“ที่จริง…ข้าควรจะเกลียดพี่ เกลียดพี่ที่จากข้าไปโดยไม่แม้แต่กล่าวคำร่ำลา เกลียดพี่ที่ทิ้งข้าไว้เพียงลำพังในบ้านสกุลไป๋ ! แต่ทันทีที่ข้าพบพี่อีกครั้ง ข้าก็รู้ว่าข้าไม่สามารถเกลียดพี่ได้เลย“
ไป๋เซียว ค่อย ๆ คลายกำปั้นที่กำแน่นของตนออก พร้อมกับเดินเข้าไปหาไป๋หยาน
“ก่อนหน้านี้ เหตุใดพี่ไม่พาข้าไปกับพี่… ? ขอเพียงได้อยู่กับพี่ ต่อให้ข้าต้องร่อนเร่ ไร้ที่ซุกหัวนอน อดมื้อกินมื้อ ข้าก็ยังยินดีที่จะไปกับพี่มากกว่าอยู่ที่นี่เพียงลำพัง !”
เด็กหนุ่มน้ำตาเอ่อคลอ กระทั่งไหลรินลงมาตามร่องแก้ม “เหตุใดพี่ถึงทิ้งข้าไป ในบ้านหลังนี้ ข้ามีเพียงพี่คนเดียวเท่านั้นที่เป็นครอบครัวของข้า ทว่าท้ายที่สุดแม้แต่พี่ก็ทิ้งข้าไป ! “
“เซียวเอ๋อ … ” ไป๋หยานเปิดปาก นางอยากจะกล่าวคำแก้ตัว ทว่าที่สุดแล้ว นางกลับกล่าวคำใดไม่ออกนอกจาก “พี่…ขอโทษ“
ช่วงเวลาหกปีที่ผ่านมา นางยังมีบุตรชาย นางยังมีอาจารย์อีกสามคนคอยอยู่เคียงข้าง ทว่าไป๋เซียวกลับต้องอยู่เพียงลำพังภายในบ้านหลังนี้ บ้านซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนคอยจ้องประทุษร้ายเขา… นางเดาไม่ออกเลยว่าหากนางเป็นเด็กน้อยผู้นี้ นางจะผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายนี้ไปได้อย่างไร ?
หนี้ซึ่งนางติดค้างเด็กหนุ่มผู้นี้ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ตลอดชีวิตของนางจะชดเชยได้หมด
“ข้าไม่ต้องการความเสียใจของพี่ !” เด็กหนุ่มคว้าไหล่ของนาง น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ ราวกับควบคุมตนเองไม่อยู่ “ข้าเพียง ข้าเพียง … อยากให้พี่สัญญากับข้า ว่าจะไม่ทิ้งข้าไปอีก … “
ชั่วอึดใจถัดมา ไป๋เซียวก็กอดนางแน่น ราวกับเกรงว่านางจะหายตัวไปอีกครั้ง
“ตกลง…พี่จะไม่ทิ้งเจ้าไปไหนอีกแล้ว” ไป๋หยานรับรู้ถึงร่างที่สั่นเทาของน้องชาย นางยกมือขึ้นลูบไหล่เขาเพื่อปลอบโยน พร้อมทั้งกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
ไป๋เซียวค่อย ๆ คลายอ้อมกอดของตน น้ำตายังคงเปียกแก้ม ทว่าเขากลับเผยรอยยิ้มที่ไม่เคยปรากฏมาตลอดหกปี “หากพี่จะไปที่ใด ต้องพาข้าไปกับพี่ด้วย ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใด ขอเพียงมีพี่อยู่เคียงข้าง ข้าก็ไม่กลัว ! ข้าเพียงต้องการพี่ ซึ่งเป็นครอบครัวของข้าอยู่ข้าง ๆ ข้าเท่านั้น นั่นก็เพียงพอแล้ว”
“ข้าจะไม่ไปไหนอีก…”
นางมาที่นี่ก็เพื่อแก้แค้น เช่นนั้นแล้วจะให้นางจากไปง่าย ๆ ได้อย่างไร ?
“พี่ใหญ่…” ไป๋เซียวมีสีหน้าลังเล “แท้จริงแล้ว.. ในคืนที่พี่หายตัวไปนั้น ท่านยายส่งคนมารับตัวพี่ นางตั้งใจจะพาพี่กลับบ้านสกุลหลาน ทว่ากลับถูกคนของหยูหรงขัดขวางไว้ ข้าต้องการจะแจ้งข่าวนี้กับพี่ หากแต่ข้าก็ไม่สามารถบอกพี่ได้ เพราะพวกเขาไม่ยอมให้ข้าได้พบพี่ แต่แล้ววันถัดมาทุกคนต่างก็โจษจันกันว่าพี่หนีตามผู้ชายไป“
ในใจของไป๋หยานปรากฏใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความเอ็นดูของชายและหญิงชราคู่หนึ่ง มิใช่ว่าเจ้าของร่างคนก่อนนี้จะเกลียดท่านตาท่านยายของนาง หากแต่เป็นเพราะความรู้สึกผิด ใช่…เป็นตราบาปที่มีต่อบ้านสกุลหลาน ความผิดในสิ่งที่หลานเยี่ยมารดาของนางเคยก่อไว้ นั่นทำให้นางไม่มีหน้าจะกลับไปยังตระกูลหลานอีก
“ท่านตา ท่านยายเป็นอย่างไรบ้าง ?”
ถึงอย่างไรบ้านสกุลหลานก็ยังเป็นบ้านท่านตาท่านยายของนาง ไม่ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะห่างเหินสักเพียงไร หากแต่นางก็ยังรู้สึกเสมอว่าท่านทั้งสองทั้งรักทั้งห่วงใยนาง และน้องชายอย่างจริงใจ
หลายปีที่ผ่านมาท่านยายต้องการรับตัวไป๋หยาน และไป๋เซียวกลับไปอยู่กับนาง ทว่าสองคนพี่น้องกลับยืนกรานปฏิเสธ
เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ ไป๋หยานก็อดไม่ได้ที่จะถอนใจให้กับความดื้อรั้นในอดีตของนางกับน้องชาย
“ตอนนี้สุขภาพของท่านตาอ่อนแอลงมาก บ้านสกุลหลานต้องอาศัยท่านลุงคอยดูแล ยามนี้ที่นั่นไม่รุ่งเรืองเช่นในอดีตอีกแล้ว” ไป๋เซียวกล่าวขณะมองพี่สาว “นอกจากนี้ อย่างที่พี่รู้ เมื่อหลายปีก่อนท่านตาของเราใช้เงินเก็บที่มีซื้อยาเม็ดจิตวิญญาณให้ท่านลุงทว่าสุดท้ายกลับมอบให้ท่านแม่เป็นสินสอดทองหมั้น และในเวลานั้นบ้านสกุลไป๋ก็ปฏิเสธที่จะย้ายเข้าเมืองหลวง“
เหตุผลง่าย ๆ ที่ไป๋เฉิงเซียงปฏิเสธการย้ายเข้าเมืองหลวง นั่นก็คือเขาเกรงว่าหลานเยี่ยจะได้รับการสนับสนุนจากตระกูลหลาน หากเป็นเช่นนั้นเขาย่อมไม่อาจต่อรอง หรืออาศัยข้อเรียกร้องใด ๆ จากภรรยาได้ หาไม่แล้ว เขาคงจะไม่รีบย้ายเข้าเมืองหลวงทันทีที่ได้ขึ้นเป็นตระกูลชั้นนำระดับต้น ๆ ของอาณาจักรหรอก
***จบบท เหตุใดพี่ไม่พาข้าไปด้วย ? (2)***