หนิงไต้พระวรกายแข็งไปชั่วขณะ อาจเป็นเพราะนางถูกแรงกดดันจากอ๋องคัง กระทั่งเกิดความกลัว นางจึงกัดพระทนต์ตรัสว่า “ไป๋รั่ว ไปกันถอะ!“
รับสั่งนั้นทำให้ไป๋รั่วตกตะลึง นางทำได้เพียงมองตามหลังฮองเฮาผู้ซึ่งเสด็จจากไปพร้อมกับเหล่านางกำนัล แล้วนางก็หน้าเสีย
ในฐานะที่เป็นผู้นำตำหนักใน ฮองเฮายังต้องยอมเมื่ออยู่ต่อหน้าอ๋องคัง อ๋องคังผู้นี้มีพลังมากจริง ๆ หรือ ?
“หนึ่ง …“
น้ำเสียงข่มขู่ อีกทั้งเย็นเยือกของชายหนุ่ม ทำให้ไป๋รั่วหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว นางรีบเดินไล่ตามหลังฮองเฮาไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่รอให้เขานับสอง
ไป๋หยานมองตามไป๋รั่วที่เดินจากไป นัยน์ตาของนางฉายแววน่ากลัว รอยยิ้มของนางแลดูชั่วร้าย
ทันใดนั้นเอง เสียงคำรามต่ำก็ดังแทรกเข้ามาในหูของนาง ทำให้นางหลุดจากภวังค์ เพื่อจะได้พบว่าร่างของตนถูกกดแนบชิดติดกับกำแพงด้านหลังแล้ว
“ยามนี้เจ้าพวกรกหูรกตาเหล่านั้นก็ไปกันหมดแล้ว ไป๋หยาน ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องอธิบายให้ข้าฟัง เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานของเจ้า“
ชายผู้นี้ … ช่างเปลี่ยนสีหน้าได้รวดเร็วยิ่งเสียกว่าพลิกหน้าหนังสือเสียอีก
ไป๋หยานเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาที่ยื่นเข้ามาใกล้ พร้อมกับยิ้ม “ไยท่านยังต้องถามอีก ในเมื่อท่านก็รู้ดีว่า ข้า…ไป๋หยาน มีสัมพันธ์กับชายผู้หนึ่งก่อนแต่งงาน จากนั้นข้าก็ตั้งครรภ์ และหนีไปกับเขา ยังจะต้องให้พูดอะไรอีกกระนั้นหรือ ?”
“ไป๋หยาน !” นัยน์ตาของตี้คังฉายประกายโกรธเคือง “เจ้าจะสารภาพก็ต่อเมื่อข้านำหลักฐานมาวางต่อหน้าเจ้าใช่หรือไม่ ?”
ท้ายที่สุด เขาก็อดแสดงธาตุแท้ออกมามิได้
เดิมทีตี้คัง ต้องการพิสูจน์ว่าหญิงผู้นี้คือผู้ที่ข่มขืนเขา จากนั้นเขาก็จะคิดบัญชีกับนาง
ทว่าตอนนี้ หลังจากฟังถ้อยคำของไป๋หยานที่บอกว่านางมีสัมพันธ์กับบุรุษอื่น หัวใจของเขาก็ร้อนรุ่มดั่งไฟเผา เขาอยากพานางไปสำเร็จโทษเสียตอนนี้เลย !
“ตี้คัง” ไป๋หยานเอียงคอมองบุรุษที่อยู่เบื้องหน้าพร้อมยิ้มให้ “เหตุใดท่านถึงชอบตามตอแยข้านัก ? หรือเป็นได้ว่าท่านตกหลุมรักข้าเข้าแล้ว ?”
รักรึ ?
หลายร้อยปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยหวั่นไหวให้กับสตรีใด ไม่เคยคิดถึงเรื่องความรักเลย
พูดเรื่องความรักกับข้า ? ตลกน่า ! ข้าเคยตกหลุมรักสตรีแต่ที่ใด ?
“ไป๋หยาน เจ้ายอมรับมาซะดี ๆ ดีกว่าว่าเจ้าเคยทำอะไรข้าไว้ ! หาไม่แล้ว …”
เขาขู่ พร้อมกับคำขู่นั้นเขาก็กวาดสายตาไปยังหน้าอกของไป๋หยาน ก่อนจะละเรื่อยลงต่ำไปยังบริเวณส่วนล่างของร่างกายนาง ชัดเจนว่าเขากำลังหมายถึงสิ่งใด ?
ตอนนี้ไป๋หยานเริ่มรู้สึกเสียใจ
หากนางรู้ว่าวันนี้จะต้องมาพัวพันกับตี้คังผู้นี้ วันนั้นนางยอมเผาตัวตายเสียยังดีกว่า ดีกว่าที่จะต้องมาถูกผูกติดกับชายน่ากลัวผู้นี้ !
“อ๋องคัง อย่างไรเสียท่านก็เป็นชาย แค่โดนผู้หญิงบังคับใจ จะเลวร้ายกระไรนักหนา ?”
ตี้คังยิ้ม “เดิมที ข้าก็เพียงอยากคิดบัญชีเรื่องเมื่อหกปีก่อน ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่านอกจากหญิงผู้นั้นจะข่มขืนข้าแล้ว นางยังลักพาตัวลูกของข้าอีกด้วย นั่นยิ่งทำให้เรื่องเลวร้ายหนักกว่าเดิม“
ไป๋หยานใจสั่น หากแต่จากถ้อยคำเมื่อครู่ แสดงว่าตี้คังยังไม่รู้ว่าไป๋เสี่ยวเฉินมีตัวตน หาไม่แล้วเขาคงจะไม่มาหานาง แต่คงแล่นไปตามหาไป๋เสี่ยวเฉินแทน
ดูเหมือนไป๋เสี่ยวเฉินไม่ควรอยู่ที่นี่นานนัก นางต้องส่งเขากลับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ให้เร็วที่สุด
“ข้าไม่เคยพบท่านมาก่อน” ไป๋หยานกล่าว นางไม่กล้าจ้องลึกลงไปในดวงตาที่อันตรายของตี้คัง“เด็กคนนั้นมิใช่ลูกของท่าน อีกทั้งเด็กนั่นก็ตายไปแล้วด้วย … “
ทันทีที่นางกล่าวจบ ไป๋หยานพลันรู้สึกได้ชัดเจนว่ามือใหญ่ที่เกาะกุมนางอยู่สั่นสะท้านเล็กน้อย ลมหายใจหนัก ๆ ของเขาปะทะใบหน้าของนาง จนทำให้นางเบือนหน้าหนีโดยไม่ตั้งใจ
“เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเจ้ากระนั้นรึ ?” ชายหนุ่มเชยคางนางขึ้น บังคับให้นางสบตาเขา “เจ้านี่เจ้าเล่ห์เหลือเกิน ข้าไม่มีวันตาบอดเชื่อคำโป้ปดของเจ้า“
***จบบท ฮองเฮาทำตัวเองให้ดูโง่ (2)***