“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง” ถึงแม้ว่าทหารองครักษ์จะเห็นอกเห็นใจไป๋จื่อ ทว่าพวกเขาต่างก็รู้ดี หากนางเข้าไปในกรมราชทัณฑ์นั่นแล้ว นางก็คงไม่ลำบากนัก และคงจะได้ออกมาจากที่นั่นโดยไม่มีสิ่งใดระคายผิวของนางเลยด้วยซ้ำ
ชั่วขณะนั้นกลุ่มคนซึ่งเดินผ่านไปมาหน้าบ้านสกุลหลานต่างก็เข้ามามุงดูกัน
เมื่อไม่นานมานี้ ไป๋จื่อโพนทะนาไปทั่วทั้งเมืองอย่างยินดีปรีดาว่านางจะได้อภิเษกเป็นชายาอ๋องคัง มาตอนนี้นางสูญสิ้นทุกสิ่ง นอกจากนี้ยังกลายเป็นตัวตลกต่อหน้าทุกคน จะมีสิ่งใดเลวร้ายมากไปกว่านี้อีกเล่า !
ไป๋จื่อได้แต่มองตามหลังตี้คังผู้ซึ่งเดินเข้าบ้านสกุลหลานอย่างงุนงง น้ำตาของนางไหลพราก ชั่วขณะนั้นองครักษ์สองคนก็เดินเข้ามา พวกเขานำตัวไป๋จื่อที่ยังคงร้องไห้อย่างเงียบ ๆ ไปส่งที่กรมราชทัณฑ์
*****
ณ ลานด้านในของบ้านสกุลหลาน
ไป๋หยานมองชายหนุ่มที่กำลังสาวเท้าก้าวยาว ๆ เข้ามาหา ริมฝีปากของนางยกขึ้น รอยยิ้มของนางแลดูลึกลับ “ข้ารู้ว่าท่านไม่มีทางทำตามพระเสาวนีย์ของฮองเฮาเป็นแน่“
บุรุษผู้นี้มิใช่ธรรมดา เขาเปี่ยมพลัง หยิ่งยโส ทั้งยังดูถูกมนุษย์ทุกผู้
“เช่นนั้นหยานเอ๋อจะขอบคุณข้าเยี่ยงไร ?” เสียงของตี้คังนั้นลุ่มลึกราวกับมีเวทมนตร์ ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถดึงดูดใจผู้อื่นได้อย่างล้ำลึก
ไป๋หยานเลิกคิ้ว “ท่านทำอะไร แล้วเกี่ยวอันใดกับข้าเล่า ?”
นัยน์ตาเรียวคมของตี้คังดูเหมือนพยายามควบคุมอารมณ์ พร้อมกันนั้นเขาก็หัวเราะอย่างสะใจเบา ๆ “ฮองเฮามีพระเสาวนีย์ให้เจ้าเป็นพระสนมของข้า“
“ข้ารู้” ไป๋หยานยักไหล่ “ขันทีได้มอบราชโองการให้ข้าแล้ว เช่นนั้นข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร ?”
นั่นสินะ …
ทันทีที่ตี้คังได้ยินถ้อยคำดังกล่าว นัยน์ตาที่กระหายเลือดของเขาพลันเลื่อนไปที่ขันทีน้อยผู้ซึ่งตัวสั่นอยู่ ณ มุม ๆ หนึ่งของลานบ้าน
“คนผู้นี้หรือที่มามอบราชโองการให้เจ้า ?”
ใบหน้าของขันทีน้อยเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาได้ยินทุกสิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอกเมื่อครู่ แน่นอนว่าเขาย่อมได้ยินเรื่องที่อ๋องคังกล่าวว่าฮองเฮาถูกเนรเทศ
“ลากเขาออกไป” หลังจากเห็นไป๋หยานพยักหน้ารับ ตี้คังก็สั่งการด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบ “โยนเขาไปให้หนานกงหยวนจัดการ“
“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง”
องครักษ์ป้องมือคำนับ ก่อนจะวิ่งไปข้าง ๆ ขันทีน้อยผู้ซึ่งยามนี้นัยน์ตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แล้วองครักษ์ก็กระชากตัวขันทีน้อยออกจากประตูทันที
“ข้าช่วยเจ้าจัดการเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว” สายตาของตี้คังกลับไปจดจ่อที่ไป๋หยาน “สำหรับคนเยี่ยงนั้น เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดดีด้วยให้เสียเวลา แค่โยนพวกเขาออกไปให้พ้นทาง หากพวกเขายังคงสร้างปัญหาอีก เจ้าก็ฆ่าพวกเขาซะ“
“ข้าจะให้การสนับสนุนเจ้าทุกอย่าง เจ้าไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวผู้ใดทั้งสิ้น”
“แท้จริงแล้ว ท่านไม่คิดบ้างหรือว่าการได้ชมตัวตลกเหล่านั้นเต้นแร้งเต้นกาแสดงความโง่งมของตนเองไปเรื่อย ๆ จะเป็นการให้ความบันเทิงได้มากกว่า ?” ไป๋หยานยิ้มทั้งริมฝีปากและดวงตา “หาไม่แล้ว…ชีวิตก็คงจะน่าเบื่อเกินไป“
นางชอบมองศัตรูขึ้นสู่จุดสูงสุดจากนั้นร่วงตกลงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า !
อย่างไรก็ตาม …
นัยน์ตาที่อันตรายของเขาจ้องมองหญิงสาว “ข้าไม่เห็นว่ามันจะสนุกที่ตรงไหน การได้เห็นพวกเขากระโดดโหยงเหยงไปมาอยู่ตรงหน้า หากเทียบกับรสนิยมแบบผิด ๆ ของเจ้าแล้ว ข้ากลับชื่นชอบที่จะโยนพวกเขาเข้าสู่กองไฟที่ลุกโพลงมากกว่า “
ใบหน้าของไป๋หยานเปลี่ยนเป็นดำคล้ำทันที
รสนิยมแบบผิด ๆ งั้นรึ ?
ท่านว่าใครมีรสนิยมแบบผิด ๆ ?
อย่างกับรสนิยมท่านดีนักนี่ ดูสิว่าท่านน่ะโหดเหี้ยมแค่ไหน !
ไป๋หยานกัดฟันพูด
ตี้คังเลิกคิ้วเขาดึงร่างของไป๋หยานเข้าสู่อ้อมแขนอย่างรวดเร็ว “ข้ายังมีบางเรื่องที่ต้องสนทนากับหยานเอ๋อ พวกท่านคิดจะยืนดูเช่นนี้อีกนานหรือไม่ ?”
ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานมองตี้คังพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ หลังจากได้ยินถ้อยคำถามนั้น
“เชิญตามสบาย ข้าไม่รบกวนท่านแล้ว” ครั้นชายชรากล่าวจบ เขาก็เหลือบไปมองหลานเสี่ยวหยุน “นี่เจ้ายังมัวมองอะไรอยู่ ? ยังไม่รีบตามปู่มาอีก ? อย่ารบกวนพี่สาวเจ้า ! “
หากเทียบกับเชื้อพระวงศ์พวกนั้น อ๋องคังผู้นี้ก็นับเป็นคนมีหลักการกว่ามาก ดีแล้วที่หยานเอ๋อมิได้อภิเษกเป็นพระชายาองค์รัชทายาท บุรุษผู้นี้ต่างหากที่คู่ควรกับหลานของข้า !
***จบบท ก็ท่านโหดเหี้ยมกว่านี่***