“ท่านแม่”
สตรีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หลานฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนและใจดี “หยานเอ๋อ เพิ่งกลับมา ข้าเกรงว่าพวกบ่าวรับใช้จะตระเตรียมห้องได้ไม่ดีพอ ข้าว่าข้าควรจะไปจัดห้องให้นางด้วยตนเองจะดีกว่า“
“อืม รั่วหลาน ต้องรบกวนเจ้าแล้วนะ” หญิงชราหันกลับมาอีกครั้ง“หยานเอ๋อ นี่คือป้าสะใภ้ของเจ้า เจ้าเองก็ไม่ได้มาเยี่ยมเยียนเรานานหลายปี ข้าคิดว่าเจ้าคงจะไม่คุ้นเคยกับนาง อย่างไรเสียเจ้าก็ยังมีญาติอีกสามคน ทันทีที่พวกเขามาถึง ข้าจะแนะนำพวกเขาให้เจ้าได้รู้จัก“
ครั้นได้ยินเช่นนั้น ไป๋หยาน ก็หันไปส่งยิ้มที่แสดงออกถึงความเป็นมิตรให้กับตงรั่วหลาน
“หยานเอ๋อ ท่านตาของเจ้าคงจะรอไม่ไหวแล้ว เช่นนั้นข้าจะพาเจ้าไปพบเขาก่อน” หญิงชราตบหลังมือของไป๋หยานเบา ๆ อีกครั้งพร้อมด้วยรอยยิ้ม
ไป๋หยานไม่ได้กล่าวคำใดอีก นางพยุงร่างที่สั่นเทาของท่านยาย จากนั้นก็เดินไปยังห้องที่อยู่ทางปีกซ้าย ภายใต้การนำทางของสาวใช้ …
บนเตียงสี่เสาภายในห้อง ยามนี้มีชายชราผู้ซึ่งกำลังป่วยนั่งพิงพนักหัวเตียง เขากวาดตามองไปที่ประตูแล้วก็หันมาจ้องชายหนุ่มรูปงามที่กำลังยืนตัวลีบอยู่ข้าง ๆ “อะไรกัน ? นี่เจ้าอยากจะไปดูนังเด็กหน้าเหม็น คนนั้นนักหรือ ? เช่นนั้นพวกเจ้าก็พากันยกโขยงไปให้หมดเลย ไม่ต้องมาสนใจไยดีตาแก่หนังเหนียวอย่างข้าก็ได้ ฮึ ! ”
ชายหนุ่มแลดูขัดเขิน เพราะเสียงตะโกนลั่นของชายชรา “ก็ข้าเป็นลุงของนาง ทั้งนางก็เป็นหลานสาวของข้า หลังจากไม่ได้เจอหน้ากันเสียนาน ตอนนี้หลานสาวของข้ากลับมาแล้ว ย่อมเป็นธรรมดาที่ข้าอยากจะพบนาง ว่าแต่ใครกันนะ พอแม่เฒ่าซุนพ้นประตูไป ก็คอยชะเง้อมองประตูเสียจนคอยาว ?”
“เฮอะ ! ผู้ใดว่าข้าอยากจะพบเด็กคนนั้นกันเล่า ? เจ้าอยากจะพบเด็กนั่นทั้ง ๆ ที่นางไม่เคยมาหาข้าตั้งหลายปีกระนั้นรึ อีกทั้งนางยังตั้งท้องทั้งที่ยังไม่แต่งงานอีก ! ขนาดบ้านสกุลไป๋เองก็ยังไม่ต้องการนาง บ้านสกุลหลานของเราก็ไม่อยากดูแลเด็กกำพร้ากับหญิงม่ายหรอก แล้วเจ้าเห็นสิ่งที่นางทำหรือไม่ ? จู่ ๆ นางก็หนีหายไปโดยไม่พูดไม่จาสักคำ ไม่มีแม้แต่คำร่ำลาด้วยซ้ำ !”
ยิ่งชายชราพูดมากเท่าไร เขาก็ยิ่งแลดูตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น ยามนี้ใบหน้าเหี่ยวย่นของเขาเริ่มแดงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันชายหนุ่มผู้ซึ่งอยู่ข้าง ๆ ก็รีบใช้มือลูบอกของท่านผู้เฒ่าอย่างตื่นตระหนก
“หยูเอ๋อ บอกข้าสิ ข้าทำผิดอะไร ? เหตุใดทั้งแม่ทั้งลูกคู่นั้นถึงได้ทำกับข้าเช่นนี้ ? หรือพวกนางต้องการให้ข้าโมโหจนตาย ?”
“ท่านพ่อ ใจเย็น ๆ” หลานหยูกังวลว่าบิดาของตนจะไม่สามารถรักษาลมหายใจไว้ได้อีกต่อไป เขาจึงพยายามที่จะปลอบประโลมชายชรา “ครานั้นพี่สาวเป็นคนอ่อนต่อโลก จึงทำให้นางถูกหลอก ส่วนหยานเอ๋อ แม้ว่าข้าจะไม่ได้สนิทชิดเชื้อกับนางมากนัก หากแต่ข้าก็พอรู้มาว่า นางเป็นคนวางตัวดีมาตลอด ข้าเชื่อว่านางจะต้องถูกกับดักบางอย่าง !“
“เจ้าพยายามแก้ต่างให้นาง !” เจ้าบ้านอาวุโสสกุลหลานทำเสียงฮึดฮัด ทว่าสายตาของเขาก็ยังกวาดมองไปที่ประตูอีกครั้งโดยไม่ตั้งใจ “แม่เฒ่าซุน ออกไปบ้านสกุลไป๋ตั้งนานแล้ว เหตุใดตอนนี้เด็กเหม็นนั่นยังมาไม่ถึงอีก หยูเอ๋อ ออกไปดูให้แน่ใจสิว่า คนบ้านสกุลไป๋ไม่ได้กลั่นแกล้งรังแกคนบ้านสกุลหลานของเรา ! “
หลานหยูหันหลังกลับ ในใจเริ่มนึกเป็นห่วงไป๋หยาน เพราะขนาดเขาเองบางครั้งยังเหนื่อยใจกับบิดาของเขาเลย ไม่รู้ว่าหยานเอ๋อจะทนผู้เฒ่าเจ้าอารมณ์จอมดื้นรั้นได้หรือไม่นะ
ทันใดนั้นเองหูของหลานหยูพลันได้ยินเสียงการสนทนาอย่างมีความสุขระหว่างหลานฮูหยินผู้เฒ่ากับหญิงสาวดังลอยมาจากนอกประตู “ท่านพ่อ ท่านแม่กับหยานเอ๋อมาถึงที่นี่แล้ว” นัยน์ตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความสุขขณะกล่าวคำ
นิ้วมือของเจ้าบ้านผู้เฒ่าสั่นเทา ทว่าใบหน้าของเขายังคงสงบนิ่ง เขาปรายตามองประตูพร้อมกับแสดงทีท่าฮึดฮัด “ฮึ ! เจ้าจะตื่นเต้นกระไรนักหนา ? “
“แน่ะ ! ยังเล่นละครไม่หยุด” หลานหยูคิดเรื่องของบิดาในใจ จากนั้นเขาก็เลิกสนใจชายชรา ผละออกจากเตียง เดินไปยังประตูเพื่อต้อนรับหลานสาว และมารดาของตน
ทันทีที่เขามาถึงประตู ประตูพลันเปิดออก สาวใช้เดินนำเข้ามาก่อน พร้อมกล่าวอย่างนอบน้อม “เรียนนายผู้เฒ่า ฮูหยินผู้เฒ่า และคุณหนูไป๋มาถึงแล้วเจ้าค่ะ”
***จบบท ยาเม็ดจิตวิญญาณขั้นสี่ (1)***