ตอนที่53 ชีวิตของเผ่าพันธุ์
หลังจากที่ซูเซียวยอมจ่าย 800 เหรียญพาราไดซ์ไป เขาก็มีสกิลเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งสกิล
สกิลใหม่ที่โผล่ขึ้นมานี้มันไม่เหมือนอันก่อนๆ เพราะมันมีสีเป็นเทาอ่อนเนื่องจากว่าเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น
ตรวจสอบพื้นฐาน (ชั่วคราว)
สกิลเลเวล : 2
เงื่อนไขในการใช้สกิล : 10 หน่วยมานา
ผลของสกิล : ใช้สังเกตการณ์สิ่งมีชีวิตต่างๆเพื่อดูข้อมูลความแข็งแกร่งระหว่างเป้าหมายกับผู้ใช้
คําแนะนํา : เพิ่มความแม่นยําของข้อมูล 5% สําหรับแต่ละเลเวล
คําแนะนํา : สกิลมีคูลดาวน์ 10 นาที
……
จากข้อมูลที่เขาได้มานี้มันก็ดูมีประโยชน์ แต่ดูเหมือนว่าสกิลนี้จะยังไม่แม่นยําสักเท่าไหร่
ซึซึยะ เดินตามซูเซียวเข้าไปในตรอกและมองด้วยความสับสน
เมื่อซูเซียวเห็นซึซึยะเดินเข้ามา เขาก็ลองใช้สกิลใหม่ทันที
ชื่อ จูโสะ ซึซึยะ
ผู้ตรวจตราระดับสาม
พลังชีวิต 100%
มานา 50
สเต้ง 7
เอจิ 10
วิท 6
อิ้น 5
สเน่ห์ 4
ลัค 1
สกิลที่ 1 : ร้าย (ติดตัว)
ผลของสกิล : รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากหลังจากได้รับบาดเจ็บและจะไม่สนใจอาการบาดเจ็บที่ได้รับเป็นส่วนใหญ่
สกิลที่ 2 : ซาดิส (ติดตัว)
ผลของสกิล : หลังจากได้รับบาดเจ็บ จะทําให้พลังโจมตีสูงขึ้น 8%
ข้อมูลทั้งหมดของซึซึยะปรากฏขึ้นด้านหน้าของซูเซียวทันที
สกิลการตรวจสอบพื้นฐานนี้ถือว่ามีประโยชน์มาก แต่น่าเสียดายที่มันจะหายไปหลังจากจบโลกนี้
ซูเซียวจึงตัดสินใจเลยว่าถ้าจบโลกนี้แล้วต้องหาสกิลหรืออุปกรณ์อะไรก็ได้ที่มีประโยชน์แบบนี้
“คุณขาว คืนนี้เราจะทําอะไรดี?”
ซึซึยะเดินไปรอบๆซูเซียวและถาม
แต่ซูเซียวเองก็กําลังคิดอย่างอื่นอยู่ เขาจ้องมองซากหนูน้อยตัวนี้และคิดอยู่ว่า ผู้ทําสัญญาคนอื่นจะพัฒนากันไปถึงไหนแล้วนะ
ซูเซียวตัดสินใจที่จะกลับศูนย์ก่อนเพราะว่า ซึซึยะนั้นแตกต่างจากมาโดะเรื่องของความแข็งแกร่ง
ถ้าหากผู้ทําสัญญาคนอื่นที่เป็นผีปอบโผล่ออกมา ซึซึยะอาจจะถ่วงเวลาไว้ได้ หรือถ้าผู้ทําสัญญาพวกนั้นอ่อนเกินไป ซึซึยะก็จะสามารถฆ่าได้เช่นกัน
หลังจากนั้นก็หันมาคุยกับ ซึซึยะ “กลับไปยังศูนย์ CCG กันดีกว่า”
ณ ห้องโถงของ CCG ผู้ตรวจตราที่ใส่ชุดพร้อมรบก็ยืนอยู่ด้านหน้าซูเซียวสองแถว
“เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้ ตอนเวลา สามทุ่มคืนนี้ มารวมตัวกันที่นี่!”
หลังจากซูเซียวพูดจบประโยค เขาก็เดินออกไปออกไปทันที
และหลังจากที่ซูเซียวออกไปแล้ว เหล่าผู้ตรวจตราก็เริ่มกระซิบกันทันที
เพราะแผนการที่ซูเซียวได้สั่งไปนั้นมีแค่การมายืนบล็อกถนนเท่านั้น
หลังจากบอกแผนคืนนี้ออกไปทั้งหมด ซูเซียวก็ขึ้นมายังห้องนอน CCG ของเขาอย่างสบายใจ เพราะเขามั่นใจว่าคืนนี้ไม่น่าจะมีผีปอบรอดจากการประมูลออกไปได้
ดังนั้นในตอนนี้ยังมีเวลาพักอีกสักสองสามชั่วโมงกว่าจะถึงเวลา เขาต้องรีบพักผ่อนสะหน่อย
จนกระทั่งถึงเวลาสามทุ่ม แสงไฟทั่ว CCG ก็เปิดสว่าง รถรางมากมายรวมตัวกันที่ประตูทางออก ผู้ตรวจตราก็ใส่ชุดพร้อมรบมาเตรียมตัวรอไว้หมดแล้ว
ซูเซียวที่เดินออกมา ก็เจอมาโดะมายืนรอรับอยู่ “เบียคุยะ เจ้าหน้าที่รวมตัวเตรียมพร้อมออกลุยกันหมดแล้ว”
มาโดะเองมีทีท่าที่ตื่นเต้นมาก เพราะนี่เป็นครั้งแรกของเธอที่จะได้ออกรบแบบนี้
“งั้นก็ลุยกันเถอะ”
ซูเซียวเดินขึ้นรถคันหน้าสุดทันที หลังจากนั้นเสียงรถอีกมากมายก็สตาร์ทดังขึ้นตามมา
จริงๆแล้วด้วยตําแหน่งผู้ตรวจตราระดับแรกไม่สามารถทําอะไรแบบนี้ได้ แต่เนื่องจากการอนุมัติของยูกิโนริ เขาจึงสามารถทําได้ และเหตุผลที่ยูกิโนริยอมทําให้ก็เพราะว่าซูเซียวนั้นแข็งแกร่ง
ยิ่งไปกว่านั้น การล้างบางเขต 14 ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจเหมือนกัน
20 นาทีหลังจากนั้น ทุกคนก็มาถึงสถานที่ประมูล ทุกคนรีบลงรถและปิดล้อมลานประมูลในทันที
คนพวกนี้เป็นพวกที่มีประสบการณ์และฝีมือกันทั้งนั้น ทุกคนทําหน้าที่ของตนเองกันอย่างเงียบและรวดเร็ว
“คุณเบียคุยะ?”
“ผมมาถึงสถานที่ตามแผนแล้ว ให้ลุยเข้าไปเลยไหม?”
ซึซึยะพูดผ่านหูฟังทันที
“รอก่อน”
หลังจากนั้นซูเซียวก็เปลี่ยนช่องการพูดคุยไปคุยกับมาโดะ
“อะคิระ รายงานสถานการณ์มา”
“ไม่มีอะไรผิดปกติ พวกเราเนียนมาก”
ซูเซียวติดต่อกับทุกคนอย่างดี ทางอออกทุกทางถูกควบคุมโดยเขาเรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้เป็นเวลา สามทุ่มครึ่ง และยังเหลือเวลากว่าชั่วโมง ถึงงานประมูลจะเริ่มขึ้น
“เบียคุยะ หน้ากากที่คุณต้องการ”
สมาชิกของ CCG ที่ใส่ชุดดํายื่นหน้ากากมาให้
หลังจากที่ซูเซียวรับหน้ากากมาแล้วเขาก็เดินเข้าไปในงานประมูลทันที
ประตูทางเข้าหลักนั้นถูกล็อค มีเพียงประตูหลังที่ยังเปิดอยู่
เมื่อซูเซียวมาถึงประตูหลัง เขาก็หยิบสเปรย์ขึ้นมาฉีดใส่เสื้อผ้าตัวเอง ซึ่งสเปรย์นี้ใช้กําจัดกลิ่นมนุษย์ออกไป ใช้อําพรางพวกผีปอบ
แผนการของเขานั้นเรียบง่าย คือซูเซียวจะเข้าไปในการประมูลคนเดียว เมื่อการประมูลเริ่มขึ้นเขาก็จะสั่งปิดทุกทางออกและเริ่มต้นการสังหารหมู่
เมื่อซูเซียวฉีดสเปรย์เสร็จแล้วเขาก็เดินตรงไปยังประตูหลังทันที แต่ทว่าชายร่างใหญ่ก็หยุดเขาเอาไว้
“เลือดมนุษย์ T3 ST”
หลังจากที่ซูเซียวพูดโค้ทลับแปลกๆออกไป ชายร่างใหญ่นี้ก็ปล่อยเขาเข้าไปทันที
“อย่าสร้างปัญหาหล่ะ ไม่งั้นแกตายแน่”
ซูเซียวไม่สนใจคําพูดของชายร่างใหญ่ เขามาที่นี่เพื่อฆ่าผีปอบเท่านั้น
เมื่อซูเซียวเดินเข้ามาแล้วก็พบเลยว่าบรรยากาศมันเปลี่ยนไปไม่เหมือนกับตอนกลางวัน
ก่อนการประมูลจะเริ่มก็มีการบรรเลงเพลงร็อคคั่นเวลาเอาไว้ ส่วนผนังและเพดานนั้นก็มีแสงไฟสีแดงติดไว้มากมาย
ภายใต้แสงไฟที่สลัวและดนตรีที่เมามันนี้ ก็มีสาวสวยเต้นอยู่บนเวทีในสภาพเปลือยกาย
บ้าไปแล้ว พวกผีปอบมีอารมณ์แบบนี้กันด้วยงั้นหรอ? ซูเซียวคิดในใจ
พวกผีปอบเหล่านี้ใช้ชีวิตกันแบบเต็มที่ในทุกวัน เพราะไม่มีใครรู้ว่าตัวเองจะถูกฆ่าตายตอนไหน