ใน RP นี้ส่วนมากแล้วซูเซียวมักใช้เวลาอยู่แต่ในอาคารฝึกซ้อมและห้องส่วนตัว
เขาไม่ได้เรียกโคชิโร่มาอีกแต่ใช้งานโหมดการต่อสู้จริง
แม้ว่าเขาจะตายอยู่บ่อยครั้งแต่เขาก็ได้รับประสบการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ
ช่วงเวลาสามวันสิ้นสุดลง ซูเซียวก็ได้รับการแจ้งเตือนมาจาก RP
[ฮันเตอร์กำลังจะกลับไปสู่โลกจริง ได้โปรดจำกฎระเบียบของ RP ให้ได้]
[ห้ามเปิดเผยอะไรเลยเกี่ยวกับ RP ในโลกความเป็นจริง ถ้าหากฝ่าฝืน RP จะจัดการทิ้งทันที]
[ฮันเตอร์ไม่สามารถใช้อะไรได้เลยที่ได้รับจาก RP นอกเหนือส้ะจากค่าสเตตัสส่วนตัวและสกิลติดตัว]
[อุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่ได้รับใน RP ไม่สามารถเอาออกไปใช้ที่โลกจริงได้ และของทุกอย่างจะถูกล็อคเอาไว้จนกว่าจะกลับมายัง RP]
[การขนย้ายเริ่มต้น ปลายทาง : โลกจริง]
ความรู้สึกที่คุ้นเคยเกิดขึ้นมาอีกครั้ง ซูเซียวหมดสติไป แล้วก็ตื่นมาในตู้
อุณหภูมิภายในตู้นั้นต่ำมากและค่อนข้างแคบ มีทางเดียวที่เขาจะรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน นั่นก็คือออกไปข้างนอก
เขาใช้ขาข้างเดียวเตะตู้ทันที และด้วยความแข็งแกร่งของเขาที่เพิ่มขึ้นทำให้ประตูปลิวออกไปทันที
ตู้ที่เขาพักอยู่นั้นเหมือนกับตู้เหล็กยาวๆ
“ครึ่ม”
เสียงประตูกระแทกกับพื้นจนส่งเสียงดังไปทั่วห้องที่เงียบสงบ
ซูเซียวมองไปรอบๆ ก็รู้ทันทีเลยว่าที่เขาอยู่นั้นคือห้องเก็บศพ
เขาถูกยิงในอดีตและศพของเขาถูกเก็บไว้ที่นี่
เสียงที่ดังมากจากห้องเก็บศพทำให้คนที่อยู่แถวนั้นได้ยินทันที
พยาบาลที่ทำงานอยู่ก็ตกใจอย่างมาก
“ไม่ๆ ไม่ๆ โลกนี้ไม่มีผีจริงๆ ขอหล่ะอย่ามาหลอกกันเลย..”
พยาบาลรายนี้คิดว่ามีผีอยู่ในห้องเก็บศพ
พยาบาลคนนี้มีชื่อว่า หยีรัว ซึ่งเป็นเด็กฝึกงานมาสองเดือน
หุ่นผอมบางน่ารักของเธอเมื่อใครได้เห็นก็ต้องเอ็นดู ช่างมีสเน่ห์เหลือเกิน
“โคร่ม” เสียงดังอีกครั้งมาจากห้องเก็บศพ หยีรัวก็กรีดลั่นทันทีจนแก้วน้ำร้อนในมือตกลงทันที
และเสียงที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ก็คือเสียงที่ซูเซียวพังประตูห้องเก็บศพออกมา
เขาเดินไปตามทางแคบๆ เดินไปเรื่อยๆจนมั่นใจว่านี่น่าจะเป็นโรงพยาบาลในเมืองที่เขาอาศัยอยู่
เขาไม่รีบร้อนที่จะออกจากโรงพยาบาลนี้ เขาต้องหาดาบตระกูลของเขาให้ได้ส้ะก่อน
อะไรก็ปล่อยทิ้งไปได้หมด ยกเว้นดาบครอบครัวของเขา
ซูเซียวพยายามมองหาแต่ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ
เขาจึงเปิดประตูห้องที่พยาบาลอยู่และถามทันที
แต่ก่อนที่เขาจะได้ถาม พยายามก็ตกใจตัวกลิ้งลงพื้นทันที
ซูเซียวจ้องมองพยาบาลที่อยู่บนพื้น
พยาบาลเองก็จ้องมองมาด้วยความกลัวแทบอยากจะกรีดจนหมดสติ
แต่ซูเซียวก็รีบเข้าไปปิดปากพยาบาลทันที
“ห้ามร้องไม่งั้นโดนฆ่าแน่!”
หลังจากที่เขาไปยัง RP มาเขาก็มีจิตอาฆาตหนักกว่าเดิม
พยาบาลรีบพยักหน้าทันที
“สถานีตำรวจไหนส่งผมมาที่นี่?”
“ยังไม่ตายงั้นหรอ? ….” พยาบาลพูดพร้อมกับตัวสั่นไปหมด
ซูเซียวจ้องมองอย่างเย็นชา
“ตอบคำถาม!”
“อ๋อ ตงเฉิง….”
หลังจากที่ได้รับคำตอบ ซูเซียวก็ลุกขึ้นและรีบออกไปทันที ซึ่งแน่นอนว่านี่มันเมืองเกิดของเขา เขาจึงรู้จักตงเฉิง
เขาโบกแท้กซี่และรีบตรงไปยังสถานีตงเฉิงทันที
สิบนาทีหลังจากนั้นเขาก็มาถึง
เขาไม่ได้เข้าไปข้างในด้วยประตูหน้า เพราะว่าเขามีคดีฆ่า อาชญากรรมติดตัวอยู่
ซูเซียวค่อยๆย่องเข้าไปในห้องหลักฐาน หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
เขาค้นหลักฐานทุกอย่างแต่ก็ไม่พบว่าดาบอยู่ที่นี่
ซูเซียวเริ่มจะหมดความอดทนเต็มที เขาจึงเดินออกจากห้องหลักฐานและออกไปถามตำรวจ
มันอาจจะฟังดูบ้าแต่เขาไม่ได้สนใจอะไรตำรวจพวกนี้แล้ว
ในไม่ช้า ตำรวจหนุ่มที่นั่งอยู่ก็จ้องมองซูเซียว
แต่ซูเซียวนั้นก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้ตำรวจตอบโต้ใดๆ เพราะเขาย่องไปที่ข้างหลังแล้วก็ล็อคคอ
ตำรวจหนุ่มไม่ได้มีโอกาสที่จะตอบ เขาล้มสลบลงทันที
ซูเซียวลากตำรวจหนุ่มคนนี้ออกไปข้างนอกทันที ซึ่งในเวลากลางคืนแบบนี้การเข้าออกสถานีตำรวจนั้นง่ายและสบายมาก
ณ ที่ตรอก ตำรวจหนุ่มก็ฟื้นขึ้นมา
“ถ้าไม่อยากตาย ก็ตอบคำถามมาตรงๆ!”
“คุณเป็นใคร ผมคือตำ..”
ตำรวจยังพูดไม่ทันจบ ซูเซียวก็ต่อยเข้าที่อกแล้ว
ความเจ็บปวดนี้ทำให้ตำรวจหนุ่มถึงกับทรุดตัวลงทันที
“ดาบข้าอยู่ไหน?”
“ดาบ.. ดาบอะไร แกเป็นใคร!?”
“ซูเซียว!”
ซูเซียวพูดชื่อของตัวเองตรงๆโดยไม่อำพรางใดๆ
“อ๋อแกนี่เอง ดาบของแกมีคนเอาไปแล้ว!”
“โกหก!”
ซูเซียวกำมือของตำรวจเอาไว้แล้วก็บีบ เสียงดังกร่อบๆ
“ครั้งนี้ก็มือ ครั้งต่อไปที่คอ หลังจากแกตายไปแล้ว ข้าไปถามคนอื่นก็ได้! คิดถึงครอบครัวแกดีๆนะ แต่บอกที่อยู่ของดาบมาแล้วแกจะได้กลับไปเจอหน้าครอบครัว!…”
สีหน้าของตำรวจหนุ่มคนนี้เริ่มเจื่อน “ดาบของแก ท่านผู้กำกับเอาไปแล้ว มันไม่เกี่ยวกับผมเลย!”
“ดี งั้นพาข้าไปหาผู้กำกับส้ะ!”…