“เร็วเข้า แยกกันออกตามหา ข้าไม่เชื่อว่าเราจะหาสุนัขจิ้งจอกตัวน้อยนั่นไม่เจอ !“
ทันใดนั้น มีเสียงดังมาจากด้านหน้า ไป๋เสี่ยวเฉินหมอบลงกับพื้นหญ้าอย่างรวดเร็ว แล้วใช้พงหญ้าในการหลบซ่อนตัว
“นายน้อยเร็ว ๆ เข้าเถอะ เราควรรีบออกจากบ้านสกุลไป๋ ก่อนจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น“
เสี่ยวมี่เลียอุ้งเท้า ขณะหรี่ตามองยามหลายคนที่เดินผ่านพงหญ้าไป จากนั้นมันก็สะบัดตัว และลุกขึ้นจากพื้น
“ข้ารู้ทางออกจากที่นี่ ตามข้ามา“
ในใจของไป๋เสี่ยวเฉินรู้สึกหงุดหงิด แม้เขาจะไม่อยากทำตามสักเท่าไหร่ ทว่าเขาก็จำใจลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเดินตามหลังเสี่ยวมี่ไป
หากมิใช่เป็นเพราะมารดาของเขาสั่งให้เสี่ยวมี่คอยดูแลเขา เขาก็คงจะไม่ฟังคำพูดของเสี่ยวมี่เป็นแน่
เสี่ยวมี่พาไป๋เสี่ยวเฉินหลบหลีกพวกยามไปตลอดทาง ทันทีที่พ้นสายตายามเหล่านั้น ทั้งคู่ก็ยังคงเดินมุ่งไปข้างหน้าเรื่อย ๆ
จวบจนกระทั่ง…
ไป๋เสี่ยวเฉินเห็นโพรงสุนัขปรากฏอยู่เบื้องหน้า น้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป กลายเป็นเสียงโกรธเกรี้ยวแบบเด็ก ๆ “เสี่ยวมี่แมวชั่ว ! เจ้าต้องการให้ข้าลอดโพรงสุนัขนี่หรือ ?”
“ก็แล้วแต่นายน้อย นายน้อยคิดจะเพิกเฉยต่อคำสั่งของท่านแม่และเปิดเผยตัวตนงั้นเหรอ ?”
เสี่ยวมี่กลอกตาพร้อมกับกล่าววาจาประชดประชัน
ยามนี้แม้ว่าไป๋เสี่ยวเฉินจะอยู่ในร่างของสุนัขจิ้งจอก ทว่าทันทีที่เสี่ยวมี่พูดจบ เขาก็ไม่อาจซ่อนความขยะแขยงในแววตาไว้ได้
เด็กน้อยอยากจะร้องไห้ …
“ฮึ ! เสี่ยวมี่ ต่อให้เจ้ายกหม่ามี้มาขู่ข้า ! แต่นี่มันโพรงสุนัข อย่างไรเสีย ข้าก็ไม่ยอมลอดออกไปเด็ดขาด“
แต่ว่า…ถึงมันจะน่าขยะแขยง ก็ยังดีกว่าทำให้หม่ามี้โกรธเป็นไหน ๆ
เสี่ยวมี่ที่ยืนอยู่หลังไป๋เสี่ยวเฉินยิ้มอย่างซุกซน พร้อมกับชำเลืองมองไป๋เสี่ยวเฉิน ซึ่งกำลังเดินไปทางโพรงสุนัขอย่างเชื่องช้า
นายน้อยไม่เคยกลัวสิ่งใดเว้นแต่มารดาของเขา…
ช่วงเวลานั้นไป๋เสี่ยวเฉินรู้สึกเหมือนตนเองกำลังมุ่งหน้าสู่ลานประหาร เด็กน้อยหลับตาลอดเข้าโพรง และทันทีที่เขาพ้นจากโพรงสุนัขเขาก็ลุกขึ้นพร้อมกับผิวปากดังวิ้ว
ครั้นเด็กชายลอดผ่านโพรงสุนัขออกไปได้ เสี่ยวมี่ก็ไม่ลังเลที่จะคลานลอดผ่านโพรงสุนัขออกมาด้วย
ท้องถนนกว้างสว่างไสวภายใต้แสงจันทร์
พลันสายตาของไป๋เสี่ยวเฉินก็หันไปเห็นร่างในอาภรณ์สีแดงกำลังเดินอย่างแช่มช้ามาตามถนน
นัยน์ตาของเด็กน้อยเบิกบานเปี่ยมความสุข ขณะที่เขากำลังจะเรียกนาง เขาก็เห็นสตรีอีกคนเดินตามหลังมา สตรีผู้นั้นทำให้เขากลืนถ้อยคำทั้งหมดลงคอทันที สายตาของเขายังคงจับจ้องไป๋หยานอย่างเศร้า ๆ …
“พี่ไป๋หยาน ดูนั่นสิ จิ้งจอกนั่นน่ารักจังเลย !“
หลานเสี่ยวหยุนลากไป๋จื่อ พร้อมกับเดินมาอยู่ข้าง ๆ ไป๋หยาน นางมองตรงไปข้างหน้า พลันสายตาของนางก็ปะทะเข้ากับจิ้งจอกเงิน นัยน์ตาของนางเปล่งประกายเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ในฐานะบุตรสาวของบ้านสกุลหลาน แม้ว่านางจะไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำสัญญากับสัตว์อสูร หากแต่อย่างน้อยนางก็มีโอกาสได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่ง อีกทั้งสวยงามเหล่านั้นมาบ้าง …
อย่างไรก็ตาม ไม่มีจิ้งจอกตัวใดที่นางเคยเห็นสามารถเทียบจิ้งจอกสีเงินตัวนี้เลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดวงตากลมโตใสบริสุทธิ์คู่นั้นราวกับน้ำพุใส ๆ น่ารักเสียจนทำให้หัวใจของนางเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น
ไป๋เสี่ยวเฉินไม่สนใจสาวน้อยหลานเสี่ยวหยุนเลย เขากลับกระโดดข้ามท้องฟ้ายามราตรีพุ่งเข้าหาไป๋หยาน จากนั้นก็ซุกตัวเข้าสู่อ้อมแขนของนาง
หางที่อ่อนนุ่มเคลียไล้บนใบหน้าของไป๋หยาน กระทั่งนางอดไม่ได้ที่จะบีบจมูกเล็ก ๆ ของจิ้งจอกน้อย
“เหตุใดเจ้าจึงอยู่ที่นี่ ?”
ไป๋เสี่ยวเฉินเหลือบมองเด็กสาวที่อยู่ถัดจากมารดาของตน เขาไม่กล่าวคำใดเพียงชี้อุ้งเท้าเล็ก ๆ ของเขาไปที่เสี่ยวมี่แทน เพื่อบอกเป็นนัยว่าเขามากับมัน
ไป๋หยานหรี่ตาลงเล็กน้อย เมื่อเห็นเสี่ยวมี่ออกมาจากบ้านสกุลไป๋เช่นนี้ นั่นก็หมายความว่าไป๋เซียวยังปลอดภัยดี …
***จบบท ลอดโพรงสุนัข***