บทที่ 179 : ผู้แข็งแกร่งกว่าย่อมชนะ (2)
แน่นอนว่าทันทีที่ถ้อยคำดังกล่าวกระจายสู่ฝูงชน ผู้คนต่างก็รู้สึกไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน พวกเขาได้แต่ยืนอึ้งกันไปหมด
ไหนอ๋องคังบอกว่าไป๋หยานเป็นผู้หญิงของเขาอีกทั้งเด็กไม่มีพ่อคนนั้นก็ยังเป็นบุตรชายของเขาด้วยมิใช่หรือ ? ก็แล้วเหตุใดบ้านสกุลไป๋กลับบอกข่าวที่น่าตื่นตกใจเช่นนี้ !
”เจ้ากล่าววาจาไร้สาระ!”
ผู้คุ้มกฏซ้ายของหอบุปผาตวาดเขาได้รับมอบหมายให้อารักขาไป๋เซียว ตราบใดที่ไป๋เซียวปลอดภัยเขาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ต่อสู้
หากแต่เมื่อมีคนใส่ความนายหญิงของเขาเขาก็กระโดดออกมากล่าวด้วยความโมโห “เจ้าว่าใครเป็นคณิกาดาวเด่น ? พูดให้ชัด ๆ สิ ! ข้าเป็นผู้คุ้มกฏซ้ายของหอบุปผา หากนางเป็นคณิกาดาวเด่น เช่นนั้นข้าจะต้องตามปกป้องคุณชายเซียวด้วยเหตุใด ?
ยามนี้สายตาทุกคู่ต่างก็หันไปจับจ้องผู้คุ้มกฏซ้ายทันที
หยูเฟยตกตะลึงทันทีที่รู้ตัวว่าตนเข้าใจผิดชายคนนั้นมิใช่ผู้คุ้มกันที่ทำงานให้บ้านสกุลไป๋
ทว่าไม่นานเขาก็ยิ้มเยาะ
ผู้คุ้มกฏซ้ายของหอบุปผา
หอบุปผากระนั้นรึ? ท่านเจ้าหอบุปผามีฐานะเทียบเท่าองค์ฮ่องเต้ ผู้คุ้มกฏก็มีฐานะไม่ต่างกับเสนาบดีหรือนายพล
เคยเห็นเสนาบดีหรือนายพลคนใดบ้างคอยติดตามอารักขาเด็กชายของตระกูลโน้นตระกูลนี้?
”เจ้าน่ะหรือผู้คุ้มกฏของหอบุปผา?” หยูหรงหัวเราะเยาะ “เช่นนั้นข้าก็คงเป็นเจ้าของหอบุปผาแล้วล่ะ ! เจ้ามันก็แค่แขกคนหนึ่งของไป๋หยาน เจ้าติดบ่วงความงามของนาง และนั่นเป็นเหตุให้เจ้าออกมาปกป้องน้องชายของนาง ข้าพูดถูกหรือไม่ ? ”
ผู้คุ้มกฏซ้ายตัวแข็งราวอัมพาตเขากระโดดออกมาพร้อมสีหน้าซีดเผือด เขาฟาดฝ่ามือใส่หยูหรงขณะกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “นี่เจ้าคิดจะหาเหาใส่หัวข้ารึไร ? เช่นนั้นข้าก็จะกอดคอเจ้าลงนรกไปพร้อมกัน ! ”
ฝ่ามือนี้เขาอัดพลังทั้งหมดที่มี ส่งผลให้หยูหรงลอยละลิ่วปลิวละล่อง ก่อนจะตกลงมากระแทกเข้ากับแผงลอยข้างถนน
”อ๊าาาาาาาาา!”
หยูหรงกรีดเสียงร้องโหยหวนพร้อมกับกุมหน้าท้องของตนด้วยความเจ็บปวด เลือดไหลลงมาจากต้นขา สายตาของนางตื่นตกใจด้วยความเสียขวัญ
”ลูก…ลูกของข้า … ”
ไป๋เฉิงเซียงตื่นตกใจเขารีบวิ่งเข้าไปหาภรรยาของตนอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เห็นเลือดไหลออกมาจากร่างของหยูหรง ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นขาวซีด
”หรงเอ๋อ”
”ท่านพี่… ช่วยข้าด้วย … ช่วยลูกของเราด้วย … ”
สีหน้าของหยูหรงซีดเผือดนางกำแขนเสื้อของไป๋เฉิงเซียงแน่น น้ำตาของนางรินไหลเป็นสายราวน้ำพุ
”ต้องไม่เป็นไรหรงเอ๋อ ลูกของเราต้องไม่เป็นไร” หลังจากปลอบโยนภรรยาของเขาหลายต่อหลายคำ เขาก็ส่งสัญญาณให้หยูเฟยที่ยังคงยืนโง่งมอยู่ ให้เข้ามาดูแลน้องสาวของตน ส่วนตัวเขาเองนั้น เขาลุกขึ้นยืนจ้องไป๋เซียว
”เจ้ามียาอายุวัฒนะมิใช่หรือ? ส่งมาให้มารดาของเจ้าเดี๋ยวนี้ !”
ไป๋เซียวยิ้มอย่างเย็นชา”ข้าบอกท่านไปแล้วมิใช่หรือว่า ยาเม็ดเหล่านั้นเป็นของพี่สาวข้า ข้ามิอาจมอบให้ท่านได้”
”เจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระใด? มีรึข้าจะไม่รู้ความสามารถของพี่สาวเจ้า ? นางจะมียาพวกนี้ได้เช่นไร ? มอบยาอายุวัฒนะมาไว ๆ นี่มารดาของเจ้านะ ทั้งเด็กในท้องนั่นก็เป็นน้องของเจ้าด้วย !”
ไป๋เฉิงเซียงรู้สึกปวดร้าวใจไป๋เซียวพูดราวกับว่าตนเองไม่มีคุณสมบัติพอที่จะใช้ยาพวกนั้น ก็แล้วเหตุใดไป๋เซียวถึงเห็นคนนอกสำคัญกว่าคนในครอบครัว ยิ่งไปกว่านั่น หยูหรงเองก็กำลังท้อง เด็กในท้องเป็นลูกของเขา ย่อมต้องเป็นน้องของไป๋เซียวด้วย !
คิดได้เช่นนั้นไป๋เฉิงเซียงก็ไม่สนใจสิ่งใดอีก เขาพุ่งตัวเข้าหาไป๋เซียวหมายจะชิงยาอายุวัฒนะนั่น
หากแต่ก่อนที่มือของเขาจะทันได้แตะต้องไป๋เซียวนั้นเขาก็ถูกมือของใครบางคนหยุดไว้
”วันนี้ข้าได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ ” ผู้คุ้มกฏซ้ายหัวเราะ “ได้เห็นผู้หญิงที่ยอมนอนกับผู้ชายไม่รู้หัวนอนปลายเท้า เพียงเพื่อจะได้บุตรชายสักคน ! หากมิใช่เป็นเพราะนายหญิงของข้าสั่งให้พวกเราปกป้องคุณชายเซียว ไหนเลยพวกเราจะรู้ว่าเจ้ากำลังทำเรื่องชั่วช้าใดกับสามีตนเอง ?”
***จบบท ผู้แข็งแกร่งกว่าย่อมชนะ (2)*–*