ซูเซียวเดินดูร้านค้าตามทางเดิน จนเขามาหยุดหน้าร้านชำร้านนึง
“นี่คุณทหาร พวกเราจ่ายค่าคุ้มครองไปแล้วเมื่อสามวันก่อน จะมาทำไมอีก?”
“ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อเก็บค่าคุ้มครอง คุณมีพืชชนิดนี้ไหม?”
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงต่อมา ซูเซียวก็เดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม เขาซื้อของมามากมาย
มันไม่ง่ายเลยที่จะฆ่าเจ้าแห่งขุนเขา โครูโบะ
จากที่ซูเซียวจำได้ ร่างกายของเจ้าแห่งขุนเขาก็เหมือนเสืธรรมดา แค่มันมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าปกติ 4-5 เท่าเฉยๆ
ซูเซียวที่ซื้อของเสร็จแล้วก็ยังไม่ได้ขึ้นไปบนเขา แต่กลับไปยังฐานที่ตั้งกองทหาร
หลังจากเดินเล่นพบปะกับเหล่าทหารคนอื่นอยู่พักนึงเขาก็เดินกลับเข้าไปในโกดัง
เนื่องจากแบรนดอนตายแล้ว จึงไม่มีทหารอยู่ในกองทหารมากนัก
แฮ็งค์และสหายอีกสองคนก็ร่วมมือกันสู้กับกลุ่มอื่น
พวกเขาจะเผาเกร เทอมินอลในกลางคืนพรุ่งนี้ ดังนั้นต้องมีการคัดเลือกผู้นำ พวกเขาเลยกำลังช่วงชิงกันอยู่
ซูเซียวสามารถเดินไปมาได้อย่างง่ายดายในกองทหารเพราะทุกคนกำลังวุ่นวายกับการต่อสู้เพื่อได้รับการคัดเลือกเป็นผู้นำ
หลังจากนั้นไม่นานเมื่อซูเซียวเสร็จธุระที่นี่เขาก็เดินไปยังเขาโครูโบะทันที
เมื่อมองไปยังประตู ที่เขาเคยเดินเข้าเมืองมาเมื่อไม่นานนี้ เขาก็รู้สึกประม่าเล็กน้อย แต่ในตอนนี้เขาสามารถเดินเข้าออกได้อย่างสบายใจแล้ว
ทหารที่เฝ้าประตูก็พยักหน้าให้แก่ซูเซียว แล้วก็ปล่อยให้ผ่านไปอย่างสบายโดยไม่ทักอะไร
ขณะที่เขาเดินผ่านประตู จนไปถึง เกร เทอมินอล ซูเซียวก็มองเห็นป่าไม้แห่งหนึ่งที่ซึ่งลูฟี่เคยเติบโตที่นี่
เขาเดินเข้าไปในป่า พร้อมกับสูดอากาศบริสุทธิ์สดชื่น กลิ่นป่าไม้ กลิ่นสัตว์ที่เป็นธรรมชาติอย่างบริสุทธิ์
ภายใต้สภาพแวดล้อมที่สดชื่นสวยงามเช่นนี้มันก็ยังอันตรายอยู่ดี ซูเซียวจึงถือดาบไว้ในมือตลอดเวลา เผื่อมีอะไรจู่โจมเขากะทันหัน
ซูเซียวพยายามจะมองหาพื้นที่ที่กว้างพอสมควร เพื่อเหมาะแก่การล่าสัตว์
มันไม่จำเป็นต้องใหญ่มาก แต่มันต้องมี2เงื่อนไขนี้
อย่างแรกคือ เป็นแหล่งน้ำ เพราะที่อาณาจักรโกอานี้เป็นเมืองท่า การหาน้ำธรรมดาตามธรรมชาติจึงเป็นเรื่องยาก ซึ่งถ้าหากหาได้พบ ก็จะมีโอกาสพบกับเสือง่ายขึ้น
อย่างที่สองคือ พื้นดินต้องเป็นลักษณะทุ่งหญ้า เพื่อให้เขาวางกับดักไว้ได้ง่าย
แน่นอนว่ากับดักที่เขาใช้ต้องเป็นระเบิด ฝังเอาไว้เผื่อเจ้าแห่งขุนเขาจะเดินมาเหยียบ
ซึ่งการฆ่าสัตว์ป่าขนาดใหญ่ การทำแบบนี้แหล่ะ เหมาะสมที่สุดในการล่าพวกมัน
เมื่อซูเซียวหาสถานที่แบบนี้เจอแล้วเขาก็นำพลั่วออกมา ถอดเสื้อพร้อมกับขุดดินลงไปทันที พร้อมกับฝังระเบิดและกลบดินเอาไว้ และนำผลไม้แถวนั้นมาโรยปกปิดเอาไว้ให้เนียน
หลังจากนั้นสองชั่วโมง ซูเซียวก็ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ในบริเวณนั้น
เหงื่อไหลมาบนแก้ม คาง ไหล่ อก ของเขา เพื่อให้มองเห็นกล้ามเนื้อที่แวววับของเขา
เขาไม่ค่อยมีกล้ามที่ใหญ่โตมากนัก เพราะการเป็นฮันเตอร์ไม่จำเป็นต้องมีกล้ามที่แข็งแกร่ง มีแค่กล้ามพอสมควรก็พอเพราะการเป็นฮันเตอร์ต้องใช้ความรวดเร็ว
ซูเซียวยังคงนั่งอยู่บนต้นไม้และถือปืนเก่า พร้อมกับกระสุนอีกสามนัดในมือ
แต่เมื่อซูเซียวกำลังจะใส่กระสุนเข้าไป Reincarnation Paradise ก็เตือนมาว่า ‘ปืนนี้ได้รับความเสียหายอย่างมาก หากใส่กระสุนเข้าไปอาจทำให้ปืนแตกพัง ไม่สามารถใช้งานได้อีก’
ดูเหมือนว่ามันจะมีขีดจำกัดของมัน ปืนนี้ซูเซียวก็ไม่ได้รับมาจากหีบสมบัติ แต่ได้มาจากการเก็บมา
หลังจากที่เคยเปิดหีบสมบัติสีขาวไป 2กล่อง ซูเซียวก็เข้าใจระบบของ Reincarnation Paradise เป็นอย่างดี
จากการสำเร็จเบื่องต้น ซูเซียวก็ได้ข้อสรุป
ค่าสเต้งของเขาที่เพิ่มขึ้นจาก 6เป็น 7 ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น
ส่วนค่าพลังชีวิตนั้นไม่มีตัวเลขที่แน่นอน แต่บอกเป็น เปอเซ็นต์
ค่าพลังชีวิตของศัตรูจะโผล่ขึ้นมาเมื่อมีการต่อสู้หรือได้รับความเสียหาย
ถ้าหากได้รับการโจมตีที่รุณแรง ตัวเลขจะแสดงเป็น 0% และตายทันที
ส่วนเรื่องของสวมใส่ก็มีค่าเป็นตัวเลขบอกมาเหมือนกัน อย่างเช่น ดราก้อนแฟลชที่เอวเขานั้น มีทั้งความทนทาน และพลังการโจมตีบอกอยู่ ซึ่งนี่จะช่วยให้เข้าใจว่าจะใช้อาวุธได้มากเพียงใด
หลังจากการต่อสู้เพียงไม่กี่ครั้งซูเซียวก็ชอบในระบบตัวเลขพวกนี้แล้ว เพราะมันช่วยให้ประเมินสถานการณ์ได้ง่ายขึ้น แม้ว่าจะเป็นชีวิตจริง แต่ก็สู้เหมือนอยู่ในเกม
นี่เป็นความช่วยเหลือที่สุดยอดมากจาก Reincarnation Paradise