ภายในหอบรรพชนตระกูลไป๋ ไป๋เซียวนั่งเอนหลังพิงกำแพง เพื่อบรรเทาพิษไข้ภายในร่างกาย
“เสี่ยวมี่…ข้าคิดว่าท่านน้าคงจะอยู่ในนี้ เข้าไปพบท่านน้าข้างในกันเถอะ” ภายนอกประตู เสียงเด็กน้อยดังแว่วเข้ามาในอาคารที่เงียบสงบ
ไป๋เซียว อยากจะเอ่ยปากร้องเรียก ทว่าครั้นเขาเปิดปากกลับไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมา เนื่องเพราะลำคอของเขาแห้งผาก กระทั่งไม่อาจกล่าวคำใดออกมาได้แม้แต่คำเดียว เขาทรมานมาก
แคร่ก..
ประตูหอบรรพชนเปิดออก เปลือกตาของไป๋เซียวค่อย ๆ ลืมขึ้น เขาเห็นไป๋เสี่ยวเฉินหลานชายที่รักกำลังยืนอยู่ตรงประตูท่ามกลางแสงสว่างไสวของดวงจันทรา
“ท่านน้า !” ทันทีที่เห็นเด็กหนุ่มนอนอยู่บนพื้น เด็กชายตัวน้อยก็รีบวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับเสี่ยวมี่
เด็กน้อยยื่นมือออกไปแตะหน้าผากไป๋เซียว พร้อมกับอุทานว่า “ท่านน้า ท่านมีไข้นี่ !“
อย่าคิดว่าเหล่าจอมยุทธ์จะไม่รู้จักเจ็บป่วย แม้ว่าพวกเขาจะมีร่างกายที่แข็งแรงกว่าคนทั่วไป อีกทั้งยังมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีกว่า หากแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ป่วย
“ข้าไม่เป็นไร … ” เสียงไป๋เซียวแหบพร่า เขาคงเกรงว่าหลานชายของตนจะเป็นห่วง เขายังพยายามยิ้มให้เด็กน้อย “เฉินเอ๋อ เจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร ?”
“หม่ามี้เป็นห่วงท่านน้ามาก นางจึงให้เสี่ยวมี่มาพบท่าน แล้วเฉินเอ๋อเองก็คิดถึงท่านน้ามากเช่นกัน เช่นนั้นหลานจึงมากับเสี่ยวมี่ด้วย”
ตลอดเวลาที่พูด ไป๋เสี่ยวเฉินก็ใช้มือควานลงไปในกระเป๋าของตนไม่หยุด จากนั้นเขาก็หยิบขวดยาเล็ก ๆ ออกมาหลายขวด แต่ละขวดบรรจุยาเม็ดที่เปี่ยมประสิทธิภาพมากมายหลากหลายชนิด
“เฉินเอ๋อขอโทษนะท่านน้า เฉินเอ๋อไม่เคยเรียนรู้ทักษะการแพทย์มาจากหม่ามี้มาเลย จึงไม่รู้ว่ายาเม็ดไหนที่สามารถรักษาท่านน้าได้”
ตั้งแต่เล็ก เขาก็สนใจเพียงเรื่องยาพิษเท่านั้น ส่วนเรื่องการปรุงยารักษาคน บอกตามตรงเขาไม่ปลื้มเอาเสียเลย…
“ไม่งั้น…” ไป๋เสี่ยวเฉินเงยหน้านัยน์ตาเป็นประกาย “ท่านก็ลองทั้งหมดเลยดีหรือไม่ ?”
“นี่คือ … ” ไป๋เซียวยกขวดต่าง ๆ ที่วางกองตรงหน้าไป๋เสี่ยวเฉินขึ้นดู นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสงสัย
ไป๋เสี่ยวเฉินยิ้ม รอยยิ้มนั้นแลดูบริสุทธิ์สดใสเฉกเช่นเคย “นี่คือขนมของเฉินเอ๋อกับเสี่ยวมี่ที่หม่ามี้เตรียมไว้ให้พวกเรา“
ขนม ?
ไป๋เซียวมองใบหน้าเล็ก ๆ ที่ละเอียดอ่อนของเด็กน้อย พลันกระแสอบอุ่นก็เติมเต็มหัวใจของเขา “ไม่จำเป็นหรอก พวกเจ้าเก็บไว้กินกันเถอะนะ“
สีหน้าผิดหวังพลันเข้ามาแทนที่รอยยิ้มของไป๋เสี่ยวเฉินทันที “ข้าคิดว่าท่านน้าต้องชอบขนมนี่แน่ ๆ ก็อาจารย์ตาทั้งสามของข้ามักจะต่อสู้กัน เพื่อแย่งชิงขนมนี่อยู่เสมอ“
มุมปากของไป๋เซียวโค้งลง อาจารย์ตาทั้งสามต่อสู้แย่งชิงขนม ตกลงทั้งสามคนนั่นอายุเท่าใดกันนี่ ?
“นายน้อยนี่ซื่อบื้อจริง ๆ” เสี่ยวมี่ปรายหางตามองไป๋เสี่ยวเฉิน“ท่านคิดว่ามนุษย์ทุกคนจะเหมือนกับพวกเราที่สามารถกินยาเม็ดจิตวิญญาณแทนขนมได้กระนั้นรึ ? หากท่านให้เขากินยาเม็ดเหล่านั้นทั้งหมด ข้าเกรงว่าร่างกายของเขาน่าที่จะระเบิดเป็นชิ้น ๆ ตายแหง๋แก๋เสียล่ะมากกว่า !“
ไป๋เสี่ยวเฉินกระพริบตาปริบ ๆ อย่างไร้เดียงสา อีกทั้งงุนงง “ข้าเป็นลูกชายของหม่ามี้ ส่วนท่านน้าก็เป็นน้องชายของหม่ามี้ ก็แล้วเหตุใดเขาถึงกินเหมือนพวกเราไม่ได้ล่ะ ?”
เสือขาวเสี่ยวมี่เหลือบตามองบนให้กับคำถามไร้สาระของนายน้อย มันเดินไปข้างหน้าไม่สนใจไป๋เสี่ยวเฉินอีก แล้วมันก็เริ่มใช้กรงเล็บควานหาขวดยา หลังจากนั้นไม่นานมันก็พบขวดยาขวดหนึ่งมันส่งมอบยาขวดนั้นให้ไป๋เซียว
“เพียงท่านกินไอ้นี่เม็ดหนึ่ง อาการไข้ของท่านก็จะหาย“
ไป๋เซียวรู้สึกตกใจเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินว่า การกินขนมช่วยรักษาอาการไข้ได้
ทว่าครั้นเห็นประกายแวววาวในดวงตาของหลานชาย ไป๋เซียวก็ปฏิเสธไม่ออก เขาหยิบขวดเคลือบจากอุ้งเล็บของเสี่ยวมี่ จากนั้นก็เปิดขวดอย่างระมัดระวัง
***จบบท ไป๋เสี่ยวเฉินมาหาท่านน้า***