“เจ้า … ” พระพักตร์ของหนิงไต้ ยิ่งแลดูย่ำแย่ลงกว่าเดิมอีก “ไป๋หยาน อย่าคิดหาเรื่องป้ายสีข้า !“
“โอ้…หากมิใช่เป็นเพราะฮองเฮาจะอภิเษกสมรสใหม่อีกครั้งแล้วล่ะก็ ในพระตำหนักเฟิงหลวนยังจะมีข่าวดีของผู้ใดได้อีกล่ะ ? หรือว่าจะเป็นไป๋รั่ว ? น่ายินดีจริง ๆ ข้าเองก็ต้องขอแสดงความยินดีกับพวกท่านด้วย”
ไป๋หยาน สะบัดตัวลุกขึ้นจากที่นั่ง นางส่งรอยยิ้มที่เปี่ยมเสน่ห์ รอยยิ้มของนางงามสรรพ หากไม่รู้เรื่องราวเบื้องหลังก็คงจะคิดไปว่านางแสดงความยินดีกับไป๋รั่ว และฮองเฮาจากใจจริง
พระพักตร์เปี่ยมเสน่ห์ของหนิงไต้ยามนี้บิดเบี้ยวเหยเก หากมิใช่เป็นเพราะต้องการให้บ้านสกุลหลานช่วยเพิ่มฐานอำนาจให้องค์รัชทายาทแล้วล่ะก็ นางคงจะตีหญิงผู้นี้ตายคาพระหัตถ์ไปแล้ว
“รั่วเอ๋อ เจ้าคุยกับนางแทนข้าหน่อย” ฮองเฮาทนไม่ไหว นางอยากออกไปจากที่นี่เต็มที หาไม่แล้วนางอาจเกิดโทสะจนเป็นบ้าไปได้
“เพคะ เสด็จแม่” ไป๋รั่วไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ กับถ้อยคำของไป๋หยาน “พี่ใหญ่ นี่นับเป็นโอกาสดีครั้งใหญ่ของพี่นะ ข้าพยายามทูลขอพระราชทานจากฮองเฮาให้รับพี่เป็นพระสนม พี่รีบกลับบ้านสกุลหลาน เพื่อเตรียมตัวเถอะ พวกเราจะรีบส่งคนไปรับพี่เข้าวัง“
ในสายตานาง คนอย่างไป๋หยานได้เป็นพระสนมขององค์รัชทายาทก็นับว่าเป็นเกียรติมากแล้ว
ไป๋หยานอดหัวเราะไม่ได้กับสิ่งที่นางได้ยิน
นางก้าวช้า ๆ ออกจากศาลาไปทางไป๋รั่ว
“ในตอนนั้น ตระกูลไป๋ของเจ้าคิดจะขายข้าให้เป็นอนุตาเฒ่าผู้นั้น ยามนี้ยังไม่วายคิดกระทำเช่นเดิม ในสายตาของพวกเจ้า คนเยี่ยงข้าคงเป็นได้เพียงอนุผู้อื่นเท่านั้นใช่หรือไม่ ?
ใบหน้าของไป๋รั่วเปลี่ยนไปเล็กน้อย นางกัดริมฝีปาก “ข้าไม่รู้ว่าพี่กำลังพูดถึงเรื่องใด พี่ใหญ่ พวกเราคิดจะขายพี่ให้กับชายชราตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ? แม้ว่าพี่จะไม่ชอบข้า พี่ก็ไม่ควรใส่ร้ายข้าเช่นนี้ ข้ารู้ว่าพี่ใหญ่ไม่พึงพอใจในตัวข้า หากพี่ยอมยกโทษให้ข้า ข้าก็พร้อมจะมอบตำแหน่งชายาองค์ … “
“รั่วเอ๋อ !” หนิงไต้มีพระพักตร์เครียด นางตะโกนออกมาด้วยความกริ้ว “ให้นางเป็นชายาองค์รัชทายาทกระนั้นหรือ ? ใช้อะไรคิด ? ครรภ์ของเจ้าสามารถมอบองค์ชายที่ประเสริฐ องค์ชายผู้ซึ่งสรรพสัตว์ทั้งมวลในโลกต่างก้มกราบกรานแสดงความเคารพ ส่วนหญิงมีมลทินนางนี้ คนไร้ค่าอย่างนาง มีหรือจะได้รับเมตตาจากสวรรค์ สามารถให้กำเนิดเด็กที่ยอดเยี่ยมอย่างหลานข้าได้ คาดว่าคนอย่างเจ้าไม่มีทางแม้แต่จะเห็นภาพสัตว์นับหมื่นในเวลานั้นด้วยซ้ำ“
เหล่าสัตว์กราบกราน ?
นัยน์ตาของไป๋หยานส่องประกายประหลาด หลังจากได้ยินสิ่งนี้
นางรู้มานานแล้วว่า ไป๋รั่วใช้เหตุการณ์สัตว์กราบกรานนี้ เพื่อสร้างบารมีให้กับบุตรชายของตน แต่ครั้นได้ยินกับหู นางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะการกระทำที่ไร้ยางอายนี้
“ในเมื่อเจ้าชื่นชอบตำแหน่งชายาองค์รัชทายาทนัก เช่นนั้นก็นอนกอดมันไว้เถิด” ไป๋หยานกล่าว จากนั้นก็ก้าวอย่างแช่มช้าไปหยุดข้าง ๆ ไป๋รั่ว นางเชิดหน้าขึ้นด้วยท่าทีหยิ่งยโส ขณะกล่าวว่า “ข้า..ไป๋หยาน หาได้สนใจไม่ !“
นางไม่ได้ตั้งใจลดเสียงของนางลง นางจงใจให้ฮองเฮาที่ประทับอยู่ที่นั่นด้วยได้สดับทุกถ้อยคำ
ช่างน่าแปลก ก่อนหน้านี้ยามที่หนิงไต้ได้ยินว่าหญิงผู้นี้อยากได้โอรสของนาง นางก็รู้สึกรังเกียจมาก แต่ครั้นได้ยินว่าไป๋หยาน ไม่สนใจตำแหน่งชายาองค์รัชทายาท นางกลับกริ้วอย่างยิ่ง
“ไป๋หยาน เจ้ากล้าดียังไง ! โอรสของข้าเป็นบุรุษที่ยอดเยี่ยมที่สุด การที่เจ้าได้ถวายงานบนแท่นบรรทมก็นับว่าเป็นเกียรติสำหรับเจ้าแล้ว ! เมื่อครู่เจ้ากล้าขัดคำสั่งของข้า ตอนนี้เจ้ายังกล้าปฏิเสธที่จะเข้ามาอยู่ในราชวงศ์ของเราอีกกระนั้นหรือ ? ! ผู้ใดก็ได้ไสหัวนางออกไปที !”
“ช้าก่อน !” ไป๋รั่วรีบยับยั้ง นางรีบสาวเท้าเข้าไปยืนข้าง ๆ ไป๋หยาน ชั่วเวลานั้นนางก็ยกมือหมายจะดึงมือไป๋หยานขึ้นมา
นัยน์ตาของไป๋หยานเปล่งประกาย ในขณะที่มือของไป๋รั่วเกือบจะสัมผัสตัวนาง ไป๋หยานก็ยกเท้าขึ้นเตะไป๋รั๋วดังโครมโดยไม่ให้สัญญาณใด ๆ !
ทุกคนต่างตกตะลึง
แม้แต่ฮองเฮาเองก็ยังตะลึงงัน …
ไป๋รั่วเป็นอัจฉริยะที่ได้รับการยอมรับว่าทั้งฉลาด ทั้งแข็งแกร่ง หาไม่แล้ว หนิงไต้คงจะไม่พระราชทานอนุญาตให้พระโอรสของนางอภิเษกสมรสกับไป๋รั่วหรอก
ทว่าตอนนี้ แค่เตะเดียวไป๋รั่วก็กระเด็นลอยไกลเสียแล้ว !
***จบบท ชายาองค์รัชทายาทรึ ? ข้าไม่สนใจหรอก***