ตอนที่48 การเก็บเกี่ยวเล็กๆน้อยๆ
การหยุดโจมตีของมาโดะเป็นการเปิดโอกาสให้ผีปอบหนี
ผีปอบที่ต้องการจะหนีอยู่แล้วเมื่อได้ยินคำขู่ของซูเซียวมันก็นิ่งลังเลสักพัก หลังจากนั้นมันก็วิ่งหนีไปไม่สนใจซูเซียว
บางทีนี่ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ถูกต้องเพราะถ้าไม่หนียังไงก็ตายอยู่ดี
เมื่อปอบวิ่งไปไม่กี่เมตร ดาบยาวก็พุ่งเข้ามาทันที
ฉึกก
ดาบยาวตัดผ่านขาของผีปอบ
อ๊า!!!
ผีปอบกรีดร้องและใบหน้าล่วงหล่นมาจูบพื้น
“เลือกผิด!”
ซูเซียวเดินเข้าไปหาผีปอบ
“คุณ คุณจะทำอะไร!?”
ดวงตาของผีปอบสั่นกลัวมาก ขณะที่ผีปอบพยายามจะคลายหนี ดราก้อนแฟลชก็ปักเข้าที่กลางหลังของผีปอบทำให้คลานไปต่อไม่ได้
ด้วยอาการที่บาดเจ็บสาหัสของผีปอบมันก็ทำอะไรต่อไม่ได้ แต่มันก็ไม่ตาย
“แล้วเราจะทำอะไรต่อไป?”
มาโดะถาม
“ทำเหมือนเดิม ไม่ว่าจะมีผีปอบเข้ามามากเท่าไหร่ เราจะฆ่าทิ้งให้หมด!”
มาโดะถึงกับตัวเย็นชาเพราะมันมีผีปอบอีกเป็นร้อยในเขตนี้
“เราจะทำได้จริงหรอ?”
ซูเซียวไม่ตอบอะไร และเริ่มเก็บซากศพผีปอบบนถนนออกไปทันที
เขาตั้งใจจะวางเหยื่อล่อไว้ตรงนี้ ผีปอบที่ถูกตัดแขนตัดขาแล้วนั้นเป็นเหยื่อล่อชั้นดี
อย่างไรก็ตาม ผีปอบก็ไม่ได้โง่เสมอไป เพราะถ้าหากพวกมันเห็นเหยื่อล่อพวกมันก็ต้องระแวงมากขึ้นแล้ว
ศพมากมายถูกซ้อนทับกันไว้ในตรอก แต่เลือดที่ติดอยู่เต็มถนนก็ไม่ได้ถูกเช็ดแต่อย่างใด
ปอบที่ถูกตัดแขนขาก็ถูกโยนทิ้งไว้ตรงกลางถนน
เขาไม่จำเป็นต้องให้ผีปอบตัวเองเข้ามาใกล้เหยื่อล่อมากเกินไป เขาแค่ต้องการให้พวกมันเข้ามาอยู่ในระยะสายตาของตัวเองเท่านั้น
ด้วยความสามารถที่ว่องไวของซูเซียวนั้นไม่มีผีปอบหนีไปได้แน่
แม้ว่าการมาล่าผีปอบระดับต่ำๆจะไม่ค่อยได้ของ แต่มันก็ทำให้เขาได้ค่าสนับสนุน CCG มาก
ไม่ใช่แค่นั้น แต่มันยังช่วยเพิ่มพรสวรรค์ของเขาที่ช่วยบวกมานาถาวรได้ด้วย
ในตอนนี้มานาเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับซูเซียว เพราะมันจะทำให้เขาใช้ ชิงกางหยิงได้นานขึ้น
ซูเซียวยืนถือดราก้อนแฟลขอยู่ใจกลางถนนส่วนมาโดะก็ยืนอยู่ข้างๆ
“ผีปอบจะโผล่มาใช่ไหม?”
หลังจากนั้นสองนาทีก็มีผีปอบโผล่มา
มันเป็นผีปอบที่แก่และหุ่นผอมบาง
หลังจากที่มันเห็นซูเซียวยืนอยู่มันก็ลังเลอยู่พักนึงก่อนจะถอยหลังกลับไป
แต่นั่นมันก็สายไปแล้ว เพราะเมื่อซูเซียวเห็น ซูเซียวก็พุ่งเข้าไปหาทันที
หนึ่งนาทีต่อมาเลือดก็สาดกระเด็นติดเสื้อไปหมด หลังจากนั้นซูเซียวก็กลับมายืนรอที่เดิม
ที่บนหลังคาของตึกสูงในเขตถนนตะวันตก
ณ เวลาค่ำคืนสายลมพัดผ่าน มนุษย์สองคนยืนอยู่บนหลังคา
“เราต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างงั้นผีปอบที่นี่จะถูกฆ่าหมดนะ”
คิริชิมะ อายาโตใส่หน้ากากกระต่ายสีดำพูดขึ้นขณะมองซูเซียวจากระยะไกล
ทาทาระที่ยืนอยู่ข้างหลังอายาโตะก็ไม่พูดอะไร
สถานที่นี้เป็นของโอกิริทรีที่ใช้หาผีปอบที่แกร่งที่สุดเพื่อมาร่วมกองทับ
“ยอมแพ้”
คำพูดของทาทาระทำให้อายาโตะสงสัยนิดหน่อย
“นี่..”
เมื่ออายาโตะพยายามจะพูด ทาทาระก็หันไปจ้องมองและพูดแทรกทันที “นายจะไปหยุดปีศาจนั่นไหมหล่ะ?”
อายาโตะเองถึงกับนิ่งทันที เพราะเขารู้ถึงพลังของซูเซียวอยู่
“จะไปด้วยกันไหมหล่ะ?”
ดวงตาของทาทาระเต็มไปด้วยจิตสังหาร
“ไม่ หมายถึงรวบรวมกำลังพลไปจัดการมัน”
ดูเหมือนว่าความแค้นของอายาโตะที่มีมากแต่ก็ไม่เพียงพอให้อายาโตะเข้าไปจัดการกับซูเซียวคนเดียว
ทาทาระคิดอยู่พักนึงแล้วก็ส่ายหัว
“ต้องแลกมากเกินไป แม้ว่าเราจะฆ่าเขาได้สำเร็จ แต่พวกเราก็อาจจะตายไปด้วย”
แม้ว่ากองกำลังของโอกิริทรีจะไม่แพ้ซูเซียว แต่ถ้าหากทำเรื่องอะไรที่น่าเสื่อมเสียแบบนั้นไปก็จะสูญเสียอำนาจไปด้วย
….
ดวงอาทิตย์ค่อยๆขึ้นมา ท้องฟ้าสีทองอร่ามค่อยๆเฉิดฉาย
ในใจกลางของถนน ซูเซียวก็ยืนอยู่ด้วยความเหนื่อยล้า
ในรัศมีครึ่งกิโลเมตรจากซูเซียวนั้นนองไปด้วยเลือด
ซูเซียวเองก็จะไม่ได้เลยว่าเขาฆ่าผีปอบไปมากเท่าไหร่
กลิ่นเลือดที่ระอุไปทั่ว ก็ทำให้พวกผีปอบตื่นตัวและส่งข่าวบอกต่อๆกันไป
ว่าไม่ให้เข้าใกล้พื้นที่ส่วนนี้เพราะมีมนุษย์ที่น่ากลัวอยู่
แม้ว่าดราก้อนแฟลชจะเปื้อนเลือดมากมายแต่ก่อนที่ซูเซียวจะเก็บเขาก็เช็ดมันจนสะอาดทุกครั้ง
ซูเซียวเปิดดูค่าสนับสนุนของเขา
[ผู้ตรวจตราระดับสอง คะแนนสะสม 390/400]
ในค่ำคืนเดียวเขาได้รับค่าสนับสนุนถึง 340 คะแนน ซึ่งมันก็บ่งบอกเลยว่าเขาฆ่าผีปอบไปมากมาย
และเขายังได้รับมานามาถึง 68 หน่วยถาวร จนทำให้เขามีมานาสูงสุดในตอนนี้คือ 238หน่วย
ในช่องเก็บของก็มีกล่องสมบัติสีขาวถึงสามกล่อง
แม้ว่าเขาจะฆ่าผีปอบระดับอ่อนๆไปมากมาย ซึ่งมีโอกาสดรอปของดีๆมาน้อย แต่มันก็ทำให้เขาได้รับมาถึงสามกล่อง
“เบียคุยะ กลับกันเถอะ ฉันทำต่อไม่ไหวแล้ว”
มาโดะล้มตัวลงนอนบนถนนไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“ผมก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน งั้นกลับกันเถอะ”
ซูเซียวลุกขึ้นมาแต่มาโดะก็ยังเหนื่อยไม่ลุกสักที
“ผมไปแล้วนะ”
มาโดะหันไปมองแล้วก็พูดขึ้น “ได้โปรดอย่าพึ่งกลับไปยังศูนย์เลย สภาพของฉันในตอนนี้โทรมมาก ฉันอาย”
ซูเซียวหันไปมองก็พบว่ามาโดะหน้าแดงเขิลอายอยู่
“บ้านของฉันอยู่แถวๆนี้ ขับรถไปแปปเดียวก็ถึง”
ซูเซียวฟังคำแนะนำของมาโดะแล้วก็ฟังดูโอเคเหมือนกัน เพราะเขาก็ต้องการพักผ่อนมากๆ
มาโดะนั้นอยู่ในอพาทเมนต์คนเดียว เป็นห้องที่เล็กและอบอุ่น
หลังจากที่ทั้งสองมาถึงห้องแล้ว ซูเซียวก็ถอดเสื้อผ้าเดินตรงเข้าห้องน้ำ ส่วนมาโดะเองก็รอ
เพราะสภาพทั้งสองในตอนนี้คือเลือดโชก นอนไม่หลับแน่ๆ
ขณะที่ซูเซียวกำลังอาบน้ำอุ่นชะล้างร่างกายอยู่นั้น ก็มีเสียงดังมาจากนอกห้อง
“เบียคุยะ เร็วหน่อยได้มั้ย ฉันอยากอาบน้ำมากๆ ฉันทนไม่ไหวกับคาวเลือดพวกนี้แล้ว”