หลังจากเลือกอยู่พักนึง ซูเซียวก็มาถึงบ้านที่เขาเลือกในตอนบ่ายๆ
มันค่อนข้างจะดูเงียบๆ เก่าแก่ ตั้งอยู่ที่ขอบเมือง แต่มันก็ไม่ได้ร้างโดยทีเดียว
บางพื้นที่ก็เป็นทะเลทราย มีผู้คนแก่นั่งเล่นหมากรุกอยู่
มันเป็นสถานที่สำหรับคนแก่อย่างแท้จริงๆ แต่มันก็มีบรรยากาศที่ดีมาก
ซูเซียวเห็นชายหนุ่มใส่สูตคนนึงที่กำลังเดินเข้ามา
ชายหนุ่มคนนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้วก็ทักทายทันที
“สวัสดี คุณซูรึเปล่า? ผมเจ้าหน้าที่จากบริษัทจัดหาบ้านซันชายเซียวจิ”
ซูเซียวพยักหน้า ในตอนนี้ซูเซียวได้ปลอมแปลงข้อมูลตัวเองทุกอย่างทั้งบัตรประชาชน ตั๋ว บัตรทุกอย่างที่บอกตัวตน
“ผมเองครับ ไหนพาไปดูบ้านหน่อยสิ”
“คุณซู ผมไม่อยากจะโกหกเลยนะ แต่ราคา 800 ต่อเดือนนี่ถือว่าเป็นราคาที่ถูกสุดแล้ว ถ้าหากคุณกำลังมองหาบ้านที่เพียบพร้อมในราคาย่อมเยา ก็ที่นี่เลยครับ”
ซูเซียวฟังแล้วก็ยิ้ม
เขาไม่ได้ต้องการจะซื้อบ้านนี้ เขาแค่จะอยู่นานเท่าที่นานได้โดยไม่มีใครเปิดเผยตัวตนของเขา
แม้ว่าปัจจุบันเขาจะแข็งแกร่ง ไม่สนใจตำรวจ แต่เขาก็สู้กับแรงขับไล่ของประชาชนไม่ได้หรอก
เพราะในยุคปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีมากมาย ถ้าหากเขาต้อสู้ด้วยจริงๆก็คงจะสู้ไม่ได้หรอก
จากที่ซูเซียวสังเกตดู ผู้ทำสัญญาส่วนมากมักจะหลบ ปิดซ่อนตัวเองจากโลกจริง
เมื่อซูเซียวคิดแบบนั้นก็เดินเข้ามาถึงหน้าห้องทันที
“นี่ครับ คุณซู”
เจ้าหน้าที่เซียวจิเปิดประตูพร้อมกับอาการแปลกๆ
“มีอะไรงั้นหรอ?”
ซูเซียวจ้องมองเจ้าหน้าที่
“ไม่มีอะไรครับ ผมแค่อยากเข้าห้องน้ำ”
ซูเซียวเดินเข้าห้องมา ก็ตระการตากับการตกแต่งที่ไม่แย่เลย รู้สึกอบอุ่นมาได้มาอยู่
ซูเซียวเดินไปรอบห้อง ดูม่าน หน้าต่าง แสงแดดที่ส่องเข้ามา เขาแทบไม่จำเป็นต้องซื้ออะไรเพิ่มเลย เพียงแค่แบกตัวเองและเสื้อผ้ามาเท่านั้น
เขาลองเคาะกำแพงดูเพื่อเช็คว่ามันบางรึเปล่า และแน่นอนว่ามันบางแต่ปกคลุมด้วยฉนวน
“ก็ไม่แย่นิ ผมต้องการที่จะเช่า”
“เยี่ยมเลย คุณซูครับเนื่องจากค่าเช่าที่นี่มันถูก สัญญาการเช่าจึงมีระยะเวลานานถึง 1ปี นี่ครับกรุณาตรวจสอบ”
ซูเซียวก็หยิบมาและอ่านดู ไม่มีปัญหาอะไร เขาจ่ายงั้นเพื่อเช่าอย่างเป็นทางการ
หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่เซียวจิก็บอกลา และเดินออกไปด้วยท่าทางแปลกๆ
ในตอนแรกที่เจ้าหน้าที่คนนี้เปิดประตูเข้ามา ก็เพื่อเช็คดูว่าไม่มีใครอยู่ ในตอนนี้เขาก็รีบออกไปอย่างรวดเร็ว
และแน่นอนว่าเหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่รอดพ้นสายตาซูเซียวหรอก เขารู้ว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง และมันก็ทำให้เจ้าหน้าที่คนนี้กลัว
“น่าสนใจ..”
แต่ซูเซียวก็ไม่แคร์เรื้องนี้มากนัก เพราะเขาเองก็เป็นอาชญากร มีอะไรต้องกลัวอีกหล่ะ!?
ซูเซียวนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น ไม่รู้จะทำอะไรต่อดี นอกจากการใช้ชีวิตไปวันๆ รอ RP เรียกตัวอีกครั้ง
คลื่ด คลื่ด
เสียงโทรศัพท์สั่น ใครสักคนโทรหาเขา และแน่นอนว่าซูเซียวก็ไม่กล้าเปิดเสียง
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและมันเขียนว่าเบอร์ที่ไม่รู้จัก เมื่อรับสาย ซูเซียวก็ไม่ได้พูดอะไร
“สวัสดีสหาย รอมานานแล้วนะยังไม่มาอีกหรอ?”
ซูเซียวรู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงของชายที่อยากให้เขาเช่าบ้าน 100000 ดอลล่าร์ก่อนหน้านี้
“มันมีปัญหาหลายอย่างหน่ะครับ”
หลังจากนั้นซูเซียวก็พยายามวางสาย
“เดี๋ยวก่อน… สถานที่พักของเราทั้งหมดนั้นราวกับ พาราไดซ์ ยังอยากจะวางสายอยู่มั้ย?”
ซูเซียวที่กำลังวางสายก็ชะงักทันทีเมื่อได้ยินคำว่าพาราไดซ์ เพราะเขากำลังคิดว่ามันเกี่ยวกับ RP รึเปล่า?
“ไม่สนใจ”
ซูเซียวตอบอย่างเสียงแข็ง
แม้ว่าเขาไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน แต่การเสียเงินค่าเช่า 1แสนนี่มันใช่เรื่องที่ไหนหล่ะ?
“อย่าพึ่งรีบตัดสินใจสิ มาเจอกันก่อน หรือจะให้ผมฆ่าคุณ?”
ชายคนนี้ขู่ซูเซียว
“เห่าเก่งจริงๆ ถ้าอยากจะเห่าแบบนี้ก็ควรที่จะชนะศัตรูส้ะก่อนนะ”
หลังจากนั้นซูเซียวก็วางสายทันที
โทรศัพท์ที่ซูเซียวซื้อมานี้ เขาใช้เงินจำนวนมากในการอัพเกรดให้ป้องกันระบบการติดตาม
ในเมืองเล็กๆที่นึง ชายอายุมากถอดเสื้อนั่งควบม้าอยู่พร้อมกับกำโทรศัพท์ไว้แน่น
“ไฟว์ คุณตรวจจับสถานที่ได้รึเปล่า?”
ชายแก่หน้ามีแต่รายแผลคนนี้ตะโกนเสียงดัง
และอีกคนที่หุ่นผอมบางเรียวก็เดินออกมาจากบังกะโล
“บอส ดูเหมือนว่าคนคนนี้จะติดระบบปิดกั้นการติดตาม!”
ชายแก่หน้ารอยแผลโมโหกนักมาก
“แกะรอยไม่ได้งั้นหรอ? รู้มั้ยว่าข้าใช้เหรียญพาราไดซ์มากเท่าไหนในการจ่ายค่าโฆษณานี้! มันตั้ง 1หมื่นเลยนะ พวกนักเวทย์นี่ก็หน้าเลือดกันจริงๆ!”
โฆษณาพวกนี้สามารถมองเห็นได้แค่พวกผู้ทำสัญญาเท่านั้น แต่ถ้าหากมีค่าอิ้นมากกว่า 20 จะสามารถป้องกันตัวเองจากโฆษณานี้ได้ และถ้าหากมีใครสักคนโทรเข้ามาก็แน่เลยว่าเป็นพวกผู้ทำสัญญาที่มีค่าอิ้นน้อย
แต่ใครจะรู้กันล่ะว่าสกิลของพวกนักเวทย์ใน RP จะสามารถตามมาล่อลวงฆ่าในโลกความเป็นจริงได้…