มีใครพอจะอธิบายให้นางฟังหน่อยได้หรือไม่ว่า เหตุใดทารกที่นางให้กำเนิดถึงเป็นสุนัขจิ้งจอกที่ไม่มีขน ? ยิ่งไปกว่านั้น ลูกจิ้งจอกที่เพิ่งเกิดยังสามารถดึงเสื้อของนาง และเรียกนางว่าหม่ามี้อีก มันเป็นไปได้อย่างไร ?
อีกเรื่อง สมมติว่านางให้กำเนิดลูกจิ้งจอกจริง ก็แล้วเหตุใดจิ้งจอกถึงพูดได้ ? หรือว่านางอ่านหนังสือน้อยเลยไม่เคยรู้ถึงเรื่องพวกนี้ ?
“เจ้าเป็นใคร ?” ภายหลังจากพยายามกลั้นใจอย่างหนัก ในที่สุด ไป๋หยานก็หลุดถ้อยคำเหล่านี้ออกมาจากปากของนาง
“หม่ามี้…ลูกหิวแล้ว” สายตาของจิ้งจอกน้อยน่ารักแสนซื่อบริสุทธิ์ จิ้งจอกตัวน้อยจ้องมองนางอย่างน่าสงสาร เขากำลังออดอ้อนมารดาของตน
เดิมที ไป๋หยานยังรู้สึกหดหู่กับความจริงที่ว่านางให้กำเนิดลูกสุนัขจิ้งจอก ทว่าครั้นเห็นใบหน้าที่น่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้หัวใจของนางก็หลอมละลาย
“ลูก…หิวนม”
จิ้งจอกน้อยคว้าเสื้อไป๋หยาน เขาค่อย ๆ คลานขึ้นมาเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ กระทั่งถึงหน้าอก แล้วเจ้าจิ้งจอกตัวน้อยก็แหวกสาบเสื้อของนางเปิดออกโดยง่าย จากนั้นก็เริ่มดูดนมอย่างสบายใจ
เอ่อออออออ ~!
“เอิ๊ก…” จิ้งจอกน้อยเรอปิดท้าย ก่อนจะพริ้มตาหลับปุ๋ย เห็นได้ชัดว่าเด็กน้อยงีบหลับในอ้อมกอดของมารดาอย่างไร้ซึ่งกังวลใด ๆ
ครั้นเห็นจิ้งจอกน้อยนอนหลับอย่างเป็นสุขอยู่ในอ้อมอก หัวใจของไป๋หยานพลันอ่อนยวบ เจ้าคือลูกของข้า ลูกที่ข้าอุ้มท้องมาเพียงลำพังนานถึงสิบเดือน ไม่ว่าเจ้าจะเป็นผู้ใดตลอดชั่วชีวิตของข้า ข้าจะขอปกป้องเจ้าในฐานะลูกชาย”
*****
“ท่านราชครู ท่านราชครู !”
ภายในพระราชวังหรูหรามีเด็กสาวคนหนึ่งวิ่งตื๋อเข้ามาหาบุรุษที่กำลังจ้องมองดวงดาวบนท้องฟ้า ใบหน้าของเด็กสาวเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ตอนนี้บรรดาสัตว์อสูรทุกตัวต่างกำลังคุกเข่านมัสการกันแล้วใช่หรือไม่ หากสัตว์อสูรจากอาณาจักรอสูรของเรากระทำเช่นนั้น นั่นย่อมหมายความว่า ตอนนี้ข้ามีหลานชายแล้วกระนั้นสิ ?”
ชายผู้อยู่ในตำแหน่งราชครูกล่าวตอบว่า “องค์หญิง สถานที่ที่ข้าส่งองค์ราชาของเราไปนั้น ก็คือดินแดนที่ราชินีของเราจะปรากฏตัว ข้ามิได้แจ้งองค์ราชาล่วงหน้า หากแต่ดูเหมือนว่าพระเชษฐาของท่านจะค้นพบราชินีด้วยพระองค์เอง ส่วนเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นั้น ข้าขอทำนายว่า ราชันองค์ต่อไปแห่งอาณาจักรอสูรของเราได้ถือกำเนิดขึ้นในโลกนี้แล้ว”
หลายปีที่ผ่านมา ราชาอสูรไม่มีวี่แววว่าจะอภิเษกสมรส ไม่มีแม้แต่พระคู่หมั้น ทั้งหมดเป็นเพราะคำทำนายเดียวที่ว่า เขาจะไม่สามารถมีราชบุตรสืบทายาทกับหญิงใดได้ เว้นแต่สตรีซึ่งถูกกำหนดล่วงหน้าแล้ว เช่นนั้นองค์ราชาอสูรจึงไม่เคยแต่งตั้งราชินี หรือแม้แต่พระสนมตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทว่าถึงจะรอคอยกันเนิ่นนานแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววถึงหญิงสาวตามคำทำนายเลย
ในฐานะที่เป็นราชครูของอาณาจักรนี้ เขาเฝ้าสังเกตการเคลื่อนที่ของดวงดาว และก้อนเมฆ ที่สุดก็พบว่าราชินีเสด็จมายังโลกมนุษย์แล้ว และเมื่อคำนวณจนทราบพิกัดแน่ชัดขององค์ราชินี เขาจึงส่งองค์ราชาออกไปที่นั่น
“เยี่ยมไปเลย ! ในที่สุด เสด็จพี่ของข้าก็สามารถกล่าวอำลาชีวิตชายพรหมจรรย์ได้เสียที” องค์หญิงน้อยกระโดดโหยงเหยงไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นเต้น หญิงสาวคว้าแขนของราชครูพร้อมกับออดอ้อน “ท่านราชครู ช่วยส่งข้าไปยังโลกมนุษย์ด้วยคนสิ ข้าเองก็ต้องการเห็นหลานชายที่น่ารักของข้าเช่นกัน”
“องค์หญิง ที่ข้าสามารถส่งองค์ราชาออกไปได้ก็ด้วยอาศัยช่วงจังหวะที่ตราผนึกของดินแดนเราอ่อนแอ หากท่านประสงค์จะออกไปภายนอกอาณาจักรของเรา ข้าก็ต้องคำนวณหาช่วงเวลาที่เหมาะสมให้ได้เสียก่อน” ราชครูยิ้ม ขณะที่แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเอ็นดู
องค์หญิงน้อยแลบลิ้นออกมาอย่างขี้เล่น “เช่นนั้นก็ดี เมื่อใดที่ท่านหาโอกาสที่ว่าได้ ท่านจะต้องให้ข้าออกไปตามหาพี่ชายของข้า รวมถึงหลานชายที่น่ารักของข้าด้วย”
อาจเป็นเพราะการถือกำเนิดของหลานชายทำให้องค์หญิงน้อยตื่นเต้นมาก นางซึ่งปกติชอบตื๊อให้ราชครูทำโน่นทำนี่ จึงไม่อยู่เซ้าซี้อีกต่อไป นางหันหลังเดินกลับไปตามทิศทางเดิมที่นางมา
โชคไม่ดี ที่องค์หญิงยังมิทันได้ไปไหนไกล ทางเดินของนางกลับถูกร่างที่ทรงเสน่ห์สกัดกั้น
“นี่…เจ้าคิดจะทำอะไร ?” องค์หญิงน้อยเอ่ยถามอย่างโกรธ ๆ นางไม่พอใจที่ถูกขวางทาง
“องค์หญิง ที่ว่าองค์ราชาออกไปตามหาสตรีคนนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ?” เจ้าของเสียงเย้ายวนใจนั้นเป็นหญิงสาวที่งดงามดึงดูดใจไม่ต่างจากดอกกุหลาบที่เย้ายวน
“นางเป็นสตรีที่ถูกกำหนดให้เป็นชายาของเสด็จพี่ข้า ! หากไม่ให้เสด็จพี่ของข้าออกไปตามหานาง หรือจะให้เสด็จพี่ของข้าไปหาเจ้าแทน ?” องค์หญิงโกรธมาก ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความไม่พอใจ นางจ้องมองหญิงสาวคนนั้นกลับด้วยความโมโห
***จบบท กำเนิดจิ้งจอกน้อยจอมซ่าส์ (7)***