เขารู้ว่า หากเวลานี้เขาไม่เชื่อฟังมารดา จนทำให้ถูกชายผู้นั้นพบตัว บางที…บางที …
เขาอาจจะพรากจากหม่ามี้ตลอดไป !
ไป๋หยานรู้สึกปวดร้าวใจ นางดึงตัวเด็กน้อยเข้ามาสวมกอดเพื่อปลอบโยน “พรุ่งนี้แม่จะให้ยาเจ้าขวดหนึ่ง เมื่อไรก็ตามที่เจ้าอยากพบแม่ก็กินยานั่นเสีย ยานั่นจะช่วยปิดบังกลิ่นอายของเจ้า เขาจะได้หาเจ้าไม่พบ “
ทันทีที่ไป๋เสี่ยวเฉินได้พบกับตี้คัง เขาจะต้องจำเด็กน้อยได้เป็นแน่
สัตว์อสูรมีความสามารถในการแยกแยะกลิ่น เช่นนั้นไป๋หยานจึงให้ไป๋เสี่ยวเฉินปกปิดกลิ่นอาย เพื่อมิให้ตี้คังได้กลิ่นเขา
“หม่ามี้”
ไป๋เสี่ยวเฉินยกมือเล็ก ๆ ของเขาขึ้นโอบรอบคอมารดาแน่น น้ำตาคลอหน่วย ทว่าเด็กน้อยก็ไม่มีเวลามากพอที่จะเศร้า เพราะไป๋หยานเขกหัวเขาเสียก่อน
“เฉินเอ๋อ แม่ยังไม่ได้คิดบัญชีเจ้าเลย ! ไยเจ้าถึงเป็นคนโลภตั้งแต่ยังเด็ก ? มารดาของเจ้ายังรวยไม่พอกระนั้นหรือ ? เหตุใดเจ้าถึงอยากได้ทรัพย์สมบัติของผู้อื่น ?”
ครั้นหวนคิดถึงถ้อยคำของไป๋เสี่ยเฉินเมื่อครู่แล้ว นางก็แยกเขี้ยว
อะไรคือฉู่อี้เฟิงทั้งอ่อนโยน ใจดีและร่ำรวย ?
เจ้าเด็กคนนี้คิดจะขายแม่ตัวเองกระนั้นรึ ?
“หม่ามี้ หาใช่ความผิดของข้าไม่ พี่สาวฉู่บอกให้ข้า พูดแต่เรื่องดี ๆ เกี่ยวกับพ่อบุญธรรมต่อหน้าท่าน”
ไป๋เสี่ยวเฉินลูบหัวเล็ก ๆ ที่เพิ่งจะถูกเขกป้อย ๆ ครั้นเขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นแววตาโกรธ ๆ ของไป๋หยาน จึงรีบโบ้ยความผิด
“นางเป็นน้องสาวของพ่อบุญธรรมเจ้า หากเจ้าเรียกนางว่าพี่สาว เช่นนั้นพ่อบุญธรรมเจ้าจะอยู่ในฐานะใด ?”
“แต่ … พี่สาวฉู่ไม่ยอมให้ข้าเรียกนางว่าท่านน้า นางให้ข้าเรียกนางว่าพี่สาวเท่านั้น”
ด้วยความคับข้องใจไป๋เสี่ยวเฉินเกือบร้องไห้ เขามองไป๋หยานพร้อมน้ำตาที่คลอหน่วย
“ต่อไป ห้ามเจ้าสมรู้ร่วมคิดกับนางเช่นนี้อีก !” ไป๋หยานเช็ดน้ำตาให้บุตรชาย ขณะกล่าวเตือน
เด็กสาวจอมจุ้นผู้นั้นชอบสร้างปัญหาน่าปวดหัวให้กับเหล่าผู้อาวุโสในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ทว่าไป๋เสี่ยวเฉินกลับชอบเล่นกับนางเป็นที่สุด
“เฉินเอ๋อ…รู้ความผิดของตัวเองแล้ว“
แม้โลกนี้จะยิ่งใหญ่สักเพียงใด หากแต่หม่ามี้ของข้ายิ่งใหญ่ที่สุด
“รีบไปอาบน้ำแล้วเข้านอน พรุ่งนี้เช้าเราจะกลับบ้านกัน”
หลังจากไป๋หยานกล่าวจบ นางก็ไม่สนใจว่าบุตรชายจะทำสิ่งใดต่อ นางลุกขึ้น จากนั้นก็เดินไปที่เก้าอี้นุ่มอย่างช้า ๆ
*****
ณ ย่านชานเมืองของเมืองหลวงแห่งนี้ ตี้คังในอาภรณ์สีม่วงร่อนลงจากท้องฟ้า เขากำมือแน่น ก่อนจะชกต้นไม้เก่าแก่ ที่อยู่ตรงหน้าดังปัง
ต้นไม้เก่าแก่ ที่สูงชะลูดพลันหักโค่นลงทันที หลังจากได้ระบายอารมณ์ออกไปบ้าง ความรู้สึกปวดใจก็บรรเทาลง
“ท่านอ๋อง“
องครักษ์คุกเข่าลงข้างหลังตี้คังด้วยอาการกระสับกระส่าย พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดท่านอ๋องจึงโกรธถึงเพียงนี้ ?
“ไปตรวจสอบมาให้ข้า ข้าต้องการข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับสตรีที่ชื่อไป๋หยานผู้นั้น !“
ไป๋หยาน เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่ ?
เหตุใดเลือดของเจ้า … จึงสามารถกระตุ้นอารมณ์ของข้าได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ?
“รับทราบ ท่านอ๋อง” หัวใจขององครักษ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำสั่งนี้ เขารีบลุกขึ้น จากนั้นก็ถอยออกไปปฏิบัติตามคำสั่งทันที
ครั้นเห็นองครักษ์ลับตาไปแล้ว ตี้คังก็ยกนิ้วเรียวงามขึ้นแตะริมฝีปากของตน
ริมฝีปากของเขายังคงมีรสชาติของหญิงผู้นั้นติดอยู่ ….
“ข้าไม่สนใจหรอกว่าเจ้าจะยอมรับหรือไม่ ? ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะต้องเป็นหญิงคนเดียวกับเมื่อหกปีก่อนเป็นแน่ !“
สำหรับเผ่าจิ้งจอกแล้ว ประสาทรับรู้กลิ่นของพวกเขาทรงพลังที่สุด ด้วยความสามารถในการแยกแยะกลิ่นที่ดีเยี่ยม จะมีผู้ใดสามารถเก็บงำกลิ่นของตน โดยไม่ทำให้พวกเขาล่วงรู้ได้เล่า
ยิ่งโดยเฉพาะ ….
เมื่อหวนคิดถึงข่าวลือเกี่ยวกับการตั้งครรภ์โดยไม่ได้แต่งงานของไป๋หยาน ประกายแสงหม่น ๆ พลันปรากฏขึ้นในแววตาของตี้คัง