ซูเซียวขับรถไปตามทางในเวลากลางคืน พร้อมกับผู้ช่วยคนขับ ตำรวจหนุ่ม
ในตอนนี้ตำรวจหนุ่มถูกรัดคอไว้ด้วยสายคาดเข็มขัดที่มัดไว้กับที่นั่ง ถ้าหากซูเซียวเหยียบเบรก ตำรวจหนุ่มก็ต้องโดนรัดคอจนทรมานมาก
“ไกลแค่ไหน?” ซูเซียวเหยียบมิดไปที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
“ใกล้แล้ว ช้าลงหน่อย ลูกผมพึ่งจะสองขวบเอง”
ตำรวจหนุ่มถึงกับอ้อนวอน เพราะเขารู้สึกได้ว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเขาแล้ว
“แค่ช่วยหาดาบ แล้วเจ้าจะรอด!”
ซูเซียวดูดบุหรี่ไปพูดไป
ตำรวจหนุ่มก็พยักหน้า
หลังจากขับมาถึงที่หมาย ซูเซียวและตำรวจหนุ่มก็ลงรถ พร้อมกับเดินมาที่หน้าบ้านผู้กับ
“เคาะประตูสิ้!”
ตำรวจหนุ่มลังเล แต่ซูเซียวนั้นถือปืนอยู่จึงต้องจำใจยอมทำ
ก้อก ก้อก ก้อก
“ใครกันหน่ะ? นี่กลางคืนนะโว้ย!”
“ผมเอง เซี่ยวจาง”
“เข้ามาสิ ดึกขนาดนี้มีปัญหาอะไรงั้นหร…”
หญิงสาววัยกลางคนถึงกับหยุดพูดเพราะโดนปืนพกสีดำจ่อหัวอยู่
“ถอยหลังไปเงียบๆ”
เธอคนนี้ค่อยๆถอยหลังไปทันที จนเธอถอยไปชนกับไหที่ตั้งอยู่
แพล๊ง! เสียงแตกดังไปทั่วห้องที่เงียบ
“อย่าตุกติก!”
ซูเซียวไม่ค่อยสนใจผู้หญิงคนนี้มากนัก เขามองแต่ดาบที่วางอยู่บนโต๊ะในห้องนั่งเล่น
และเมื่อพวกเขาเดินไปถึงโต๊ะซูเซียวก็หยิบดาบขึ้นมาด้วยความดีใจอยู่ข้างใน
“แม่… เสียงอะไรหน่ะ?”
ประตูห้องนอนเปิดขึ้น ผู้หญิงคนนี้ก็มองที่ซูเซียวแทบจะอยากตะโกนร้องดังลั่น
ซูเซียวยกปืนขึ้นมาจ่อเด็กหญิงคนนี้แล้วบอกให้กลับเข้าไป
เด็กหญิงคนนี้พยักหน้าและรีบปิดประตูเข้าไปทันที
เพราะว่าเขาเจอดาบแล้วเขาจึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องทำที่นี่แล้ว เขาจึงถอยหลังออกมาและทิ้งทั้งสองไว้ที่ห้องนั่งเล่น
“เซี่ยวจาง เรียกตำรวจเร็ว!”
หญิงวัยกลางคนกลัวมาก
เซี่ยวจางยิ้มแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ “ผมพยายามที่จะจัดการแล้ว แต่ว่าชายคนนี้ฝึกมาดีมาก เขาจู่โจมผมแบบไม่ได้ทันตั้งตัวเลย”
ในตอนนี้ซูเซียวที่ออกมาแล้วก็รีบหนีขึ้นรถบัสทันที เขายิ้มดีใจอย่างกับเด็กได้ลูกอม
เมื่อรถบัสขับมาถึงเมืองข้างเคียง ซูเซียวก็ยังนั่งต่อไปไม่ได้ลงสักที
ซูเซียวพยายามจะเช็คสถานการณ์รอบๆตัวเองในตอนนี้
เด็กกำลังร้องไห้ เด็กหญิงสาวสองคนที่นั่งเบาะหน้ากำลังคุยกันอยู่ ชายหนุ่มอีกคนก็นั่งฟังเพลง
“ข่าวด่วน! อาชญากรร้อยปรากฎตัวในเมืองข้างเคียง”
ข่าวนี้ออกอากาศที่ทีวีด้านหน้ารถบัส พร้อมกับรูปซูเซียวที่โชว์อยู่
“อาชญากร…”
ผู้โดยสารบนรถบัสนี้สนใจในข่าว
ซูเซียวถอนหายใจ แล้วก็คิดในใจ พวกเขาทำงานเร็วดีเหมือนกันนะ…
แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก แม้ว่าจะออกข่าวมา ด้วยทักษะการซ่อนตัวของเขา ตำรวจก็หาตัวเขาพบได้ยาก
… เวลาผ่านๆไปจนรถบัสมาจนสุดสาย
เขาก็หยิบโทรศัพท์ใหม่ขึ้นมาเช็คดูว่าเขาอยู่ที่ไหน และเขาก็อยู่ที่เมือง ดีแอล เป็นเมืองชายทะเล
“เป็นที่ที่ดี”
เมืองดีแอลนี้ล้อมรอบไปด้วยทะเลสามด้าน แม้ว่าเขาจะโดนตำรวจไล่ต้อนเขาก็สามารถนั่งเรือหนีได้
ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องหาที่กบดาน เขาไม่ต้องการไปยังโรมแรมเพราะที่นั่นมีคนอยู่มากและมันก็ไม่เหมาะ
เขายืนอยู่ที่กลางถนนด้วยความหิวโหย ตลอดทั้งวันเขาเอาแต่ขับรถไม่ได้กินอะไรสักอย่าง
ซูเซียวเจอร้านอาหารนึกแล้วก็เขาไปสั่งปู่กินทันที
ในตอนนี้เป็นช่วงเดือนมีนาคม สินค้าที่ขายดีคือปู ดังนั้นราคามันจึงถูก
“บอส เก็บเงินที่ครับ”
ซูเซียววางเปลือกปูตัวสุดท้ายลง
เจ้าของร้านหยิบบิลและเดินเข้ามาด้วยความตกใจ
“โห.” บอสตกสใจมากเพราะว่าซูเซียวนั้นสั่งของกินไปมากกว่าคนปกติถึง 7 เท่าได้
การที่ร่างกายเขาแข็งแกร่งขึ้น ทำให้การเผาผลาญพลังงานมากขึ้น ดังนั้นเขาต้องกินเยอะกว่าเดิมเพื่อพลังงานพวกนั้น
“ทั้งหมด 789 แต่ลดให้เหลือแค่ 780”
ซูเซียวหยิบเงินขึ้นมาและจ่ายให้บอสทันที
“แถวนี้มีบ้านเช่าบ้างไหม? ผมเป็นนักเรียนพึ่งมาถึงที่นี่ อยากจะที่พักสักสองสามเดือน”
หลังจากนั้นบอสก็หยิบโทรศัพท์ซูเซียวขึ้นมาและพิมคำว่า บ้านเช่าเมืองดีแอล
เจ้าของร้านมองที่ตาของซูเซียว เหมือนจะอยากพูดว่า เด็กหนุ่มสมัยนี้ไม่มีใครเขามองหาบ้านเช่าตามถนนกันหรอก
ซูเซียวขำ แล้วก็ออกจากร้านทันที
เขาเดินไปตามถนนที่แออัด พร้อมกับเช็คมือถือไปด้วยว่ามีที่ไหนน่าอยู่มาก
สักพักนึงเขาก็เจอข้อมูลแปลกๆ
“สถานที่พักเยี่ยม ของกินเพียบ เริ่มต้นที่ 100000 ดอลล่าร์ต่อเดือน”
ในเมืองดีแอลนั้น ราคาเช่า 1แสนดอลล่าร์ถือว่าแปลกมาก มันไม่ธรรมดาเลย มันจึงเป็นอะไรที่น่าสงสัยมาก มันไม่มีอะไรระบุไว้มาก เขียนไว้แค่เบอร์โทรเอาไว้
ซูเซียวจึงลองโทรไปถามทันที
“สวัสดีครับ หากมีอะไรก็มาคุยด้วยตัวเองที่ ถนน37 ถนนเถียนไห นะครับ”
เพียงประโยคเริ่มต้นมาซูเซียวก็รู้สึกว่ามันแปลกมาก เขาส่ายหัวทันที
มันมีความแปลกหลายอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจเลือกที่อื่นดีกว่า