“อ๊า !“
ทันทีที่กรงเล็บของจิ้งจอกน้อยตะครุบเส้นผมของหยูหรงได้ มันก็ตะกุยอย่างแรง ส่งผลให้หนังศีรษะของหยูหรงฉีกขาดเกิดรอยบาดลึก นางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดในทันที
“เจ้าสัตว์ตัวน้อย เจ้ากล้าดียังไงมาทำร้ายข้า !“
หยูหรงโมโห นางพยายามตบตีจิ้งจอกน้อย แววตาของนางเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ครั้นเห็นฝ่ามือของหยูหรงฟาดลงมา เจ้าจิ้งจอกน้อยก็เบี่ยงตัวออกด้านข้างอย่างแคล่วคล่อง มันไม่ลืมที่จะทำสีหน้าเยาะเย้ยใส่หยูหรง ทำเอาหยูหรงหน้าเขียวด้วยความโกรธ
“ใครก็ได้มานี่ที มาช่วยจับสุนัขจิ้งจอกเหม็น ๆ ตัวนั้นให้ข้าที !”
หยูหรงเช็ดเลือดที่ไหลออกจากหนังศีรษะของนาง พร้อมกับตะโกนด้วยความหงุดหงิด
เพียงแค่ไม่กี่อึดใจ บรรดายามก็รีบวิ่งเข้ามาด้านใน พวกเขาพุ่งเป้าไปที่จิ้งจอกน้อยซึ่งกำลังยืนนิ่งอยู่บนโต๊ะ
ฟุบ !
จิ้งจอกน้อยกระโดดพุ่งตัวไปข้างหน้าแหวกวงล้อมพวกยามออกมา จากนั้นมันก็พยายามใช้กรงเล็บแหลมคมตะปบลงบนใบหน้าของหยูหรง โชคดีที่หยูหรงสามารถปัดป้องอย่างรวดเร็ว หาไม่แล้วใบหน้าของนางคงจะได้รับบาดเจ็บ
แต่กระนั้น หลังมือข้างหนึ่งของนางก็ถึงกับเลือดออก นางแยกเขียวยิงฟันด้วยความเจ็บปวด
“ฆ่ามัน ! ฆ่ามันเลย !” ใบหน้าของหยูหรงบิดเบี้ยว นางจ้องมองจิ้งจอกน้อยอย่างดุร้าย
ทว่า …
สายเกินไปแล้ว ก่อนที่บรรดายามจะสามารถคว้าตัวสุนัขจิ้งจอกไว้ได้ เจ้าตัวน้อยก็กระโดดออกนอกหน้าต่าง เผ่นแผล็วหายตัวไปท่ามกลางความมืดของยามราตรี …
“พวกเจ้าไร้ประโยชน์จริง ๆ กะแค่สุนัขจิ้งจอกตัวเดียวก็ยังจับไม่ได้ !” ด้วยความโกรธหยูหรงง้างเท้าเตะยามคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหน้านาง พร้อมกับตะคอกออกมาด้วยความโมโห
นางกุมมือตนเองแน่น ไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือไม่ หากแต่นางรู้สึกว่าบาดแผลที่หลังมือของนางนั้นคันมาก กระทั่งอดมิได้ที่จะเกา
“ช่างเถอะ ข้าไม่ตำหนิยามพวกนี้หรอก จิ้งจอกน้อยตัวนั้นเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก” หยูฮูหยินผู้เฒ่าขมวดคิ้วเล็กน้อย “ทว่าบ้านสกุลไป๋กว้างใหญ่มาก หากมันยังอยู่ในนี้ มันก็คงไม่สามารถเล็ดรอดออกไปได้ง่าย ๆ สั่งยามทุกคนออกค้นหามัน ! “
“ขอรับ ฮูหยินผู้เฒ่า” ยามก้มหัว พร้อมกล่าวด้วยความเคารพ
ทันทีที่ยามถอยออกไปแล้ว หญิงชราก็เหลือบมองบุตรสาวของตน “เจ้าลืมสิ่งที่ข้าบอกเจ้าแล้วกระนั้นหรือ ? ไม่ว่าเจ้าจะไม่พอใจอะไร เจ้าก็ไม่ควรแสดงออกต่อหน้าผู้อื่น”
“แต่จิ้งจอกนั่นมันน่าโมโหจริง ๆ”
เพียงคิดถึงสิ่งที่จิ้งจอกน้อยทำกับนาง หยูหรงก็กัดฟันด้วยความเกลียดชัง
ยิ่งไปกว่านั้น บาดแผลบนหลังมือของนางก็ยิ่งคันขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งนางอดไม่ได้ที่จะเกา นางเกาแรงขึ้นเรื่อย ๆ !
“ไม่ต้องกังวล อย่างไรเสียมันก็ไม่อาจรอดพ้นเงื้อมมือเราไปได้“
หยูฮูหยินยิ้มอย่างเลือดเย็น ไม่มีสิ่งใดที่นางอยากได้แล้วไม่ได้
บ้านสกุลไป๋ก็เช่นกัน รวมถึงสินสอดทองหมั้นของหลานเยี่ยด้วย !
*****
ขณะที่หยูฮูหยินผู้เฒ่ากำลังคิดวางแผน ไป๋เสี่ยวเฉินตัวน้อยก็วิ่งไปยังสถานที่ซึ่งเขาซ่อนเสี่ยวมี่ไว้
ช่วงเวลานั้น เสี่ยวมี่กำลังนอนเลียอุ้งเท้าอย่างสง่างามอยู่บนพื้นหญ้า มันกราดตามองจิ้งจอกน้อยที่กำลังวิ่งเข้ามาหา พร้อมเอ่ยถามว่า “เสร็จแล้วกระนั้นหรือ ?”
“หญิงชั่วผู้นั้นรวมหัวกับมารดาของนางกำลังวางแผนทำลายท่านน้า ข้าเลยทนนิ่งเฉยไม่ไหว ตะกุยนางไปเสียหลายที” ไป๋เสี่ยวเฉินสะบัดเส้นขนสีเงินยวงของเขา น้ำเสียงเด็กน้อยเต็มไปด้วยความโกรธเคือง แววตาที่เคยใสบริสุทธิ์ยามนี้แปรเปลี่ยนเป็นกระหายเลือดโดยสัญชาติญาน
เสี่ยวมี่กระพริบตา นี่นายน้อยตะกุยนางไปกี่ครั้งกัน ? เหตุใดนายน้อยที่บ้าคลั่งจึงปล่อยหยูหรงไปง่าย ๆ เช่นนั้น ?
ไป๋เสี่ยวเฉินดูเหมือนจะรู้ทันความคิดของเสี่ยวมี่ เด็กน้อยยิ้มกว้าง “เสี่ยวมี่ เจ้าลืมไปแล้วเหรอ ข้าไม่สนใจปรุงยาที่ใช้ในการรักษา แต่ข้าชื่นชอบเรื่องการวางยาพิษ เมื่อครู่ข้าใส่พิษบางอย่างลงบนบาดแผลของนางให้นางได้ลิ้มรสชาติของมัน !“
***จบบท แก้แค้นให้หม่ามี้ (3)***