หลังจากที่เขากล่าวจบ ท่านผู้เฒ่าหลานก็รีบป้อนยาเข้าปากของตน ทันทีที่เม็ดยาล่วงผ่านเข้าไปในร่างของเขา ชายชรารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ไหลผ่านอวัยวะภายในอย่างช้า ๆ ประหนึ่งกระแสน้ำอุ่นรินไหล
ช่วงเวลานั้นเอง ท่านผู้เฒ่าหลานพลันรู้สึกได้ถึงกระแสอันอบอุ่นที่ไหลวนในร่างกายของตน กระแสอบอุ่นนั้นได้ช่วยซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกาย ทำให้เขารู้สึกกระชุ่มกระชวยอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมานาน นับแต่ต้องนอนติดเตียงมาหลายปี สิ่งนี้ทำให้เขามีความสุขจนแทบจะหัวเราะออกมา
หากท้ายที่สุด เพื่อที่จะไม่เป็นการเสียหน้า ท่านผู้เฒ่าจึงตัดสินใจที่จะกลบเกลื่อนความสุขสดชื่นไว้เพียงในใจ
“เอาล่ะ ตอนนี้ข้าก็กินยาแล้ว ถึงเวลาที่เจ้าต้องอธิบายแล้วว่า เหตุใดเจ้าถึงหนีจากไปโดยไม่ร่ำลา ?” เขากล่าวด้วยเสียงเข้ม ๆ พร้อมกับวาดนิ้วลูบหนวดเคราบนใบหน้า โดยเก็บซ่อนอาการไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใด ๆ
ครั้นหวนคิดถึงเรื่องราวเมื่อครั้งอดีตที่ผ่านมาแล้วนั้น นัยน์ตาของไป๋หยานพลันหม่นหมองลงเล็กน้อย “การตั้งครรภ์ก่อนแต่งงาน มิใช่ความตั้งใจของข้า ทว่าเป็นแผนการของไป๋รั่ว นางต้องการแย่งองค์ชายรอง จึงไม่ลังเลที่จะใช้วิธีสกปรก นางใช้วิธีวางยาข้าทำให้ข้าเสื่อมเสียชื่อเสียง เพื่อที่นางจะได้แต่งเข้าวังแทน“
ท่านผู้เฒ่าหลานกำหมัดแน่น แม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่า และหลานหยูก็ยังรับรู้ได้ถึงลมหายใจที่หนักอึ้งของท่านผู้เฒ่า การเปลี่ยนแปลงของเจ้าบ้านผู้ชราอย่างฉับพลันทันใดนี้ ทำให้บรรยากาศโดยรอบอึดอัด กระทั่งแทบหายใจไม่ออก
“เหตุใดเจ้าถึงไม่กลับมาเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้ข้าฟังบ้างว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ?” เจ้าบ้านหลานผู้ชราภาพทั้งโกรธทั้งเศร้าใจ เขาตะโกนเสียงดังลั่นด้วยความผิดหวังที่มิอาจช่วยหลานสาวได้
“ข้าไม่มีแม้แต่โอกาสจะบอกลาเซียวเอ๋อด้วยซ้ำ แล้วข้าจะมาที่นี่ได้อย่างไร ?” ไป๋หยานยังคงมีสีหน้าเรียบสงบ “วันนั้นไป๋เฉิงเซียงไม่อยู่บ้าน เช่นนั้นหยูหรงจึงอาศัยช่วงเวลานั้นขายข้าให้กับผู้นำตระกูลเฒ่าเจ้าบ้านเฉียน นางขายข้าให้ไปเป็นนางบำเรอ ข้าจะหนีได้ก็ต่อเมื่อคนจากตระกูลเฉียนมารับตัวข้าออกจากบ้านเท่านั้น“
จังหวะหายใจของเจ้าบ้านหลานผู้ชราถี่กระชั้นอย่างรวดเร็ว กำปั้นของเขากำแน่นขึ้น เห็นได้ชัดว่ามือของเขาสั่นระริก
ท่านผู้เฒ่าปิดเปลือกตาที่เหี่ยวย่นของตนลงอย่างช้า ๆ ราวกับว่าการกระทำเช่นนี้จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดในหัวใจของเขาลงได้
“หลานรัก ข้าเข้าใจเจ้าผิดไป” หลังจากนั้นไม่นาน ท่านผู้เฒ่าหลานก็ลืมตา พร้อมกับพึมพำถ้อยคำเหล่านี้ น้ำเสียงที่ผ่านริมฝีปากของเขาออกมาเปี่ยมล้นด้วยความจริงใจ อีกทั้งอ่อนโยนอย่างที่ทั้งชีวิตนี้เขาไม่เคยเอ่ยกล่าวมาก่อน
ลูกหลานตระกูลหลานของเขาต้องทนทุกข์ทรมานมากเพียงใดกันนี่ ตลกสิ้นดีที่เขามักจะคิดเองเออเองเสมอว่า คนสกุลไป๋คงไม่ทำอะไรรุนแรงกับเลือดเนื้อเชื้อไขของตน ทว่าเขาคิดผิด เขาไม่เคยรู้เลยว่าหลานสาวของตนต้องถูกทารุณกรรมย่ำยีในบ้านสกุลไป๋นั่น !
“หยานเอ๋อ … ” นัยน์ตาของหลานหยูเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาทั้งรัก ทั้งเอ็นดูไป๋หยานนับตั้งแต่นางยังเยาว์ ไม่คิดเลยว่านางจะต้องประสบกับเรื่องราวที่น่ารันทดมากมายถึงเพียงนี้ “เหตุใดเจ้าถึงไม่มาหาเรา หากเจ้ารีบมาหาเราทันทีที่เจ้ารอดพ้นจากเงื้อมมือของบ้านสกุลเฉียน ข้าในฐานะลุงของเจ้าย่อมต้องขอความเป็นธรรมให้เจ้าอย่างแน่นอน ! “
ไป๋หยานกล่าวต่อพร้อมรอยยิ้ม “ท่านอาจจะเชื่อข้า ทว่าชาวบ้านคนอื่น ๆ ล่ะจะเชื่อข้าหรือ เวลานั้นฐานะของข้าคือบุตรสาวของบ้านสกุลไป๋ เช่นนั้นหากหยูหรงต้องการให้ข้าไม่มีแม้ที่ยืนในโลก ที่สุดแล้วความคิดเห็นของผู้คนย่อมจะคล้อยตามฝ่ายนั้น ขณะที่ข้าเองไม่มีโอกาสจะแก้ต่างให้กับตนเองด้วยซ้ำ“
โชคดีที่ตอนนี้นางแข็งแกร่งขึ้นมาก มากพอที่จะทวงคืนสิ่งที่คนเหล่านั้นทำไว้กับนางได้เป็นพัน ๆ เท่า !
“หยานเอ๋อ หลานรักของข้า” ชายชราตบหลังมือของนางเบา ๆ พร้อมกับพ่นลมหายใจออกด้วยความเจ็บปวด “เจ้าได้บอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้เซียวเอ๋อน้องของเจ้าฟังบ้างหรือไม่ ?”
ไป๋หยานส่ายศีรษะ “หากเซียวเอ๋อรู้ว่าข้าเกือบจะถูกขาย เขาจะต้องรีบไปหาหยูหรงเพื่อแก้แค้น ตอนนี้ข้ามีสิ่งที่ข้าจะต้องจัดการ และก่อนที่ข้าจะจัดการเรื่องเหล่านั้นเสร็จ คนบ้านสกุลไป๋จะต้องมีชีวิต จนกว่าจะถึงวันนั้น“
ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานยังคงมีทีท่าโกรธแค้นอย่างเห็นได้ชัด เขารู้สึกโมโหจนเจ็บหน้าอกไปหมด “ต่อไปเจ้าก็อาศัยอยู่ที่นี่เถอะ ไม่ต้องกังวลอะไรอีก นับแต่นี้ไปไอ้พวกสารเลวบ้านสกุลไป๋นั่นคงไม่กล้าโผล่หน้ามาที่นี่อีก แต่หากพวกมันกล้าโผล่หน้ามา ข้าก็จะไล่ตีพวกมันจนพวกมันต้องกระเจิดกระเจิงหนีไป ! ข้าจะไม่ยอมตกอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถแม้แต่จะปกป้องหลานสาวของข้าได้อีก ! “
***จบบท เผชิญหน้ากันอีกครั้ง…ก็ยังไม่ดีนัก (1)***