ไป๋หยานไม่เสียเวลาคิดนาน นางพยักหน้าตอบทันที “ได้สิ เจ้าอยากได้สัตว์อสูรชนิดใดล่ะ ?”
“จิ้งจอก…ข้าชอบจิ้งจอก ! พวกมันมีขนยาวอีกทั้งน่ารัก“
จิ้งจอก ?
เรื่องง่าย ๆ
ไป๋หยานยิ้มหวานพลางกล่าวว่า “เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะต้องเตรียมจิ้งจอกมาให้เจ้าเลือก“
มีสุนัขจิ้งจอกจำนวนมาก รายล้อมรอบตัวเฉินเอ๋อบุตรชายของนาง เมื่อถึงเวลานั้นนางจะเรียกพวกมันมาให้เด็กสาวเลือก
ทว่าคำกล่าวของไป๋หยาน ทำให้ทุกคนที่ได้ยินต่างรู้สึกหมั่นไส้
นี่นางคิดว่าสัตว์อสูรเป็นอะไร ? กะหล่ำปลีในตลาดรึไง ?
ทันทีที่ตี้คังได้ยินถ้อยคำของนาง นัยน์ตาของเขาก็ลุกวาวอย่างน่ากลัว ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่แลดูกระหายเลือด เขามองไป๋หยานด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าเขาเป็นผู้ชนะ
ส่วนไป๋หยานครั้นกล่าวจบ นางก็รับรู้ได้ถึงสายตาเย็นยะเยือกด้านหลัง นางพลันฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า
จบกัน !
ข้าลืมไปได้อย่างไรว่าเขายังคงอยู่ที่นี่ ?
“จิ้งจอกกระนั้นรึ ?”
ขณะที่ไป๋หยานพยายามหาวิธีแก้ตัว บุรุษผู้นั้นก็เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างหลังนางแล้ว
เขากระซิบข้างหูของนางด้วยน้ำเสียงเย็น ๆ นั่นทำให้นางขนลุกซู่ทั้งตัว
“ข้าก็รอคอยที่จะได้เห็นสุนัขจิ้งจอกเหล่านั้นเช่นกัน … “
สีหน้าของไป๋หยานเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในขณะที่นางอยากจะกล่าวอะไรบางอย่างนั้น นางก็เห็นกลุ่มหมาป่าสีเงินลากเลื่อนบัลลังก์ออกมาจากนภากาศที่ว่างเปล่าอย่างรีบร้อน ก่อนจะหยุดลงตรงหน้าของตี้คังพร้อมเสียงดังเอี๊ยด
ตี้คังเดินขึ้นบัลลังก์ ก่อนจะหายลับไปในท้องฟ้ายามค่ำคืนเฉกเช่นขามา
“พี่ไป๋หยาน พี่เจอกับอ๋องคังได้อย่างไร ?” หลานเสี่ยวหยุน แลดูตื่นเต้นมาก กิริยาท่าทางของนางไม่ต่างกับเด็กซุกซน “ไป๋จื่อ นางมารร้ายนั่นใฝ่ฝันจะเป็นชายาอ๋องคังมานานแล้ว วันนี้ได้เห็นนางมารร้ายต้องพ่ายแพ้ ข้ามีความสุขจริง ๆ ! “
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพยามที่ตี้คังกอดไป๋หยาน หยานเสี่ยวหยุนรู้สึกว่าทั้งสองเหมาะสมกันมาก
“ท่านลุง น้องชายของข้าไม่ได้มาร่วมงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ใช่หรือไม่ ?” ไป๋หยานหันไปหาหลานหยู พร้อมกับเอ่ยถาม
หลานหยูนิ่งอึ้งเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า “ใช่ เขาไม่ได้มาที่นี่“
ไป๋หยานย่นหน้าผากเล็กน้อย นางรู้จักนิสัยเซียวเอ๋อน้องชายของนางดี เขาไม่น่าจะพลาดโอกาสสำคัญนี้
ไม่น่าจะเป็นไปได้ ?
“ท่านลุง ท่านช่วยส่งคนไปบ้านสกุลไป๋ สอบถามเรื่องของเซียวเอ๋อหน่อยจะได้หรือไม่ ? ข้ายังมีบางเรื่องที่ต้องทำ”
“ได้สิ” เขาพยักหน้า “ว่าแต่เจ้าจะทำสิ่งใดหรือ ?”
ไป๋หยานยิ้ม รอยยิ้มของนางแลดูชั่วร้าย แล้วนางก็หันมาถามหลานเสี่ยวหยุนว่า “เจ้าอยากจะทำเรื่องสำคัญกับข้าหรือไม่ ?”
หลานเสี่ยวหยุนกล่าวตอบอย่างตื่นเต้น “แน่นอน ! ข้าอยากไปด้วย ! ไปกันเถอะพี่ไป๋หยาน !“
“ไป“
ไป๋หยานดึงมือของเด็กสาวพร้อมกับก้าวอย่างรวดเร็ว พวกนางเดินหายไปท่ามกลางความมืดยามราตรี
*****
ดึกสงัด
บนท้องถนนในยามค่ำคืนเช่นนี้ ไป๋จื่อกำลังเตะก้อนหินด้วยความโมโห ยิ่งนางหวนนึกถึงภาพตี้คังกอดไป๋หยาน นางก็รู้สึกริษยาราวกับมีมดนับพันกัดกินหัวใจของนาง
แต่แล้ว …
ทันใดนั้นเอง นางก็เห็นร่าง ๆ หนึ่งยืนอยู่ใต้แสงจันทร์นวล กำลังส่งยิ้มให้นาง
“ไป๋หยาน !”
แสงจันทร์กระจ่าง ทำให้ไป๋จื่อมองเห็นใบหน้าของคนที่นางเกลียดชังได้อย่างชัดเจน นางกัดฟันแน่น “เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ?”
“สิ่งที่เจ้าควรใส่ใจหาใช่เรื่องที่ข้ามาที่นี่ไม่ หากแต่เจ้าควรคิดว่าจะกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย หรือไม่มากกว่า ?”
ไป๋หยานก้าวเข้าหาอย่างช้า ๆ ทว่ามั่นคง ใบหน้าของนางแม้จะมีรอยยิ้ม แต่ก็แลดูน่ากลัว
“ไป๋หยาน นี่เจ้าคิดจะทำอะไร ?” ไป๋จื่อก้าวถอยหลัง อ้าปากค้างด้วยความรู้สึกกลัวจับขั้วหัวใจ…
***จบบท มีเรื่องสำคัญต้องทำ (2)***