บทที่ 183: พิธีศพ (3)
คลื่นพลังหยินที่รุนแรงกว่าที่ผ่านมาพัดเข้ามาในโถงไว้อาลัย ก่อนจะก่อตัวเป็นกลุ่มหมอกสีดำ ร่างของนักเรียนแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ร่างที่พร่าเลือนพุ่งออกมาและหายไปพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวช
กลับมาที่ห้องโถงรวม
มือของฉินเย่สั่นเทา เขาแทบจะเรียกกระบี่ปีศาจออกมาในวินาทีแห่งความตื่นเต้นนั้น!
ร่างที่แท้จริงของยมทูต!
การเปลี่ยนร่างเป็นยมทูตนั้นจะถูกบังคับให้ต้องทำลายกายเนื้อที่สิงสู่ทันที!
ผลที่ตามมาคือยมทูตตนนั้นจะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นแน่ แต่เมื่อทำลายกายเนื้อที่สิงอยู่แล้ว มนุษย์ที่อยู่โดยรอบก็จะมองไม่เห็นมันอีกต่อไป ไม่มีใครรู้ว่ามันหนีไปที่ใดเพื่อเอาชีวิตรอด
อดทน…
ฉินเย่ถอนหายใจออกมาและพยายามทำให้หัวใจที่เต้นแรงของตนสงบลง
อดทนไว้…มันยังเร็วเกินไป การระเบิดของพลังหยินจากยมทูตเพียงตนเดียวยังไม่เพียงพอที่จะกลบเกลื่อนการปะทุของพลังหยินเมื่อเขาเข้าสู่สถานะยมทูต โจวเซียนหลงเองก็ยังไม่ปรากฏตัวเช่นกัน เขาจะต้องคอยจังหวะที่เหมาะสม…และเวลานั้นก็คือตอนที่ยมทูตนอกอาณาเขตทั้งหมดกลับสู่ร่างที่แท้จริงของตัวเองแล้ว
“หายไปแล้ว?” ป้ายสีขาวกระพืออย่างบ้าคลั่งภายในโถงไว้อาลัยขณะที่เงินกระดาษกระจัดกระจายไปทั่วทุกที่ โหลวชวนมองดูพื้นที่ว่างเปล่าตรงหน้าตนอย่างตกตะลึง จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นและตะโกนเสียงดัง “อาจารย์ผู้สอนทุกคน คุ้มกันโลงศพของท่านกู่ชิงเดี๋ยวนี้! เราจะปล่อยให้เกิดความผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด!”
“รับทราบ!”
อาจารย์ทั้งหมดรีบพุ่งผ่านร่างของโหลวชวนและเข้าไปที่วงล้อมด้านใน ทว่าเมื่อพวกเขาไปถึงที่หน้าทางเข้า เสียงระเบิดก็ดังขึ้นเป็นการต้อนรับคนทั้งหมด กลุ่มก้อนพลังหยินที่หนาแน่นพุ่งออกมาจากรอยแยกบนพื้น ราวกับประตูนรกกำลังเปิดอ้าต้อนรับพวกเขา! พลังหยินดังกล่าวพุ่งขึ้นไปบนฟ้า ก่อตัวเป็นกำแพงพลังหยินที่กว้างกว่า 100 เมตรและสูง 10 เมตร! ปิดกั้นทางเข้าเอาไว้
“ทรมานเหลือเกิน….” “ให้ข้าตายเถอะ…ได้โปรด…ให้ข้าตาย!” “อึก…ทำไม…ข้ายังไม่อยากตาย…” เสียงคร่ำครวญของวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนดังขึ้นให้ได้ยินทันทีที่กำแพงดังกล่าวปรากฏขึ้น เหล่านักเรียนที่อยู่ด้านนอกทั้งหมดแน่นิ่งไปด้วยความหวาดกลัว
“นี่มันบ้าอะไรกัน?!” “พระเจ้า…มันคืออะไร?!” “ไม่อยากจะเชื่อ! นี่มันเกิดอะไรขึ้นในโถงไว้อาลัยกันแน่?”
ใบหน้าที่บิดเบี้ยวจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงคร่ำครวญที่น่ากลัวและเสียงกรีดร้องที่เสียดแทงหัวใจ บางตนสวมเสื้อคลุมสีขาว บางตนสวมผ้าคลุมหน้า ในขณะที่ตนอื่น ๆ สวมผ้าโพกศีรษะ…ใบหน้าทั้งหมดดูเหมือนจะปรากฏขึ้นและเลือนหายไปจากกำแพงพลังหยิน ราวกับว่ามันคือกำแพงที่ดูดกลืนอารมณ์และความปรารถนาของมนุษย์ไม่มีผิด
“ศาสตราจารย์เถา!” “คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ? รอก่อนนะครับ! หัวหน้าโจวจะมาถึงในอีกไม่ช้า!” “พวกเราจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้!”
“อย่าเข้ามา!” เสียงของเถาหรานดังออกมาจากอีกฝั่งหนึ่งของกำแพง ชายสูงวัยจ้องไปที่ทางเข้าของโถงไว้อาลัยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
แปลกมาก…ทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้มันแปลกเกินไป!
“กำแพงแห่งเสียงกระซิบของเหล่าวิญญาณ……” หญิงร่างท้วมคนหนึ่งนั่งยอง ๆ ลงบนพื้น ฝ่ามือทั้งสองข้างของเธอกดลงพับพื้น พื้นดินโดยรอบดูคล้ายกับผิวน้ำ กระเพื่อมไปมาขณะที่อักขระโบราณปรากฏขึ้น กำแพงแห่งเสียงกระซิบของเหล่าวิญญาณยังคงกรีดร้องและแยกพื้นที่ด้านในโถงออกจากส่วนอื่น ๆ ของโลกอย่างสมบูรณ์
กระดูกนิ้วสีเข้มลอยอยู่ระหว่างคิ้วของเธออย่างน่าขนลุก มันไม่ใช่กระดูกนิ้วของมนุษย์ นอกจากนี้มันยังถูกห่อหุ้มไว้ด้วยหนามแหลมคม และมันก็ไม่ใช่แค่เธอเพียงคนเดียวที่นำวัตถุหยินแปลกประหลาดพวกนี้ออกมา แต่ยมทูตนอกอาณาเขตที่อยู่รอบ ๆ ทั้ง 11 ตนเองก็นำวัตถุหยินของตนออกมาเช่นกัน
มันมีทั้งคริสทัลหัวกะโหลกสีแดงเข้ม คทาเก่าแก่ มงกุฎเปื้อนเลือดที่แตกหัก…ทุกอย่างล้วนมีกลิ่นอายแปลกประหลาด และพลังหยินก็รวมตัวเข้าด้วยกันจนผู้ที่หายใจเข้าไปรู้สึกได้ว่าปอดของพวกตนเย็นยะเยือกไปหมด ด้วยการสูดดมเข้าไปเพียงแค่ครั้งเดียว
“วัตถุหยิน…ช่างเป็นวัตถุหยินที่ทรงพลังจริง ๆ…และทุกชิ้นยังอยู่ขั้นยมทูตขาวดำอีกด้วย…เมื่อรวมพลังของมันเข้าด้วยกัน….” เถาหรานสูดหายใจเข้าจนเต็มปอด และร่างของเขาก็ระเบิดพลังปราณออกมา กวาดหมอกดำสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อรวมกัน วัตถุหยินพวกนั้นก่อให้เกิดภัยคุกคามที่เทียบได้กับขั้นตุลาการนรกคนหนึ่ง!
แต่ทันใดนั้นเอง เขาก็แน่นิ่งไป
12 ตน…
ด้านหน้าของเขามีวิญญาณอยู่แค่ 12 ตนเท่านั้น!
ทั้ง ๆ ที่ในตอนแรก วิญญาณที่พุ่งเข้าในโถงไว้อาลัยมันมีทั้งหมด 14 ตน…
เขารีบหันศีรษะไปตะโกนเสียงดัง “คุ้มกันโลงศพ!”
นอกจากเขาแล้วยังมีศาสตราจารย์อีกสองท่าน และทั้งคู่ก็อยู่อีกมุมหนึ่งเพื่อป้องกันการจู่โจมที่อาจจะเกิดขึ้น และทันทีที่พวกเขาได้ยินเสียงตะโกนของชายสูงวัย ทั้งสองก็รีบวิ่งไปภายในพริบตา
ตั้งแต่ยมทูตนอกอาณาเขตพวกนี้บุกเข้ามาในโถงไว้อาลัย มันเพิ่งจะผ่านมาเพียงหนึ่งนาที 30 วินาทีเท่านั้น
“ฆ่ามัน!” ยมทูตนอกอาณาเขตทั้ง 12 ตนตะโกนออกมาพร้อมกันขณะที่ศาสตราจารย์ทั้งสองพุ่งไปที่โลงศพ และด้วยพลังหยินที่ห่อหุ้มร่างกายของตน ยมทูตทั้งหมดก็พุ่งเข้าใส่ศาสตราจารย์ทั้งสองอย่างรวดเร็ว!
ขณะที่พวกมันพุ่งไป พลังหยินที่อยู่โดยรอบก็ค่อย ๆ ก่อตัว เป็นเทพแห่งความตายในชุดคลุมสีดำขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับเคียวสีดำที่น่าสะพรึงกลัว และมันก็ปล่อยพลังงานหยินจำนวนมากออกมา ด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว เทพแห่งความตายเหวี่ยงเคียวของตนในอากาศ หมายที่จะฟันไปที่ร่างของเถาหราน
“ภายใต้การคุ้มครองของท่านอาซานามิผู้งดงาม ข้าจะก้าวเข้าไปในเขตแดนระหว่างโลกและสักการะเหล่าวิญญาณทั้งปวง…” ทันใดนั้น นักเรียนร่างผอมคนหนึ่งก็เดินเข้ามาและประสานอินอย่างรวดเร็ว และกระจกโบราณก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับประกายแสงสีขาวที่สุกสกาว จากนั้นเขาจึงหันไปหาเพื่อนของตน คว้าร่างของอีกฝ่ายด้วยมือทั้งสองข้างและโยนเข้าไปในกระจก “กระจกยาตะ!”
ฟึ่บ…เถาหรานถูกล้อมรอบด้วยทะเลพลังหยินที่หนาแน่น เขาไม่สามารถมองเห็นได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตาม กระจกดังกล่าวดูเหมือนจะกลายเป็นกระแสน้ำวนที่ดูดกลืนเพื่อนร่วมงานของฝ่ายตรงข้ามเข้าไป ทว่าในเสี้ยววินาทีต่อมา กระจกที่คล้ายกันก็ปรากฏขึ้นเหนือโลงศพของกู่ชิง และมือที่โชกเลือดก็ยื่นออกมาจากกระจกนั้นและทุบฝาโลงที่แข็งราวกับเหล็กด้วยแรงมหาศาล!
มันดังสนั่นจนทำให้หัวใจของคนทั้งหมดเต้นผิดจังหวะ ศาสตราจารย์อีกสองท่านไม่สามารถไปถึงที่นั่นได้ทันเวลา เถาหรานเองก็หันไปมองอย่างตกใจ ยมทูตนอกอาณาเขตพวกนั้นสามารถทำลายฝาโลงของกู่ชิงได้! นั่นมันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
ตูม!!!
ฝาโลงสีน้ำตาลแดงถูกทำลายภายในเสี้ยววินาที เผยให้เห็นศพของกู่ชิงที่สวมชุดสูทข้าราชการจีนนอนอยู่ ดวงตาของเขาปิดสนิทราวกับกำลังนอนหลับอย่างสงบ ทว่าด้านล่างของโลงมีตะปูที่ยาวประมาณหนึ่งนิ้วถูกตอกเอาไว้
……………………………
ย้อนกลับไปที่ห้องโถงรวม
ฉินเย่ลุกขึ้นยืนเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ จังหวะการหายใจของเขาขาดห้วงอีกครั้ง เขาไม่คิดเลยว่ายมทูตนอกอาณาเขตพวกนั้นจะสามารถทำได้ถึงขนาดนี้!
ที่นั่นมีศาสตราจารย์อยู่ถึงห้าคน แต่พวกเขากลับไม่สามารถต้านทานการโจมตีของยมทูตนอกอาณาเขตได้ถึงสองนาทีด้วยซ้ำ!
หากไม่มีใครสามารถจัดการกับเจ้ากระจกประหลาดนั่นได้ ตะปูตอกวิญญาณและหยกตรึงวิญญาณจะต้องถูกดึงออกภายในเวลาไม่เกินสิบวินาทีแน่ และตอนนั้น…ก็จะเป็นเวลาที่ยมทูตนอกอาณาเขตจะฉีกกระชากกายเนื้อที่พวกตนสิงอยู่และเข้าสู่สถานะยมทูต!
“โจวเซียนหลง…คุณทำบ้าอะไรอยู่!” ฉินเย่กำมือแน่นอย่างร้อนรน “ไม่ใช่ว่าคุณคือคนที่เก่งที่สุดในสำนักหรอกหรือ?! นี่มันผ่านมาสองนาทีแล้ว! ทำไมยังไม่ปรากฏตัวอีก?!”
“ใจเย็น ๆ” อาร์ทิสลุกขึ้นยืน ถึงแม้ว่าน้ำเสียงที่เอ่ยออกมาของนางจะสงบนิ่ง แต่มันก็เห็นได้ชัดเลยว่าจังหวะการหายใจของนางรุนแรงกว่าปกติ “แผ่นดินจีนไม่ได้ประสบกับสงครามระหว่างยมโลกมาตั้งแต่ร้อยปีก่อน นี่ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา ไม่ต้องห่วง ข้าสัมผัสได้ว่าเขามาแล้ว 30 วินาที…ไม่! ข้ามั่นใจว่าเขาจะมาถึงภายใน 15 วินาทีนี้แน่!”
“เจ้าจงเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่สถานะยมทูตทุกเมื่อ…นี่คือการลงมือครั้งสุดท้ายของพวกมัน และพวกมันจะต้องทุ่มพลังทั้งหมดที่มีอย่างแน่นอน”
……………………………
ย้อนกลับไปที่โถงไว้อาลัย
เสียงโครมครามที่สามารถสั่นสะเทือนสวรรค์ดังขึ้น พลังปราณหลั่งไหลออกจากร่างของเถาหรานราวกับกระแสน้ำ ขณะที่เขาเผชิญหน้ากับการโจมตีอันทรงพลังจากเทพแห่งความตายที่ก่อตัวขึ้นจากพลังหยิน เมื่อเห็นถึงความแตกต่างระหว่างพลังของพวกเขา ชายสูงวัยก็ระเบิดพลังปราณของตนออกมา และเปลี่ยนวิถีโจมตีของฝ่ายตรงข้าม!
โครม! ต้นไม้ที่อยู่โดยรอบหอบรรพบุรุษโค่นลงในทันที พร้อมกับเสียงครางอู้อี้ เท้าของเถาหรานถูกลากไปด้านหลังจนเกิดเป็นร่องลึกสองร่องบนพื้น เขาถูกกระแทกจนถอยหลังไปหลายสิบเมตร และกระแทกเข้ากับผนังด้านในอย่างแรง!
“ตะปูตอกวิญญาณ!” ร่างของเทพแห่งความตายจางลงอย่างมากเนื่องจากการปะทะเมื่อครู่ ยมทูตนอกอาณาเขตห้าตนที่ยืนอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางของการปะทะมีเลือดไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดและแทบจะไม่สามารถอยู่ในร่างมนุษย์ได้อีกต่อไป
พวกเขากรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง “30 วินาที! ทุกอย่างจะต้องสำเร็จลุล่วงภายใน 30 วินาที! ข้าสัมผัสได้ถึงพลังของขั้นตุลาการนรก! เขาอยู่ด้านนอกแล้ว!”
“อย่าแตกตื่น! นี่คือสิ่งที่จำลองมาจากกระจกยาตะ! เจ้าคิดว่ามันคือวัตถุหยินระดับสามหรืออย่างไร?!” ยมทูตนอกอาณาเขตที่ถือกระจกยาตะอยู่ตะโกนตอบด้วยดวงตาที่แดงก่ำ อกของเขากระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรงในทุกครั้งที่หายใจ ทุกวินาทีมีค่า! เขารู้สึกได้เลยว่าปลายนิ้วของเขากำลังสั่นเทาอย่างเป็นกังวล!
ยมทูตในร่างนักเรียนหญิงผมยาวกัดฟันแน่น ขณะที่ใช้งานตะเกียงไฟโบราณบริเวณอกของตน ส่งผลให้มันเปล่งแสงออกมาปกคลุมรัศมีสิบเมตร จากนั้นนางก็พุ่งไปหาศาสตราจารย์ที่อยู่ด้านซ้ายขณะที่ตะโกนว่า “ขวางพวกเขาไว้ให้ได้! ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม!”
“พวกแก…รนหาที่ตายแล้ว!!” ดวงตาของศาสตราจารย์คนด้านซ้ายเริ่มแดงก่ำ ปีศาจตนใดกันที่กล้าทำเรื่องแบบนี้?! นี่มันเท่ากับตบหน้าพวกเขาและสำนักฝึกตนแห่งแรกชัด ๆ!
ศาสตราจารย์ทั้งห้าไม่สามารถต้านยมทูตนอกอาณาเขตสิบกว่าตนได้อย่างนั้นหรือ? หากข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทางสำนักคงได้ปิดตัวลงก่อนที่มันจะเริ่มเสียอีก! นี่มันมากเกินไปแล้ว!
ความเร็วของเขานั้นน่าเหลือเชื่อ ทว่าตะเกียงไฟกลับน่าเหลือเชื่อยิ่งกว่า! มันปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา และพร้อมกับการดึงโซ่อย่างรวดเร็ว ร่างของนักเรียนหญิงที่ถูกล่ามไว้ด้วยโซ่ก็ถูกลากมาอยู่ตรงหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว
รูม่านตาสีดำสนิทที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวสบกับแววตาที่บ้าคลั่งของคนตรงหน้า ทั้งสองฝ่ายต่างรู้ดีว่าอีกฝ่ายต่างไม่ธรรมดา ฝ่ายหนึ่งไม่ได้เป็นเพียงวิญญาณขั้นนักล่าวิญญาณทั่วไป ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งคือผู้ฝึกตนขั้นยมทูตขาวดำ ไม่มีฝั่งไหนกล้าออมแรงของตน เสียงการต่อสู้ที่ดุเดือดดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องที่บ้าคลั่ง ศาสตราจารย์นำดาบไม้มะฮอกกานีออกมา ทันใดนั้นมันก็แยกออกเป็นสองเล่ม สามเล่ม และภายในไม่กี่วินาที ดาบจำนวนมากก็เปลี่ยนให้สนามต่อสู้กลายเป็นทะเลดาบ!
“เร็วเข้า!!” นักเรียนหญิงรู้ดีว่าตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนตรงหน้าเลยสักนิด ประกายแสงบนตะเกียงค่อยๆหายไป และร่างของเธอก็เริ่มแตก เธอหันไปอีกทางและตะโกนว่า “ไม่ต้องสนใจข้า…นำวิญญาณไปให้ได้! นี่จะต้องเป็นวิญญาณดวงแรกของจีนที่ถูกยมทูตนอกอาณาเขตแย่งชิงไปได้ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา! มันแสดงให้เห็นว่า…”
เสียงของเธอขาดหายไปอย่างกะทันหัน
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าทะเลดาบของศาสตราจารย์ตรงหน้าได้พุ่งเข้ามาและฉีกร่างของนักเรียนหญิงคนนั้นเป็นชิ้น ๆ
“เพื่อแอริโซนา!!” เสียงกรีดร้องที่โหยหวนดังก้องให้ได้ยินไปทั่ว ร่างของนักเรียนหญิงกลายเป็นเพียงผุยผงขณะที่ล้มลง และวิญญาณของเธอก็จ้องมองภาพตรงหน้าอย่างเหม่อลอยก่อนจะสลายหายไป
“อ๊ากกกก!!!” ในขณะเดียว ยมทูตนอกอาณาเขตที่กำลังสู้กับศาสตราจารย์ทางด้านขวาเองก็ถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเช่นกัน และวิญญาณของเขาก็สลายหายไป
“ให้ตายเถอะ…ให้ตาย!!” ยมทูตนอกอาณาเขตอีกหลายตนเริ่มสบถออกมาอย่างโกรธแค้น ยมทูตในร่างของเด็กหนุ่มตัวเตี้ยพุ่งเข้าหายมทูตที่ถือกระจกยาตะและคว้าขอเสื้อของอีกฝ่ายและเอ่ยด้วยเสียงสั่นเทา “ยังเหลือเวลาอีก 17 วินาที! หากเจ้าทำไม่ได้ ข้าจะฆ่าเจ้าซะ!!”
ยมทูตที่ถือกระจกยาตะกัดฟันกรอด “เจ้าคิดว่าข้ายังไม่ทุ่มสุดตัวอีกอย่างนั้นหรือ? หากไม่อยากตายก็ไปซะ!”
กึก…ตะปูตอกวิญญาณถูกถอนออกมา ในขณะที่ศาสตราจารย์ทั้งสองไปถึงที่ด้านข้างของโลงแล้ว
ทุกอย่างดูเหมือนจะหยุดนิ่งไป คนทั้งหมดมองดูตะปูที่ลอยอยู่ในอากาศ ทิ้งไว้เพียงรูโหว่ที่น่าเกลียดบนโลงศพในจุดที่มันเคยตกลงไป
ศาสตราจารย์ทั้งสองมาถึงที่โลงศพช้าไปเพียงเสี้ยววินาที หลังจากที่ตะปูถูกถอนออก ทันใดนั้นเสียงบางอย่างก็ดังขึ้น ตามมาด้วยมือสองข้างที่ยื่นออกมาจากฐานของโลง
มือหนึ่งง้างกรามบน ในขณะที่อีกมือหนึ่งง้างกรามล่างของศพ จากนั้น เส้นด้ายสีแดงก็พุ่งเข้าไปในปากของกู่ชิงและพันรอบวัตถุสีเขียวอย่างแน่นหนา
นี่คือยมทูตนอกอาณาเขตตนสุดท้ายที่หายตัวไปก่อนหน้านี้
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายเข้าไปซ่อนตัวอยู่ใต้โลงศพ
แต่ว่าทันใดนั้นเอง…
“กล้ามาก!!” เสียงฟ้าร้องดังสนั่นไปทั่วบริเวณราวกับเทพเจ้าได้จุติลงมา และอาคารทั้งหลังก็พังทลายลง!
มันไม่ได้ระเบิดจากด้านใน กลับกัน มันพังลงมาจากด้านบนเหมือนกับเต้าหู้เนื้อนิ่ม จากนั้น ท่ามกลางเศษดินและฝุ่นที่คละคลุ้งไปในอากาศ มือขนาดใหญ่ที่ก่อตัวจากสายฟ้าก็ทะลุชั้นเมฆและตบลงบนพื้นอย่างแรง!
ผู้ฝึกตนขั้นตุลาการนรกมาถึงแล้ว!
Related