สำหรับเจ้า…ไป๋หยาน…เจ้าคู่ควรกับการเป็นพระสนม ! พระสนมที่ทำได้เพียงยืนอยู่ท่ามกลางฝุ่นผงมองดูข้าอย่างไร้สิ้นความหวังเท่านั้น !
*****
ณ บ้านสกุลไป๋
ยามนี้ไป๋จื่อกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมแขนของผู้เป็นบิดา น้ำตาของนางไหลรินไม่ขาดสาย กระทั่งทำให้เสื้อผ้าของบิดานางเปียกชื้น
“เอาละ ๆ เจ้าไปพักผ่อนเถอะ ส่วนเรื่องความแค้นของเจ้า ไว้ข้าจะชำระให้เจ้าเอง !”
ครั้นหวนคิดถึงเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นในบ้านสกุลไป๋เมื่อไม่นานมานี้ ไป๋เฉิงเซียงก็ถึงกับต้องกดขมับของตนเองหนัก ๆ เพื่อบรรเทาความปวด
ประการแรก ก็คือภรรยาของเขาหยูหรง จู่ ๆ นางก็เสียสติจนทำให้เขาเสียหน้าต่อหน้าธารกำนัล ต่อมาก็เป็นบุตรสาวคนเล็กของเขาที่ถูกไป๋หยานกับเด็กน่าไม่อายจากบ้านสกุลหลานทุบตีจนสลบจากนั้นก็นำมาโยนทิ้งไว้หน้าประตูเรือน
เกิดเรื่องถึงเพียงนี้ จะไม่ให้เขาเครียดได้อย่างไร ?
“ท่านเจ้าบ้าน”
เวลานั้นเอง พ่อบ้านก็เดินเข้าประตูมา เขาแสดงความเคารพ จากนั้นจึงกล่าวว่า “หลี่กงกงมาที่นี่ เขาอัญเชิญพระราชโองการของฮองเฮามา ทั้งยังบอกให้คุณหนูสามออกไปรับพระราชโองการด้วย”
พระราชโองการของฮองเฮา ?
ไป๋จื่อตกตะลึง เหตุใดฮองเฮาจึงมีพระราชโองการถึงข้า
“จื่อเอ๋อ ออกไปรับพระราชโองการก่อน อย่าให้ท่านกงกงต้องรอนาน“
ไป๋เฉิงเซียงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ ก่อนจะออกคำสั่ง “พวกเจ้า เข้ามาช่วยบุตรสาวของข้าแต่งตัว เร็ว !“
“เจ้าค่ะ ท่านเจ้าบ้าน”
ครั้นได้ยินเสียงเรียก หญิงสาวสองคนที่รออยู่ด้านนอกประตูก็เข้ามาในห้อง คนหนึ่งเดินไปข้างเตียง เพื่อสวมรองเท้าให้ไป๋จื่อ ส่วนอีกคนก็หยิบอาภรณ์เนื้อแพรบางเบาสีเหลืองขึ้นมา ก่อนจะเดินเข้าไปช่วยแต่งตัวให้ไป๋จื่อ
ไป๋จื่อไม่รู้ว่ามีสิ่งใดรอนางอยู่ เช่นนั้นนางจึงค่อนข้างเป็นกังวล กระทั่งแลดูใจลอย
*****
ภายในห้องโถงใหญ่ หลี่กงกงนั่งอยู่บนเก้าอี้รับรอง เขากรีดนิ้วค่อย ๆ ยกฝาถ้วยน้ำชาขึ้น จากนั้นก็เป่าระบายความร้อน
เพียงไม่นาน ไป๋เฉิงเซียงก็รีบเดินเข้ามาโดยมีบุตรสาวเดินตามหลัง
เด็กสาวผู้นี้สวยมาก ใบหน้าของนางงดงามผุดผาด แม้จะไม่ได้ทาแป้งแต่งหน้าใด ๆ ทว่าแก้มของนางกลับเป็นสีชมพูระเรื่อสดใส
“ไม่ทราบหลี่กงกงมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ใด ?”
หลี่กงกงผู้นี้เป็นคนสนิทของฮองเฮา เช่นนั้นไป๋เฉิงเซียงจึงไม่กล้าเพิกเฉย เขารีบร้อนมาที่นี่อย่างรวดเร็ว
“ข้ามาที่นี่ก็ด้วยพระราชเสาวนีย์ของฮองเฮา พระนางมีพระราชโองการถึงคุณหนูไป๋” หลี่กงกงกล่าว จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน เขายิ้มจนหน้าเหี่ยว ๆ เกิดรอยย่น ดูราวกับดอกเบญจมาศ (菊花 แปลว่าดอกเบญจมาศ หรือ คำแสลงแปลว่าทวารหนัก) “คุณหนูไป๋รับพระราชโองการ”
ไป๋จื่อกระพริบตาด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะรีบคุกเข่าตามบิดาของนางซึ่งคุกเข่าลงก่อนแล้ว
“ไป๋จื่อ บุตรสาวของบ้านสกุลไป๋ เป็นสตรีที่มีคุณธรรม เพียบพร้อมด้วยความสามารถโดดเด่น เป็นสตรีที่หาได้ยากยิ่ง เช่นนั้นฮองเฮาจึงมีพระราชโองการให้นางอภิเษกสมรสกับอ๋องคังในฐานะพระชายาเอก ในวันและเวลาที่เหมาะสม“
หลังจากหลี่กงกงกล่าวจบ เขาก็เก็บพระราชโองการ ขณะเดียวกันก็มองไป๋จื่อพร้อมด้วยรอยยิ้ม
ไป๋จื่อรู้สึกราวถูกคลื่นความประหลาดใจลูกใหญ่ถาโถมเข้าใส่ จากนั้นคลื่นนั่นก็กลืนกินตัวนางกระทั่งหายไปในบัดดล แววตาของนางเต็มไปด้วยความพิศวงงงงวย นางกระพริบตาปริบ ๆ มองหลี่กงกง
“คุณหนูไป๋ ขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย ฮองเฮามีพระราชเสาวนีย์ให้โหรหลวงคำนวณหาวันมงคลสำหรับท่านแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นท่านก็จะได้เป็นชายาของอ๋องคังอย่างเป็นทางการ” รอยยิ้มของหลี่กงกงยิ่งทุเรศหนักกว่าเดิม
เป็นที่รู้ ๆ กันว่า บุตรสาวคนหนึ่งของบ้านสกุลไป๋เป็นถึงพระชายาขององค์รัชทายาท ในขณะที่อีกคนก็กำลังจะก้าวเข้ามาเป็นพระชายาของอ๋องคัง หากเขาทำให้บ้านสกุลไป๋ขุ่นเคือง อนาคตของเขาจะเป็นเช่นไร ?
“จื่อเอ๋อ เจ้ายังไม่รีบรับพระราชโองการอีก” ครั้นไป๋เฉิงเซียงเห็นไป๋จื่อยังคงนั่งงงอยู่ เขาก็รีบส่งเสียงดังเรียกสตินาง
เด็กสาวตอบสนองทันที นางรับพระราชโองการมาจากมือของหลี่กงกง แววตาของนางเต็มไปด้วยความสุข นางหวนคิดถึงใบหน้าที่ดึงดูดใจ รวมถึงรอยยิ้มบนริมฝีปากของบุรุษผู้นั้นแล้ว ความสุขของนางก็ยิ่งทวีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
“ท่านพ่อ อ๋องคังยินดีที่จะแต่งงานกับข้า !”
นางลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น นางถือพระราชโองการไว้ในมือแน่น “จากนี้ไปข้าจะเป็นชายาเอกของอ๋องคัง !”
***จบบท อำนาจของตี้คัง (1)***