยยาเม็ดจิตวิญญาณ ? (5)***