บทที่ 183 : จะไม่ทน (2)
”วันนี้ข้า…”ไป๋หยานขอประกาศไว้ตรงนี้ หยูเฟยต้องตาย ผู้ใดกล้าขวางก็ต้องตายอย่างไร้ปรานี !”
”ไป๋หยาน…เจ้า…. ” หยูหรงสั่นไปทั้งตัว นั่นยิ่งทำให้เลือดของนางไหลมากขึ้นเรือย ๆ ร่างของนางค่อย ๆ อ่อนแรงลงทุกขณะ
ไป๋เฉิงเซียงไอแค่กๆ เขากุมหน้าอกตนเองแน่น ขณะจ้องมองไป๋หยานด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว
หากผู้คนมิได้ล่วงรู้ฐานะของพวกเขาก็คงจะเข้าใจผิดคิดไปว่าไป๋หยานคงเป็นศัตรูที่ฆ่าบิดาของชายคนนี้เป็นแน่
”เจ้ามองหาอะไร?” ครั้นผู้คุ้มกฏซ้ายเห็นไป๋เฉิงเซียงกล้าจ้องมองไป๋หยานตรง ๆ เขาก็วิ่งเข้าหาไป๋เฉิงเซียง จากนั้นก็ตบหน้าไป๋เฉิงเซียงอย่างโกรธเคือง
แม้จะถูกตบทว่าไป๋เฉิงเซียงก็ยังไม่กล้ากล่าวคำใดแม้สักคำ ใบหน้าของเขายู่ยี่ราวกับกำลังท้องผูก
แม้ว่าเขาจะไร้สมองหากแต่เขาก็ยังพอรู้ว่าคู่ต่อสู้ของเขานั้นอยู่ในระดับที่สูงกว่าตัวเขาแน่นอน !
”ท่านพี่! ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ?” แววตาของหยูหรงเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก นางหันกลับไปจ้องมองไป๋หยาน “ไป๋หยาน เจ้าจะปฏิบัติกับข้าเช่นไรก็ได้ ทว่าเขาเป็นบิดาของเจ้า เจ้าให้คนของเจ้าทำร้ายบิดาเจ้าเช่นนี้ได้อย่างไร ?”
สีหน้าของไป๋หยานแลดูเย็นยะเยือกนางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาอี้ ตบนาง !”
ทันทีที่สิ้นเสียงสั่งเกาอี้ก็ถูมือลูบกำปั้น จากนั้นก็รีบปรากฏตัวต่อหน้าหยูหรง เขาตบนางอย่างรุนแรงทันที กระทั่งใบหน้าของนางบวมเป่ง
สีหน้าของไป๋เฉิงเซียงแลดูเลวร้ายขึ้นกว่าเดิมเขาพยายามยันร่างตนเองพลางกล่าวอย่างเศร้า ๆ ว่า “ไป๋หยาน อย่างไรเสียข้าก็เป็นบิดาของเจ้า ข้าอยากให้เจ้ากลับตัวกลับใจ ทว่าเจ้ากลับโหดร้ายและไม่เชื่อคำข้าเลย”
”ทุกท่าน…”เขากล่าวต่อ ไม่เปิดโอกาสให้ไป๋หยานได้กล่าวคำ “เชิญเข้ามาดูเถิด ดูเถิดว่าบุตรสาวของข้าปฏิบัติกับข้าซึ่งเป็นบิดาของนางเช่นไร ? ตอนนี้นางเป็นคณิกาดาวเด่นของหอบุปผา นางกลับให้แขกของนางมารังแกบิดาตนเอง บุตรสาวเช่นนี้สมควรตายจริง ๆ !”
ไป๋หยานเหยียดริมฝีปากยิ้มเยาะนางไม่ขัดคำของไป๋เฉิงเซียง นางเพียงเหยียบย่ำร่างของหยูเฟยหนักขึ้นอย่างเงียบ ๆ ปล่อยให้ไป๋เฉิงเซียงบ้าน้ำลายต่อไป
แน่นอนว่าฝูงชนซึ่งมารวมตัวกันในที่นี้มีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ครั้นได้ยินถ้อยคำที่น่าตกใจของไป๋เฉิงเซียง ต่างก็อ้าปากค้างกล่าวคำใดไม่ออก
พระเจ้าพวกเขาได้ยินอะไรผิดไปหรือไม่ ไป๋หยานเป็นคณิกาดาวเด่นของหอบุปผากระนั้นรึ ?
ในขณะที่ทุกคนกำลังประหลาดใจกับข่าวที่น่าตื่นตกใจนั้นพลันเสียงโกรธเกรี้ยวก็ดังขึ้น “ไป๋หยาน ข้าไม่เคยคิดเลยว่า เจ้าจะเป็นคนเช่นนี้ !”
เสียงนั้นฟังคุ้นหูมากมากเสียกระทั่งทำให้นางเลิกคิ้ว นัยน์ตาแวววาวของนางหันไปทางหนานกงอี้
”โดนโบยไปตั้งสองร้อยไม้ฟื้นตัวเร็วดีนี่ !”
ใบหน้าของหนานกงอี้เปลี่ยนไปทันทีที่เขาสามารถหายเร็วถึงเพียงนี้นั้น ต้องขอบคุณสวรรค์ที่เขามีบิดาเป็นถึงฮ่องเต้ ทำให้เขาได้รับยาอายุวัฒนะระดับสี่ที่เก็บไว้ในท้องพระคลังหลวง
โชคร้ายที่ท้องพระคลังมียานี้เหลือเพียงสองเม็ดเม็ดหนึ่งสำหรับตัวเขา อีกเม็ดสำหรับหลินเอ๋อ…บุตรชายของเขา
ส่วนไป๋รั่วนั้นนางยังคงต้องนอนแซ่วอยู่บนเตียง เพราะมิได้รับยานั่น
”ฮึ หากข้ามิฟื้นตัวได้เร็ว ข้าคงมิรู้ว่าแท้จริงเจ้าทำงานที่น่าขยะแขยงเช่นนั้น !” สีหน้าของหนานกงอี้แลดูไม่ได้เลย เขากำหมัดแน่น
การแสดงออกของหนานกงอี้เช่นนี้หากคนที่ไม่รู้เรื่องราวมาเห็นเข้า ก็คงต้องคิดไปว่าไป๋หยานเป็นเมียที่กำลังมีชู้ของเขา
ไป๋หยานไม่สนใจหนานกงอี้นางหันไปมองไป๋เฉิงเซียง ด้วยแววตาเย็นเยือก “ข้าไม่รู้ว่าผู้ใดบอกเจ้า ว่าข้าเป็นคณิกาของหอบุปผา ทว่าเจ้าก็ช่างเชื่อคนง่ายเสียเหลือเกิน นิสัยนี้ของเจ้าต่อให้ถึงวันตายก็คงไม่เปลี่ยน”
”ทว่า…”นางยิ้มเศร้า ๆ “ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรข้า ข้าก็ไม่สน เพียงแต่ข้าจะไม่ทนหากผู้ใดรังแกเซียวเอ๋อ !”
***จบบทจะไม่ทน (2)***