ทุกคนที่นั่นต่างก็ตกตะลึง
แม้แต่ไป๋หยานเองก็ยังตกตะลึง
บุรุษผู้นี้คือตี้คัง หรืออ๋องคังผู้มีชื่อเสียงโด่งดังขวัญใจสาว ๆ ทั่วราชอาณาจักรใช่หรือไม่ ?
เพียงชั่วพริบตา ตี้คังก็ขยับเข้ามาถึงตัวนางแล้ว
ครั้นเห็นอ๋องหนุ่มเริ่มรุกเข้าหาลูกพี่ลูกน้องของตน หลานเฉาหลิงและน้องชายก็พยายามปกป้องไป๋หยาน ทั้งคู่ต้องการที่จะดึงตัวไป๋หยานไปไว้ข้างหลัง ทว่าน่าเสียดายที่พวกเขาช้าเกินไป
ตี้คังโอบเอวไป๋หยานแน่น ปิดโอกาสหลบหนีของไป๋หยานอย่างสิ้นเชิง เขากล่าวพร้อมด้วยแววตาวาววับเฉียบคม “ที่สุดข้าก็หาเจ้าพบ !” น้ำเสียงของเขาฟังดูคุกคาม ทว่าก็มีเสน่ห์ในเวลาเดียวกัน
อ๋องคังเคยพูดมาตลอดว่า เขากำลังตามหาตัวสตรีที่ “ข่มขืน” เขา ผู้ใดจะรู้ว่าสตรีผู้นั้น จะเป็น นาง สาวงามผู้ฉาวโฉ่ประจำเมืองนี้
ทว่าถ้อยคำของเขาที่ลอยไปกระทบหูของคนอีกหลายคน ย่อมแปลความหมายไปได้อีกร้อยแปดพันอย่าง
“คนบ้า !”
ไป๋หยานโกรธ นางพยายามกระทืบหลังเท้าชายผู้นี้เหมือนครั้งที่แล้ว
ทว่าขณะที่เท้าของนางเกือบจะกระทืบลงบนเท้าของเขา ขาของนางก็ถูกมือใหญ่ ๆ ของเขาจับไว้
นิ้วมือเรียวยาวของเขาสัมผัสขาอ่อนของนาง มืออันทรงพลังของเขาจับขาของนางแน่น บังคับให้นางยืนในท่ายาก แลดูเหมือนคู่นักเต้นรำรู้ใจ เขายังทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงไปอีก ด้วยการใช้นิ้วมือแสนซุกซนคอยไล้ไปมาที่บริเวณต้นขาของนางไม่หยุด กระทั่งนางขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“เท้าเล็ก ๆ ของเจ้านี่ช่างอยู่ไม่สุขเสียจริง” นอกจากแววตากระหายเลือดแล้ว รอยยิ้มโหดร้ายพลันปรากฏขึ้นอีก “ข้าว่า ข้าควรตัดมันทิ้งเลยจะดีหรือไม่ ?”
น้ำเสียงที่คุกคามของเขานั้นฟังดูอ่อนโยนมาก เช่นนั้นจึงทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดไปว่า เขาพยายามจะเกี้ยวไป๋หยาน
ไป๋จื่อยืนจังงังมองตี้คัง พร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้ายของเขา หยาดน้ำตาเริ่มไหลรินออกมาจากดวงตาของนางอย่างเงียบ ๆ
“จื่อเอ๋อ” ครั้นเห็นบุตรสาวสุดที่รักร้องไห้เงียบ ๆ เพียงลำพัง ไป๋เฉิงเซียงก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ ราวกับหัวใจกำลังถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ แต่แล้วเขาก็กลับพลันโมโห นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวของเขาหันมามองไป๋หยาน “ไป๋หยาน นั่นเจ้าทำอะไร ? เจ้าไม่มีความละอายบ้างเลยหรือไร ? “
ไป๋หยานมีสีหน้าเครียด ครั้นนางเหลือบมองไป๋เฉิงเซียง และบุตรสาวของเขา นางก็เห็นความอิจฉาในแววตาของไป๋จื่อ พลันแววตาของนางก็เปล่งประกายเล็กน้อย ใบหน้าที่งดงามของนางระบายไปด้วยรอยยิ้ม
“ยังไม่ชัดเจนพอกระนั้นหรือ ? ไม่เห็นหรือว่าเราทำอะไรกัน ?” ไป๋หยานเลิกคิ้ว พลางใช้นิ้วเรียวงามเชยคางของตี้คัง ท่าทางของนางเต็มไปด้วยการยั่วยวน “คังคังน้อย คังคังน้อย เจ้าเห็นด้วยกับสิ่งที่ข้าพูดหรือไม่ ?”
คังคังน้อย คังคังน้อยกระนั้นรึ ?
คำเรียกขานนี้ทำให้ริมฝีปากของตี้คังบิดเบี้ยว
แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว
ท่าทีที่เปลี่ยนไปของไป๋หยานกระตุ้นความสนใจของเขาเป็นอย่างมาก
อ๋องคังรวบมือของไป๋หยาน ก่อนจะหันไปทางไป๋เฉิงเซียง ผู้ซึ่งมีสีหน้าถมึงทึง “สงสัยบ้านสกุลไป๋คงจะลำบากเสียแล้วที่มีผู้นำตระกูลตาบอดเช่นเจ้า เจ้าไม่เห็นหรือว่าข้ากำลังทำอะไร ?”
“ท่านพ่อ ! ดูนางสิ … ” ไป๋จื่อมีสีหน้าซีดเผือด นัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ความอิจฉาแทบจะทะลุออกมาจากนัยน์ตา “นางตั้งใจยั่วยุเรา !“
ถูกแล้ว ไป๋หยานเจตนาทำเช่นนั้นจริง ๆ !
เพื่อที่จะทำลายหญิงไร้ยางอายเยี่ยงไป๋จื่อ นางเต็มใจยอมขายหน้า เพียงเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมาย
“ท่านอ๋อง ท่าน…” ไป๋เฉิงเซียงพยายามควบคุมความโกรธภายในใจ เขามองตี้คังอย่างเหยียดหยาม “อ๋องคัง ข้าแน่ใจว่าท่านต้องเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับบุตรสาวคนโตของข้ามาบ้าง นางมิใช่หญิงบริสุทธิ์ ทั้งยังตั้งครรภ์ก่อนแต่งงาน นางหนีออกจากบ้านไปนานถึงหกปี สตรีเช่นนี้ไม่คู่ควรที่จะอยู่เคียงข้างท่าน ข้าไม่อยากให้ท่านถูกนางหลอก ข้าจึงต้องเรียนท่านตามตรง“
ถ้อยคำของไป๋เฉิงเซียง ทำให้สมาชิกทุกคนของบ้านสกุลหลานต่างโกรธแค้นกันทั่ว
แค่ชายผู้นี้ยอมให้ไป๋รั่วอภิเษกสมรสกับองค์รัชทายาทแทนไป๋หยาน ทั้งยังขับไล่ไป๋หยานออกจากตระกูลก็รุนแรงมากพอแล้ว มาตอนนี้เขายังกล้าให้ร้ายนางอีกกระนั้นรึ ?
คนเป็นพ่อควรทำสิ่งเหล่านี้หรือ ?
ทว่าในขณะที่ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานกำลังจะออกหน้าเถียงไป๋เฉิงเซียง น้ำเสียงอันเย็นชาของตี้คังพลันดังขึ้น “ก็แล้วไง ? แบบนี้แหละที่ข้าชอบ”
ผู้คนในงานทั้งหมดต่างอ้าปากค้างด้วยความตื่นตกใจอย่างสุดประมาณ กับถ้อยแถลงที่น่าตื่นเต้นนี้
แบบนี้แหละที่ข้าชอบ ?
นี่แสดงว่าอ๋องคังมีรสนิยมชอบสตรีที่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานกระนั้นรึ ?
โอ้สวรรค์ ! ไม่น่าแปลกใจที่สาว ๆ โสด ๆ ซิง ๆ ในอาณาจักรหลิวฮั่วนี้ ไม่อยู่ในสายตาของเขาเลยสักคน นั่นเป็นเพราะตี้คังมีรสนิยมแปลกประหลาดเช่นนี้นี่เอง
***จบบท แบบนี้แหละที่ข้าชอบ (2)***