ตอนที่54 หมาป่าในฝูงแกะ
เสียงดนตรีบรรเลงต่อเนื่องจนกระทั่งถึงเวลา 5ทุ่ม
พรึบ!
แสงที่เวทีการประมูลฉายออกมา เสียงดนตรีหยุดลง
พวกผีปอบที่เต้นกันอยู่ก็หยุดอย่างไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าโวยวายออกมา
“ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ การประมูลกำลังจะเริ่มขึ้น โปรดนั่งให้เรียบร้อย”
เสียงที่พูดนี้ค่อนข้างจะมีสำเนียงแปลกๆ เพราะเขาใส่หน้ากากตัวตลกอยู่
“คุณตัวตลก วันนี้จะมีอะไรที่น่าตื่นเต้นไหม ฉันเสียใจมากกับการประมูลครั้งก่อน”
ผีปอบหญิงพูดขึ้น
ผู้ปอบทั้งหมดในตอนนี้สวมใส่หน้ากากเอาไว้เพื่อบดบังตัวเองจากมนุษย์ และเพื่อง่ายต่อการพรางตัว
เพราะถ้าหากเกิดขัดใจขึ้นในงานประมูล และผีปอบต่างรู้ตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน ก็สามารถไปดักฆ่าหรือแจ้ง CCG ให้มากำจัดศัตรูทิ้งไปได้
ผีปอบทุกตัวจึงใช้ชีวิตแบบหลบซ่อนเหมือนหนูในท่อ ยกเว้นแต่ ทากาทูกิ เซน ที่เป็นหัวหน้ากลุ่มโอกิริทรี และยังเป็นนักเขียนนิยายซึ่งเปิดเผยต่อสาธารณะ
“เปิดคำพูดที่ดี ของในค่ำคืนนี้ทุกคนต้องพึงพอใจอย่างมาก…”
พิธีกรกำลังประกาศเริ่มการประมูลอยู่ ทันใดนั้นซูเซียวก็เอามือไปกดที่หูฟังเพื่อพูดทันที
“ลุย”
เมื่อซูเซียวพูดออกมา ผีปอบที่ยืนอยู่ข้างเขาก็หันมามองและถอยหลังด้วยความกลัว
“แก แกพูดอะไรหน่ะ?”
“เขาพึ่งพูดคำว่า ลุย มันแปลกมันเลยนะ ฆ่าเขาทิ้งเถอะ”
“เขาเป็นผู้ตรวจตรางั้นหรอ? งั้นฉันไปล่ะ”
เพียงแค่คำพูดเดียว พื้นที่เล็กๆในลานประมูลก็เดือดทันที
พิธีกรเองก็รู้สึกได้เลยว่ามันกำลังเกิดสิ่งที่ผิดปกติ
พรึบ!
ทันใดนั้นแสงทั้งหมดในลานประมูลก็ดับทันที
เสียงกรีดร้องดังขึ้น เสียงโต๊ะเก้าอี้ล้มลงพื้นตามๆกันมา
ซูเซียวเองก็ยังอยู่ในความมืด นิ่งสงบ ไม่ตกใจอะไร
ทันใดนั้นซูเซียวก็หยิบแว่นตาข้างเดียวขึ้นมา ซึ่งมันคือแว่นตาที่ช่วยให้มองเห็นในความมืดมิด
เมื่อซูเซียวใส่เข้าไป เขาก็มองเห็นทุกอย่างเป็นสีเขียว แต่ก็ถือว่าช่วยได้มาก
ซึ่งแน่นอนว่านี่มันอยู่ในแผนของซูเซียว เขาจึงเตรียมอุปกรณ์มาพร้อมแล้ว หลังจากนั้นเขาก็นำดราก้อนแฟลชออกมา และพยายามเอาดาบไปจ่อคอของผีปอบเอาไว้เพื่อทดสอบว่าพวกผีปอบสามารถมองเห็นในความมืดมิดหรือไม่?
เห็นได้ชัดเลยว่าผีปอบไม่สามารถมองเห็นได้
ซูเซียวจึงเริ่มต้นการชะล้างทันที
เขาไล่ฟันผีปอบอย่างบ้าคลั่ง ราวกับหมาป่าที่อยู่ท่ามกลางฝูงแกะ
ภายในเวลาไม่กี่วินาที ผีปอบกว่า 20ตัวก็ตายภายใต้คมดาบของซูเซียว
การประมูลครั้งนี้ ถูกจัดขึ้นในอาคารที่ปิดทึบ จึงทำให้มีกลิ่นเลือดโชยไปทั่ว จนผีปอบตัวอื่นที่อยู่ไกลออกไปรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
“เกิดอะไรขึ้น? กลิ่นเลือด?”
“นี่เป็นกับดัก! หนีเร็ว”
“ข้าไม่อยากตาย ข้าไม่อยากตาย!!”
ผีปอบมากกว่าร้อยตัวเริ่มวิ่งหนีกันกระเจิง
ผีปอบบางตัวก็ปลดปล่อยคากุเนะออกมาและพร้อมโจมตีทุกอย่างที่เข้ามาใกล้
ซูเซียวยังคงไล่ล่าอย่างตัวเนื่อง ทุกครั้งที่เข้าเดินผ่านผีปอบ ต้องมีเลือดพุ่งเลือดไหล คอขาดตัวขาดกันทุกรอบ
เพ๊ง! เสียงขวดไวน์ตกแตก และไฟก็เริ่มไหม้ขึ้นมา
ซึ่งที่ขวดไวน์นี้สามารถระเบิดและไฟไหม้ได้นั้นก็เพราะว่าผีปอบบางตัวได้ทำการประดิษฐ์ระเบิดขวดนี้ขึ้นมานั่นเอง
และไฟที่ไหม้ขึ้นมานี้ก็ทำให้พวกผีปอบมองเห็นสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น
แน่นอนว่าผีปอบทุกตัวจ้องมองมาที่ซูเซียวและดราก้อนแฟลชของเขา
ที่ด้านหลังของซูเซียวนั้นมีผีปอบกว่า 30ชีวิตที่นอนเป็นศพอยู่ และเลือดไหลนองราวกับเป็นธานน้ำเล็กๆ
แต่ถึงอย่างงั้นผีปอบพวกนี้ที่ระดับต่ำก็ไม่กล้าเข้าโจมตีซูเซียว พวกเขาเลือกที่จะวิ่งหนี แต่ก็หนีไม่ได้เพราะพบว่าทางออกถูกปิดไว้หมดแล้ว
“ทำยังไงดี มันจบแล้ว ข้าตายแน่เลย!”
“วิ่งเร็ว ชายถือดาบมาทางนี้แล้ว!”
ทุกอย่างยิ่งวุ่นวายมากกว่าเดิม
ในสถานที่นี้ก็ไม่ได้มีแต่ผีปอบที่ระดับต่ำเสมอไป เพราะมีระดับ S ถึงสองตัว ตัวแรกคือตัวตลกที่ยืนอยู่บนเวที ส่วนตัวที่สองนั้นอยู่ด้านหน้าซูเซียว
ผีปอบระดับ S ด้านหน้าซูเซียวนั้นใส่หน้ากากหมูเอาไว้ และยังมีรูปร่างที่อ้วนท้วมอีกด้วย
“แก แกเป็นมนุษย์?”
คากุเนะของผีปอบอ้วนนี้คือ โควคาคุ และ คาคุโฮ ซึ่งมันโผล่ออกมาที่ไหล่ เมื่อเขาใช้งานคากุเนะ มันก็ทำให้เขาดูเหมือนกำลังใส่ชุดเกราะรบอยู่
ผีปอบตัวนี้เด่นทางด้านการป้องกัน จึงทำให้เขาไม่ได้คล่องแคล่วว่องไวมากนัก
ซูเซียวพุ่งไปด้านหน้าทันที ส่วนทางผีปอบอ้วนนั้นก็พุ่งมาเหมือนกัน
ทั้งปะทะอาวุธกันอย่างรุณแรง จนเกิดแรงสั่นสะเทือนที่สามารถรับรู้ได้
“แกตายส้ะเถอะ!”
ผีปอบอ้วนเอาหัวโหม่งซูเซียว แต่ซูเซียวก็สามารถถอยหลบได้และโจมตีกลับอย่างรวดเร็วโดยการฟันดาบเข้าที่ขาของผีปอบอ้วน
ฉึบบบ!
ขาอ้วนๆนั้นล่วงหล่นลงพื้นทันที ซึ่งการโจมตีนี้ซูเซียวไม่ได้ออกแรงมากเลย เขาเพียงใช้ความอ้วนของศัตรูมาเพิ่มพลังการโจมตีเท่านั้นเอง
ผีปอบอ้วนเริ่มกรีดร้อง และล้มลงกับพื้นเพราะเสียสมดุล
ซูเซียวก็ไม่พลาดโอกาส เขารีบพุ่งเข้าไปปักดาบเข้าที่หัวของผีปอบอ้วนในทันที
หลังจากนั้นก็มีกล่องสมบัติสีเขียวลอยออกมาบนตัวผีปอบอ้วน เมื่อซูเซียวเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกดีมาก
เพราะศัตรูเป็นเพียงแค่ผีปอบระดับ S แต่สามารถดรอปกล่องสมบัติเขียวออกมาได้นั้น แสดงว่าเขาโชคดีมากๆ
แต่นี่ไม่ใช่เวลามาดีใจ ซูเซียวรีบเก็บกล่องและมองหาผีปอบระดับ S ตัวอื่นในทันที
หลังจากสังเกตพักนึง เขาก็ไปหยุดสายตาไว้ที่ผีปอบตัวตลกด้านบนเวที
“เดี๋ยวสิ! ข้าเป็นสมาชิกของตระกูล ซึกิยามะ แกจะฆ่าข้าไม่ได้นะ!!”