“อ๊า !”
ทันใดนั้นเอง ลำคอของไป๋จื่อพลันถูกกรงเล็บของเสี่ยวมี่ตะปบ ไป๋จื่อส่งเสียงกรี๊ดออกมาอีกครั้ง ขณะเดียวกันน้ำตาก็ไหลรินลงสองข้างแก้ม นางทั้งเจ็บทั้งโกรธ “ไอ้แมวบ้า ข้าจะฆ่าเจ้า !”
นัยน์ตาของเสี่ยวมี่เหยียดหยัน ครั้นไป๋จื่อถลาเข้ามา มันเพียงเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อยเท่านั้น
นางมนุษย์ตัวเล็ก ๆ นี่คิดว่าจะสามารถทำอะไรทายาทแห่งเผ่าพยัคฆ์ขาวได้งั้นรึ ? หากข้าโตเต็มวัยแล้วล่ะก็ เหอ ๆ แค่อ้าปากขย้ำครั้งเดียวนางก็ตายสนิทแล้ว !
ไป๋เสี่ยวเฉินเห็นเสี่ยวมี่กำลังเล่นอย่างสนุกสนาน แววตาเจ้าเล่ห์ของเขาพลันส่องประกาย ชั่วขณะนั้นเองเขาก็สังเกตเห็นว่ามีใครบางคนกำลังจะผ่านหน้าเขาไป หากแต่ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นผู้ใดก็ตาม เด็กน้อยก็ไม่ลังเลที่จะรีบคว้ากอดต้นขาของผู้มาใหม่
“ฮือ ฮือ ช่วยเฉินเอ๋อด้วย หญิงผู้นั้นจะบีบคอเฉินเอ๋อให้ตาย ฮือ…”
เห็นได้ชัดว่าผู้ที่อยู่ข้างหน้าไป๋เสี่ยวเฉินหยุดชะงัก น้ำเสียงของบุรุษผู้นั้นเย็นชา อีกทั้งเฉยเมย นั่นยิ่งทำให้ไป๋จื่อบ้าคลั่งมากกว่าเดิม
“ไป๋จื่อ เจ้าไม่เพียงแต่รังแกคนที่อ่อนแอกว่าเท่านั้น ตอนนี้เจ้ายังรังแกเด็กอีก ! เจ้าคิดว่าที่นี่คือบ้านสกุลไป๋ที่เจ้าสามารถรังแกทุกคนได้กระนั้นรึ ?”
ไป๋จื่อกรีดเสียงด้วยความโกรธ “ไป๋เซียว เจ้าตาบอดหรือไร ? ! ตาข้างใดของเจ้าที่เห็นว่าข้ารังแกเด็กคนนี้ ? เด็กนี่กับแมวของมันต่างหากที่รังแกข้า !”
ไป๋เซียว …
ชื่อนี้ทำให้ไป๋เสี่ยวเฉินซึ่งกำลังกอดต้นขาของชายหนุ่มไว้ตัวแข็งทื่อ เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นช้า ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขามองเห็นใบหน้าของหนุ่มน้อยที่เขากอดขาแน่น
ชายหนุ่มในชุดคลุมยาวสีขาวราวหิมะ แลดูหล่อเหลา ทว่าเฉยเมย นัยน์ตาของเขาเย็นชา ขณะมองไป๋จื่อ ลมหายใจของเขาเย็นยะเยือก จนทำให้ผู้คนรอบข้างต่างรู้สึกสั่นสะท้าน
“ท่านน้า…” ไป๋เสี่ยวเฉินเผลอเรียกพลันน้ำตาก็หยาดหยดลงมา
ชายผู้นี้คือท่านน้า ! น้าชายของเขา !
“เอ๊ะ !” ไป๋เซียวขมวดคิ้วน้อย ๆ พร้อมกับหันไปมองเด็กชายตัวน้อยที่ยังคงกอดต้นขาของเขาแน่น นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
ไป๋เสี่ยวเฉินกลับมารู้สึกตัว เขารีบเช็ดน้ำตา “ท่านเหมือนน้าชายของเฉินเอ๋อมากเลย ทำเอาเฉินเอ๋อเผลอตัวไปชั่วขณะ เช่นนั้นเฉินเอ๋อเลย … “
ครั้นเห็นเด็กชายตัวน้อยที่แสนน่าสงสารเบื้องหน้า หัวใจของไป๋เซียวพลันรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอย่างกระทันหัน หากลูกของพี่สาวเขายังมีชีวิตอยู่ เด็กคนนั้นก็คงจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเด็กชายน้อย ๆ คนนี้
หากแต่ไป๋จื่อ…ขนาดเด็กตัวน้อยเพียงแค่นี้ นางก็ยังไม่ยอมละเว้น !
“ข้าเห็นแต่เจ้ารังแกเด็กคนนี้” ไป๋เซียวกล่าวขณะเหยียดปากยิ้มอย่างเย้ยหยัน “หากมิใช่เป็นเพราะเจ้าแมวนี่ เจ้าก็คงทำร้ายเด็กคนนี้จนได้รับบาดเจ็บไปแล้ว เจ้าชอบรังแกคนในบ้านสกุลไป๋เสมอ นั่นก็เรียกได้ว่าแย่มากแล้ว แล้วนี่เจ้ายังไม่ยอมละเว้นแม้แต่เด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง”
ทันทีที่เขากล่าวจบประโยค ไป๋เซียวก็รีบดึงตัวเด็กชายตัวน้อยไปไว้ข้างหลัง เขาแสดงออกอย่างชัดแจ้งว่ากำลังปกป้องเด็ก
“วันนี้ ข้าไป๋เซียวอยู่ที่นี่แล้ว เจ้าไม่มีวันได้แตะต้องเด็กคนนี้ แม้แต่ปลายเส้นผม !”
“ไป๋เซียว !” ไป๋จื่อจัดผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงของตน จากนั้นก็จ้องมองน้องชายของนางอย่างดุดัน “เจ้าช่วยคนนอกรังแกข้า ข้าจะฟ้องท่านพ่อ คอยดูเถอะ ฮึ่ม !”
ไป๋จื่อรู้ว่า หากนางยังอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไร้ประโยชน์ เช่นนั้นนางจึงรีบผละจากอย่างรวดเร็ว หลังจากฝากคำอาฆาตไว้
คาดไม่ถึงเลยว่า แผนการใส่ร้ายป้ายสีของไป๋เสี่ยวเฉิน จะสามารถทำลายภาพลักษณ์ที่ดี ภาพลักษณ์ที่ไป๋จื่อเพียรสร้างสมมานานหลายปีจนย่อยยับลงอย่างสิ้นเชิงในวันนี้
*****
ส่วนไป๋หยานนั้นหลังจากหลบรอดจากเงื้อมมือของตี้คังมาได้ นางก็ปรารถนาจะพบหน้าไป๋เสี่ยวเฉินบุตรชายของตนขึ้นมาทันที เพราะในใจของนางมีลางสังหรณ์อย่างแรงว่าชายผู้นั้นน่าที่จะเป็นบิดาของเฉินเอ๋อ !
เช่นนั้นนางต้องหาทางซ่อนตัวบุตรชาย ก่อนที่บุรุษผู้นั้นจะหาเด็กน้อยไป๋เสี่ยวเฉินพบ !
อย่างไรก็ตาม เมื่อไป๋หยานมุ่งหน้าไปยังบ้านที่นางจัดหาไว้ได้เพียงครึ่งทาง นางก็สังเกตเห็นบุตรชายของตนตกอยู่ในสภาพสกปรกมอมแมม
ทว่านั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่า ยามนี้ไป๋เสี่ยวเฉินกำลังกอดขาของไป๋เซียวอยู่ …
ไป๋หยานมองไป๋จื่อซึ่งผลุนผลันเดินจากไป แล้วก็หันกลับไปมองบุตรชายของตน พลันใบหน้าของนางก็ดำคล้ำ
***จบบท ไป๋เสี่ยวเฉิน เด็กน้อยตีสองหน้า (4)***