“พี่ไป๋หยาน …“
หลานเสี่ยวหยุนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไป๋หยาน จ้องมองสุนัขจิ้งจอกในอ้อมแขนของผู้มีศักดิ์เป็นพี่สาว
สายตาของนางที่มองมานั้น ทำเอาไป๋เสี่ยวเฉินตัวสั่น เขารีบซุกอกมารดาของตนงุด ๆ
“ข้าจะหาสุนัขจิ้งจอกตัวอื่นให้เจ้าในภายหลัง ตัวนี้ไม่ได้”
ไป๋หยานไม่ยอมมอบบุตรชายของตนให้ผู้ใดเป็นแน่ เช่นนั้นนางจึงรีบบอกปัดความคิดของหลานเสี่ยวหยุนในทันที
“ก็ได้…“
แววตาของหลานเสี่ยวหยุนเต็มไปด้วยความผิดหวัง นางมองไป๋เสี่ยวเฉินที่ซุกอกไป๋หยานอย่างไม่เต็มใจ “ทว่าจิ้งจอกที่พี่จะหาให้ข้าต้องงดงามเช่นนี้นะ“
งามเหมือนลูกของนางกระนั้นเหรอ ?
ไป๋หยาน ไม่อยากเจรจาเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก นางจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ไว้เมื่อถึงเวลานั้น เราค่อยพูดกัน หยุนเอ๋อ เจ้าโยนไป๋จื่อไว้ที่หน้าประตู จากนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ“
“พี่ไป๋หยาน พี่ไม่เข้าไปพบน้องชายแล้วหรือ ?” หลานเสี่ยวหยุนประหลาดใจกับสิ่งที่นางได้ยิน
พี่ไป๋หยานกำลังเป็นห่วงน้องชายอยู่มิใช่หรือ ? ทว่าเหตุใดจู่ ๆ พี่ถึงคิดจะกลับ ทั้งที่มาถึงหน้าประตูแล้วแท้ ๆ ?
“เขาปลอดภัยดี”
ไป๋หยานยกยิ้ม นัยน์ตาเป็นประกายแลดูน่าอันตราย
นับจากนี้ไป หอบุปผาจะคอยปกป้องไป๋เซียว จะไม่มีอันตรายใด ๆ แผ้วพานเขาได้อีก
เช่นนั้นนางย่อมสามารถทำภารกิจของนางได้อย่างสบายใจ !
“เสี่ยวมี่ เจ้าพาเฉินเอ๋อกลับบ้านที“
ทันทีที่ไป๋หยานกล่าวจบ อุ้งเท้าเล็ก ๆ ของไป๋เสี่ยวเฉินก็เกาะแขนเสื้อของนางแน่น เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองนาง พร้อมกับน้ำตาเอ่อคลอหน่วย
นั่นทำให้หัวใจของนางอ่อนยวบลงทันที นางถอนหายใจอย่างหมดหนทาง ทำได้เพียงกล่าวว่า “เสี่ยวมี่ เจ้ากลับไปก่อน แล้วพรุ่งนี้ข้าค่อยพาเฉินเอ๋อกลับบ้าน“
“เมี้ยว…“
เสี่ยวมี่ร้องคราง เขามองมารดาและบุตรชายอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังกลับ วิ่งควบออกไปอย่างว่องไวท่ามกลางราตรี เพียงไม่ช้าร่างของเขาก็หายลับไปบนท้องถนนที่ทอดยาว…
“ไป กลับบ้านกันเถอะ” ไป๋หยานกอดร่างเล็ก ๆ ไว้ในอ้อมแขน จากนั้นก็เดินนำหน้ามุ่งสู่บ้านสกุลหลาน
ครั้นนางกลับถึงบ้านสกุลหลาน หลานหยูผู้เป็นลุงก็ยังไม่กลับมา ตอนนั้นนางขอให้หลานหยูออกจากบ้านสกุลหลาน เพื่อไปสอบถามเรื่องของไป๋เซียว และเพื่อให้มั่นใจว่าเขาปลอดภัยดี นางจึงสั่งให้เสี่ยวมี่ติดตามไป๋เซียวอีกทางด้วย
ดูจากสถานการณ์แล้ว หลานหยูคงจะไม่กลับมาในเร็ว ๆ นี้เป็นแน่ …
เดิมทีหลานเสี่ยวหยุนอยากจะตามไป๋หยานเข้าไปในห้องด้วย แม้ว่านางจะไม่ได้เป็นเจ้าของสุนัขจิ้งจอกตัวน้อย ทว่าเพียงขอแค่ได้เล่นกับสุนัขจิ้งจอกนั่นก็ยังดี
อย่างไรก็ตาม ไป๋หยานเองก็ต้องการรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น นางจึงรีบปิดประตู กระทั่งกระแทกจมูกของน้องสาว
หลานเสี่ยวหยุนลูบจมูกตัวเองป้อย ๆ ท่าทีของนางเศร้าสร้อย หากแต่เมื่อหวนคิดถึงคำสัญญาของไป๋หยาน นางก็สบายใจขึ้น
“อย่างน้อยพี่ไป๋หยานก็ให้สัญญาแล้วว่าจะหาสุนัขจิ้งจอกมาให้ข้าเลือกในภายหลัง เช่นนั้นข้าก็ไม่ควรเร่งรัดนางในเวลานี้ “
คิดได้เช่นนี้ นางก็มองประตูที่ปิดสนิท ก่อนจะเดินจากไปอย่างอารมณ์ดี
*****
หลังจากรอฟังเสียงฝีเท้าที่ค่อย ๆ ไกลห่างออกไป กระทั่งชัดเจนว่าเสียงนั้นลับหายไปอย่างแน่นอนแล้ว ไป๋หยานก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก นางหันกลับมามองจิ้งจอกตัวน้อยที่นอนอยู่บนโต๊ะ
ภายใต้แสงไฟที่ไหววูบวาบ ร่างน้อย ๆ เริ่มเปลี่ยนไป เพียงชั่วพริบตา เด็กชายน่ารักราวกับตุ๊กตาพลันปรากฏขึ้นต่อหน้านาง
“เฉินเอ๋อ เกิดอะไรขึ้นกับน้าของเจ้า” หัวใจของไป๋หยานเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อเอ่ยปากถาม
“หม่ามี้ หญิงชั่วผู้นั้นน่ารังเกียจมาก !” แก้มเล็ก ๆ ของไป๋เสี่ยวเฉินเป็นสีชมพูเมื่อกล่าวต่อว่า “ท่านน้าป่วย นางไม่ยอมเรียกหมอมาตรวจดูอาการเขา ทั้งยังกักขังเขาไว้อีก หนำซ้ำข้ายังได้ยินพวกนางกล่าววาจาดูถูกเหยียดหยามหม่ามี้กับท่านน้าด้วย !“
“แล้วไงต่อ ?”
“หม่ามี้ มารดาของหญิงชั่วผู้นั้นบอกให้นางมีบุตรกับชายสักคน หม่ามี้ท่านมีน้องอีกสักคนให้ข้าจะได้หรือไม่ ? ข้าอยากได้น้องสาวมาเป็นเพื่อนเล่นข้า” นัยน์ตาของไป๋เสี่ยวเฉินเป็นประกายสดใส ขณะจ้องไป๋หยานตาไม่กระพริบ
ไป๋หยานกระแอมไอ ก่อนจะตอบกลับอย่างกระอักกระอ่วน “เจ้ายังไม่มีบิดาเลย แล้วแม่จะมีน้องสาวให้เจ้าได้อย่างไร ?”
***จบบท ข้าอยากได้น้องสาว***