ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี – ตอนที่ 161 เกินทนไหว

ตอน161 เกินทนไหว
จ้าวเฉียนอยากรู้ว่าจางหยางจะวางตัวยังไงต่อไป ดังนั้นเขาจึงเฝ้ามองอย่างเงียบๆ
เมื่อมีหลักฐานยืนยันชัดเจนแล้วว่า เด็กสาวคนนี้คือเหลียวเซียวหยุน ลูกสาวของเหลียวปี้ซ่ง จางหยางก็เงียบเป็นจั่กจั่นกลางฤดูหนาว ไม่กล้าส่งเสียงอันใดสักแอะ ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งด่าเธอไปว่าปากหมา แต่ท้ายที่สุดนี้ กลับเป็นเขาเองที่ต่ำตอย ไร้กาลเทศะ แสร้งทำราวกับว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าทุกสรรพสิ่ง
เห็นว่าาสามีตัวเองหน้าแตกไปเต็มๆ ฟางนี่เองก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีทางเช่นกันที่จะต่อว่าเหลียวเซียวหยุน สุดท้ายนี้ลูกค้ายังคงสำคัญที่สุด ทั้งยังคิดว่าจ้าวเฉียนน่าจะรับมือไหวแน่นอน สิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้คือ การทำให้ลูกค้าใจเย็นลง
ดังนั้นแล้วฟางนี่จึงรีบขอโทษเหลียวเซียวหยุนโดยเร็ว
“คุณเหลียว ดิฉันต้องขอโทษจริงๆ นะคะ สามีของฉันเพิ่งกลับมาจากอเมริกาจึงไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่ บริษัทของเราถือลูกค้าเป็นสำคัญ ถ้าหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถถามจ้าวเฉียนได้โดยตรง เขาเป็นตัวแทนของดิฉันและบริษัทของเรา”
เหลียวเซียวหยุนถอนหายใจอย่างเยือกเย็น และกล่าวตอบไปว่า
“ฉันคิดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับจ้าวเฉียน เรื่องนี้เป็นความผิดของสามีปากหมาของคุณ อันที่จริงแล้ว ไม่ว่าบริษัทไหน ตราบใดที่สามารถพัฒนาเกมได้ตามต้องการ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องร่วมมือกับบริษัทของคุณ”
ฟางนี่ยิ่งรู้สึกกังวลหนักข้อเข้าไปใหญ่เมื่อได้ยินแบบนั้น เธอรีบขอโทษขอโผยเหลียวเซียวหยุนทันที
“คุณเหลียว โปรดใจเย็นก่อนนะคะ สามีของดิฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณโกรธ จางหยาง รีบขอโทษคุณเหลียวเดี๋ยวนี้!”
น้ำเสียงของฟางนี่ครั้งนี้ดูหนักแน่นกว่าปกติ ราวกับว่าไม่อนุญาตให้จางหยางปฏิเสธคำสั่งของเธอ แต่ยังไงซะ เขาถือได้ว่าเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง จะขอโทษคนอื่นต่อหน้าภรรยาตัวเองได้ยังไง? ยิ่งไปกว่านั้นคือ จ้าวเฉียนยังอยู่ตรงนี้อีกด้วย
“ผมขอโทษก็ได้นะ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณเหลียวจะสั่งโปรเจคแบบไหนออกมา ถ้าเป็นแค่โปรเจคเล็กๆ มันก็ไม่คุ้มที่จะได้รับคำขอโทษจากผม!”
เหลียวเซียวหยุนทนไม่ไหวอีกต่อไป ถึงขั้นสบถด่าสวนกลับไปว่า
“ทั้งโง่ทั้งอวดดี!คิดว่าบริษัทหัวโหย้วของเราจะสร้างแค่โปรเจคเล็กๆ รึไง!โง่!โง่จริงๆ!”
หลังจากพูดจบ เหลียวเซียวหยุนก็ถือของเดินกลับไปที่รถของเธอทันที
จ้าวเฉียนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ และเก็บข้าวเก็บของเตรียมจากไป
ฟางนี่รีบวิ่งไปกอดแขนและเอ่ยปากขอร้องโดยตรงว่า
“จ้าวเฉียน นายช่วยคุยกับเธอหน่อยได้ไหม? ถึงยังไงนายก็ยังมีหุ้นอยู่ในบริษัทฉันนะ คงไม่อยากให้ลูกค้าหลุดมือไปง่ายๆ ใช่ไหม?”
จ้าวเฉียนถอนหายใจเฮือกใหญ่และตอบกลับไปว่า
“ประธานฟาง ไม่ใช่ว่าผมกล่าวหาผู้จัดการจางหรอกนะครับ แต่ถ้าเขายังเป็นแบบนี้ต่อไป ในไม่ช้าบริษัทของคุณจะต้องล้มละลายภายในกำมือเขาแน่ ผมพยายามอย่างดีที่สุดแล้วนึรั้งนี้ แต่เขากลับทำให้ทุกอย่างที่ทำมาพังไม่เป็นท่า งั้นผมขอใช้สิทธิ์ผู้ถือหุ้นถอดถอนผู้จัดการจางออกจากตำแหน่งนะครับ”
จางหยางเดือดจัดทันทที่ได้ยิน เขาวิ่งไปกระชากคือเสื้อจ้าวเฉียนพร้อมสบถขึ้นว่า
“จ้าวเฉียน!นี่มันมากเกินไปแล้ว!บริษัทนี้เป็นของครอบครัวเรา แล้วแกกล้าขับไล่ฉันออกไปได้ยังไง!”
“พอได้แล้ว!คุณช่วยหุบปากสักทีได้ไหม!!”
ฟางนี่ตะโกนลั่นอย่างสุดจะทนแล้วจริงๆ
จางหยางเหลือบมองฟางนี่ด้วยความตกใจ และไม่กล้าส่งเสียงกล่าวใดๆ อีกต่อไป
ฟางนี่อดทนอดกลั้นกับจางหยางมามากเกินพอแล้ว ตั้งแต่เขาเข้ามาในบริษัท ทุกการกระทำต่างก็ทำให้เธอรู้สึกผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่ใบทะเบียนสมรส ฟางนี่คงไล่เขาออกนานแล้ว
ฟางนี่ตรงเข้าไปจับมือจ้าวเฉียน น้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นหลายส่วน เธอกล่าวขอร้องขึ้นว่า
“ขอร้องเถอะนะจ้าวเฉียน ยังไงคู่ค้ารายนี้ก็สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นโปรเจคเล็กใหญ่ยังไง แต่การได้ร่วมมือกับบริษัทเกมยักษ์ใหญ่อย่างหัวโหย้ว นับเป็นนิมิตหมายที่ดีมากแล้วสำหรับอนาคตของพวกเรา”
“เฮ้ออ… ผมจะพยายามลองดูแล้วกันครับ ยังไงก็เถอะ ถ้าทำไม่สำเร็จประธานฟางคงทราบดีนะครับว่า ทั้งหมดมีสาเหตุเพราะอะไร แล้วอีกอย่างนะครับ…อย่าทำให้ผมต้องรู้สึกผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกเลย!”
จ้าวเฉียนเหลือบมองจางหยางด้วยหางตาเล็กน้อยขณะเอ่ยกล่าว และหันมาบอกกับฟางนี่ด้วยสีหน้าจริงจัง
ฟางนี่พยักหน้าและยึดคำมั่นสัญญากับเขาไปว่า
“เข้าใจแล้ว ไม่ต้องกังวล นายจะไม่ถูกไล่ออกแน่นอนในอนาคต ฉันขอรับประกัน ทำเต็มที่ก็พอ!”
จ้าวเฉียนพยักหน้าตอบ ด้วยความช่วยเหลือของฟางนี่ ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นหลายเปาะ เขารีบวิ่งไปที่รถของเหลียวเซียวหยุนทันที
เหลียวเซียวหยุนกำลังขนของขึ้นรถ ขณะเดียวกันก็รอจ้าวเฉียนไปพลาง
จ้าวเฉียนเองก็ขนของขึ้นรถตัวเองเสร็จแล้วเช่นกัน และเขากลับลงจากรถตัวเองและวิ่งมาเคาะกระจกรถเธอ
“มีอะไร?”
เหลียวเซียวหยุนเอ่ยถามเจือน้ำเสียงขุ่นเคือง
“นี่คุณโกรธเขาจริงๆ หรือพูดเอาสะใจกัน? อย่าหัวเสียไปเลยนะ เดี๋ยววันหลังผมพาคุณมาช็อปปิ้งอีกดีไหม?”
“เหอะ!ไอ้เวรนั่นเป็นคนน่ารังเกียจชะมัด!โง่ไม่พอยังสำคัญตัวเองผิดอีก!จ้าวเฉียน ถ้านายไล่มันออกไปได้ ฉันจะร่วมมือกับบริษัทนาย ว่าไง?”
เหลียวเซียวหยุนดูจะแค้นจางหยางเป็นอย่างยิ่ง เธอกุมมือจ้าวเฉียนแน่นพร้อมจับจ้องเขาด้วยสายตาแสนคาดหวัง
จ้าวเฉียนส่ายหัว ตอบกลับไปว่า
“ไม่ ผมมีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทนี้ ถ้าอีกฝ่ายออกไป ก็ไม่เท่ากีบว่าหุ้นส่วนที่ผมลงทุนจมไปเหรอ? ถือว่าเห็นแก่หน้าผมเถอะ อย่าโกรธเลยนะ?”
เหลียวเซียวหยุนส่ายหัวอาน กล่าวตอบไปว่า
“ไม่แน่นอน ฉันไม่มีทางยอมเพราะเรื่องแค่นี้แน่นอน เว้นเสียแต่นายต้องสัญญากับฉันก่อนว่า นายจะต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงรุ่นม.ปลายที่จะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ไม่อย่างนั้น ยกเลิกความร่วมมือ!”
จ้าวเฉียนไม่ต้องการจะเข้าไปยุ่งเรื่องของเธอ ดังนั้นเขาจึงเอ่ยตอบไปว่า
“งานเลี้ยงรุ่นม.ปลายของคุณ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมล่ะ? ในฐานะคนนอก ดูท่าจะไม่ค่อยเหมาะสมนะ?”
เหลียวเซียวหยุนปั้นหน้าบูดบึ้งทันที
“ก็นายยังแกล้งเป็นแฟนฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วจะเป็นคนนอกได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินว่าต้องรับบทเป็นแฟนเธออีกครั้ง จ้าวเฉียนพลันรู้สึกเบื่อหน่ายในทันใด
“ไม่เล่นเป็นแฟนแล้วได้ไหม? ผมเบื่อที่ต้องจัดการกับปัญหาที่เข้ามา”
จ้าวเฉียนพูดอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
เหลียวเซียวหยุนยิ้มเล็กน้อย เธอเอ่ยตอบไปว่า
“งั้นจะรับบทเป็นพี่ชายฉันรึไง?”
จ้าวเฉียนยิ้มเยาะและตอบไปว่า
“งั้นก็ไม่ต้องแกล้งเป็นแฟนปลอมๆ เราควรไปโรงแรมแล้วเปิดห้องกันสักคืนเลยดีไหม? จะได้เป็นแฟนกันจริงๆ ไปเลย?”
เหลียวเซียวหยุนชำเลืองมองอีกฝ่ายตาขวางพร้อมสีหน้าบูดบึ้ง แต่เธอกลับหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหูแล้วโดยไม่ทันรู้ตัว ปั้นสีหน้าโกรธเกรี้ยว ตะวาดใส่จ้าวเฉียนไปว่า
“เลิกฝันกลางวันได้แล้ว!ไปขึ้นรถ!แล้วส่งของให้ฉันที่บ้าน!”
จ้าวเฉียนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หันหลังเดินกลับขึ้นรถตัวเองไป และขับตามเหลียวเซียวหยุนไปยังบ้านของเธอ
เนื่องจากเป็นถึงประธานบริษัทหัวโหย้ว เรียกได้ว่าคฤหาสน์ของเหลียวเซียวหยุนงดงามอย่างยิ่ง มีทั้งสวนดอกไม้และสระว่ายน้ำหรู เพียบพร้อมไปด้วยบรรดาคนใช้คอยให้บริการ
จ้าวเฉียนจงใจเสแสร้งทำเป็นอิจฉาและกล่าวกับเธอว่า
“บ้านของคุณใหญ่มาก!ต้องใช้เงินเท่าไหร่กันถึงได้ขนาดนี้!”
เหลียวเซียวหยุนยิ้มตอบว่า
“ก็มากกว่า200ล้านหยวน ที่บ้านฉันไม่ได้ขาดแคลนเรื่องเงินเท่าไหร่น่ะ เลยเหลือซื้อคฤหาสน์ได้”
“200ล้านเลยเหรอ!สุดยอด!หรูกว่าหลุมศพปู่ผมอีก!ต้องรวยแค่ไหนกัน!”
จ้าวเฉียนอุทานขึ้นพร้อมท่าทีตื่นอกตื่นเต้น
เหลียวเซียวหยุนหลุดขำเล็กน้อย ยกเท้าเตะจ้าวเฉียนไปทีหนึ่งและเตือนว่า
“นี่นายเข้าไปข้างในได้แล้ว หัดจริงจังซะบ้างนะ พ่อฉันรออยู่ข้างในนั้น”
จ้าวเฉียนพยักหน้าเอ่ยตอบไปว่า
“ไม่ต้องห่วง ผมรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร”
เหลียวเซียวหยุนพยักหน้าและเดินเข้าไปพร้อมกับจ้าวเฉียน
เมื่อบรรดาคนใช้เห็นว่าเหลียวเซียวหยุนกลับมาแล้ว พวกเขาจึงรีบกล่าวทักทายทันที และรีบไปรายงานให้เหลียวปี้ซ่งทราบทันที
“นายท่าน คุณหนูกลับมาแล้ว เธอพาชายคนหนึ่งเข้ามาด้วย พร้อมกับถุงเสื้อผ้าอีกมากมาย”
เหลียวปี้ซ่งลุกขึ้นพรวดในทันใด เขาสงสัยเหลือเกินว่า ลูกสาวของเขาพาแฟนมาเหยียบถึงบ้านเลยงั้นเหรอ ไม่ใจกล้าเกินไปหน่อยรึ?
แต่ทันทีที่เหลียวปี้ซ่งเห็นว่า ชายคนดังกล่าวคือจ้าวเฉียน ใบหน้าของเขาก็มืดขรึมลงในทันใด
“ทำไมถึงเป็นนายอีกแล้ว? ไหนว่าสัญญากันเรียบร้อยไงว่า เรื่องธุรกิจก็คือเรื่องธุรกิจเท่านั้น นี่แกคิดจะล้อเล่นกับฉันงั้นเหรอ?”
“ผมยังไม่ลืมสัญญาครับ แต่นี่เรามาคุยเรื่องงาน แต่เธอบอกว่า ต้องพาเจ้าตัวไปช็อปปิ้งก่อน ในฐานะพนักงานอย่างผม ก็ต้องบริการเธอทุกอย่างเพื่อสร้างความพึงพอใจ นี่เป็นวิธีเบื้องต้นของการทำธุรกิจไม่ใช่เหรอครับ?”
จ้าวเฉียนกล่าวอธิบาย
เหลียวปี้ซ่งพูดไม่ออกเช่นกันเมื่อได้ยิน เขาสั่งให้คนใช้คนหนึ่งไปหยิบข้าวของจากมือจ้าวเฉียนและกล่าวต่อว่า
“โอเค ทีนี่นายกลับไปได้แล้ว”
จ้าวเฉียนไม่คิดจะมาที่นี่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พอได้ยินว่าตอนนี้เขาสามารถออกไปได้แล้ว เขาจึงรีบขอตัวกลับทันที
“โอเคครับ งั้นผมขอตัว โชคดีครับ”
จ้าวเฉียนหันควับเตรียมตัวจากไปโดยไว แต่กลับเป็นเหลียวเซียวหยุนที่ทิ้งสิ่งของทั้งหมดในมือและวิ่งไปคว้าแขนจ้าวเฉียนไว้ได้ทัน
“อย่าเพิ่งกลับ!มานั่งเล่นกับฉันก่อนสิ!พ่อ!เขาเป็นเพื่อนหนูนะ ถ้ายังจะไล่เขาแบบนี้อีก หนูโกรธจริงๆ ด้วย!”
สีหน้าของเหลียวปี้ซ่งมืดทมิฬลงทันที เขาเอ่ยตอบพร้อมน้ำเสียงสั่งการอย่างชัดเจน
“ได้!ถ้านั่งเล่นกันเสร็จแล้ว พ่อขอคุณกับเขาหน่อย!”
“ได้เลยค่ะ อิอิ…”
จากนั้นเหลียวเซียวหยุนก็พาจ้าวเฉียน เข้าไปด้านในตัวบ้าน และเหลียวปี้ซ่งเองก็ไม่กล้าหยุดลูกสาวตัวเองเช่นกัน
แต่จ้าวเฉียนไม่ต้องการอยู่ที่นี่นานไปกว่านี้ ดังนั้นเขาจึงรีบหยุดเธอไว้ทันทีและกล่าวว่า
“ผมควรกลับได้แล้วอย่างที่พ่อของคุณบอก อีกอย่างผมยังอยู่ในเวลางาน ไม่สมควรออกมาเที่ยวเล่นจนเลยเถิด”
“เอ่ออ…ถ้างั้น…นายกลับไปก่อนก็ได้ แต่พรุ่งนี้อย่าลืมนะ เรามีนัดกันที่บริษัทเพื่อคุยเรื่องโปรเจคต่อให้เสร็จ”
“งั้นเจอกันเก้าโมง ผมจะไปหาคุณที่บริษัท”
“อืมได้เลย โชคดีนะ ขับรถปลอดภัย”
จ้าวเฉียนฮัมเพลงอย่างมีความสุข เดินไปยิ้มให้กับเหลียวปี้ซ่งและจากออกไปทันที

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

เนื้อเรื่องย่อ จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน จนเวลาผ่านไปเขาเพิ่งมารู้ความจริง อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ชวนน่าตกตะลึงกว่าคือ ตัวตนที่ที่แท้จริงของเขาคือทายาทมหาเศรษฐี บุตรชายของจ้าวฝู บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่เมื่อห้าปีก่อน หลังจากที่ฉลองปาร์ตี้ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เขาก็ขับรถกลับทั้งๆที่อยู่ในอาการเมา จนแล้วจนรอด บังเอิญไปเฉี่ยวชนเข้ากับสาวน้อยคนหนึ่ง จนเธอได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ขาดสติหนัก เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้น ตะโกนโหวกเหวกโวยวายสร้างปัญหาไปทั่วสถานีตำรวจ ระหว่างนั้นเองก็มีมือดีที่ไหนไทม่ทราบแอบถ่ายคลิปเก็บไว้ได้ทัน พร้อมถูกอัปโหลดลงโซเชียลออนไลน์ ก่อให้เกิดเป็นประเด็นข้อฉกเถียงยกใหญ่ของผู้คนในเวลานั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็กระทบไปถึงชื่อเสียงขงอตระกูล จ้าวฝูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้อำนาจเงินตรา เพื่อไล่ลบคลิปวีดีโอเหล่านี้จนหมด ไม่ให้สืบสาวไปถึงตัวลูกชายของเขา คนเป็นพ่อใช้ไม้แข็งตัดขาดจ้าวเฉียน ไล่ไสส่งออกจากตระกูลจ้าว และให้จ้าวเฉียนหาเงินมาชดใช้ค่ารักษาสาวน้อยคนนั้นเป็นจำนวน 200,000หยวน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้ ถึงจะกลับเข้ามาในตระกูลอีกครั้งได้ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา จ้าวเฉียนจำต้องทนกับความอัปยศนานาชนิด ทั้งยังต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัด จนในที่สุดเขาก็จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลจนควบตามที่กำหนดไว้ เขาได้ทุกอย่างคืนกลับมาอีกครั้ง และสิ่งแรกที่เขาต้องการคือ การแก้แค้นพวกที่เคยดูถูกเขา! “ประธานฟาง ฉันยินดีร่วมหุ้นกับบริษัทของคุณเป็นจำนวนเงิน3ล้านหยวน โดยมีเงื่อนไขว่า คุณไม่ได้รับอนญาตให้เปิดเผยสถานะที่แท้จริงของผม ไม่อย่างนั้นผมจะถอนทุนทั้งหมดออกทันที” “เข้าใจแล้วค่ะคุณจ้าว” “ฮิฮิ….ตราบใดที่เข้าใจแล้ว ก็ทำให้ได้ แล้วคุณรู้ไหมว่า ผู้จัดการหวัง เจ้านั้นมันต้องการขับไล่ผมออกจากบริษัท คิดว่าผมควรทำยังไงดี?” “ง่ายมากค่ะ! ฉันจะไล่เขาออกเดี๋ยวนี้!” “ไม่ ไม่… ผมยังเล่นกับเขาไม่จุใจเลย จะไล่ออกไปง่ายๆได้ยังไง?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset