ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี – ตอนที่ 19 โกรธเกรี้ยว

ตอนที่19 โกรธเกรี้ยว
ในไม่ช้าหวังฉีก็โทรกลับมาหาจ้าวฉัยนพร้อมส่งข้อมูลของผู้โพสต์ในเว็บWeiboติดมาด้วย
เมื่อเห็นหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียนบัญชีแสนคุ้นเคยนั่น จ้าวเฉียนก็หัวเราะคิกคักขึ้นมาทันที
คล้อยหลังอีกไม่นาน ฟางนี่ก็โทรมาหาจ้าวเฉียนอีกครึ่งและถามว่า เจอคนโพสต์รึยัง?
“ผมได้ข้อมูลมาแล้ว หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียนบัญชีที่โพสต์เป็นเบอร์ของหวังเฉียง รอบนี้คุณสามารถจัดการเขาได้ตามต้องการเลย แต่อย่าเพิ่งไล่มันออกไปแล้วกัน เข้าใจในสิ่งที่ผมจะสื่อใช่ไหม?”
“เข้าใจแล้ว! แกไม่ตายดีแน่หวังเฉียง!”
ฟางนี่วางสายทันทีด้วยความโกรธจัด
วันรุ่งขึ้น ณ ที่ทำงาน จ้าวเฉียนจงใจเข้าบริษัทพร้อมกับฟางนี่ ทันทีที่เหล่าเพื่อร่วมงานเห็นว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกันสองคน พวกเขาต่างเชื่อในทันทีว่า ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเกินกว่าเจ้านายและลูกน้อง
ทุกคนต่างอารมณ์เสียอย่างมากที่ฟางนี่มีเงินหลากล้านไว้ดูแลจ้าวเฉียน แต่กลับไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนเต็มจำนวนก่อนหน้านี้
“หวังเฉียง! ออกมาหาฉันเดี๋ยวนี้!”
ฟางนี่ตะโกนลั่นออฟฟิศทันทีที่เข้าประตูเข้ามา หวังเฉียงรีบวิ่งตามเธอเข้าไปในห้องทำงานอย่างรวดเร็ว
“ประธานฟาง มีอะไรให้เรียกใช้ครับ?”
หวังเฉียงรู้สึกผิดเช่นกันถึงขั้นตอนนี้ไม่กล้าเงยหน้าสบตาเธอเลย
ฟางนี่จ้องอีกฝ่ายเขม็งด้วยความโกรธ สักพักเอ่ยเสียงเย็นขึ้นว่า
“ฉันเคยไปแล้วนะว่า ให้นายทำตัวสมกับตำแหน่ง สิ่งที่ฉันเคยพูดไปคงแค่สั่งน้ำมูก?”
หวังเฉิงเหลือบมองวาบหนึ่งเจือสลดเล็กน้อย ก่อนเอ่ยถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ ว่า
“ประธานฟาง…นี่มันเรื่องอะไรกัน? ผม…ผมทำอะไรผิด?”
“แกนี่ยังจะโกหกอีกเหรอ! นายเป็นคนโพสต์รูปถ่ายบนเว็บWeibo อย่าคิดว่าฉันไม่รู้! ฉันติดต่อหาผู้อำนวยการของWeiboเพื่อขอให้ทางนั้นส่งข้อมูลคนโพสต์มาให้ และในนั้นก็เป็นเบอร์โทรของแก คงไม่ใช่ว่ามีคนใส่เบอร์โทรมัวๆ แล้วบังเอิญไปตรงกับนายหรอกนะ?”
หวังเฉียงใจหายวาบตกไปยังตาตุ่ม ฟางนี่มีเส้นสายในWeiboตั้งแต่ตอนไหน? คนในบริษัทใหญ่แบบนั้นเหรอจะมารู้จักเจ้าของบริษัทเกมเล็กๆ แบบนี้? หวังเฉียงกังขาใจในทันที หรือประธานฟางตั้งใจจะหลอกให้เขายอมคายความจริงออกมาเอง?
เจวียงหยวน หวันชวน และเจียงเสี่ยงปิงที่แอบฟังอยู่ด้านนอก ใจหายวาบใบหน้าซีดเผือกฉับพลันที่ได้ยิน หากหวังเฉียงโยนความผิดทั้งหมดมาให้สามคนนี้ ฟางนี่ไม่ยอมให้เรื่องนี้จบง่ายๆ กับแค่คำว่าตักเตือนแน่นอน
อย่างไรเสีย หวังเฉียงรู้สึกแค่ว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด และตนสมควรอยู่ที่นี่ต่อไป ฟางนี่อาจจะโกหกเขาก็ได้!
“ประธานฟาง ทุกคนต่างมีจิตสำนึก ไม่มีคนในบริษัทที่ไหนกล้ากลั่นแกล้งหัวหน้าตัวเอง! นี่ไม่ใช่ผมจริงๆ! ประธานตรวจสอบไม่ผิดแน่ใช่ไหม! แต่ผมก็เห็นๆ อยู่ว่าชื่อคนโพสต์คือจ้าวเฉียน! ประธานไม่ควรใช้เรื่องส่วนตัวมาเข้าข้างกันแบบนี้!”
ตอนนี้ฟางนี่เดือดจัด หยิบเอกสารข้อมูลทั้งหมดออกมาและปาใส่หน้าหวังเฉียนอย่างแรง
“แกยังจะเถียงอีกเหรอ! ฉันให้โอกาสแกสารภาพแล้ว! แต่ดูเหมือนว่าแกก็ยังแก้ตัวน้ำขุ่นๆ! รีบไสหัวไปเดี๋ยวนี้!”
หวังเฉียนรีบหยิบเอกสารเหล่านี้ขึ้นมาดู เขาผงะขึ้นทันทีด้วยความตกใจ เหลือบสายตามองหวันชวนที่แอบฟังอยู่ด้านนอกเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นทันทีว่า
“ประธานฟาง…เรื่องนี้ผมอธิบายได้! ภาพทั้งหมดถูกหวันชวนแอบถ่ายเอาไว้ และเขาก็ชักชวนให้ผมสร้างบัญชีปลอมเพื่อโพสต์ลงไป เขารู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับจ้าวเฉียนไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นมันจึงใช้ประโยชน์จากผม… ประธานอาจจะยังไม่ทราบ หวันชวนเองก็ไม่ชอบจ้าวเฉียนเหมือนกัน ผมเลยเดาว่าเขาก็จ้องเล่นงานอีกฝ่าย….”
หวันชวนไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป เขารีบเปิดประตูพุ่งตัวเข้ามาในทันใด และกล่าวปัดปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ทั้งยังทิ้งท้ายอีกว่า อย่าผลักภาระให้คนอื่นทั้งๆ ที่ตัวเองก็ยอมร่วมมือ
เจวียงหยวนตรงเข้ามาในห้องเป็นรายต่อไป เพราะกังวลว่าหวังเฉียนจะโยนความผิดมาให้ตนอีกคน จึงกล่าวเสริมคำพูดของหวันชวนขึ้นว่า
“ผมว่าคิดที่หวันชวนทำไปมีเจตนาดี เขาต้องการหยุดความสัมพันธ์ระหว่างประธานกับจ้าวเฉียน ถ้าคนภายนอกเห็นคงเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก แต่เขาแค่เตือนผิดวิธีไปเท่านั้น ยังไงพวกเราต้องขอโทษประธานฟางด้วยจริงๆ ครับ พวกเราสำนึกผิดแล้ว….”
“ประธานฟาง ผมต้องขอโทษจริงๆ ครับ หวังว่าประธานจะยกโทษให้ผม ผมจะตั้งใจทำงานไม่ก้าวก่ายเรื่องคนอื่นอีกในอนาคต ผมจะไม่ทำผิดพลาดแบบนี้อีกแล้ว”
ฟางนี่ตะคอกเสียงเย็นชาดังลั่นขึ้นว่า
“แค่คำขอโทษอย่างเดียวมันช่วยอะไรได้? ทั้งชื่อเสียงของจ้าวเฉียน ทั้งชื่อเสียงของฉันล้วนได้รับความเสียหายทั้งคู่ ที่เมื่อวานให้จ้าวเฉียนมาบ้าน เพราะเขาวางแผนที่จะไปรับประทานอาหารเย็นกับทางบริษัทซิงหยวน เพื่อหาช่องทางโอกาสให้กับพวกเรา! เหอะ…แล้วเป็นยังไงล่ะ? คิดว่าทางนั้นยังอยากร่วมมือกับเราอยู่อีกไหม? จ้าวเฉียนทำเพื่ออนาคตของเราทุกคน แต่พวกแกที่เห็นแก่ตัวกลับทำลายอนาคตของทุกคน!”
ณ ขณะนี้ ทุกคนต่างหลงคิดไปแล้วว่า จ้างเฉียนเป็นเด็กเลี้ยงของฟางนี่ แต่ทันทีที่ได้ยินคำอธิบายทั้งหมดไป พวกเขาได้แต่โทษตัวเองด้วยความเศร้าโศก
พวกเขาไม่สามารถหาช่องทางไปติดต่อกับบริษัทใหญ่อย่างซิงหยวนได้เลย ในขณะที่จ้าวเฉียนสามารถทำได้ ทว่าเนื่องด้วยความเห็นแก่ตัวของใครบางคน กลับทำให้ทุกอย่างอาจพังไม่เป็นท่า
สุดท้ายนี่กลับเป็นเรื่องตลกนี่ไม่ควรจะเกิดขึ้นจริงๆ
“ผู้จัดการหวัง คุณควรไปขอโทษจ้าวเฉียนนะ เมื่อครู่พวกเราแห่ไปขอโทษกันมาแล้ว ในขณะที่พวกเราหาเรื่องกลั้นแกล้งแต่เขา แต่เขาก็ไม่เถียงหรือโกรธเคืองพวกเราเลย ในทางกลับกัน เขายังหวังดีและต่อสู้เพื่อพวกเราอย่างเงียบๆ มาโดยตลอด”
“ถูกต้องแล้ว! บริษัทของเรากำลังมีปัญหาซึ่งไม่มีใครสามารถช่วยได้เลย แต่เขาที่พยายามตัวคนเดียวมาโดยตลอด กลับสามารถทำให้บริษัทใหญ่ขนาดนั้นยอมเจรจากับเขาได้ คิดว่าเขาต้องลำบากขนาดไหนกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ แล้วถ้าพวกเขาปฏิเสธการร่วมมือไปเพียงเพราะสิ่งที่ผู้จัดการหวังเล่นสนุกกันเอง ตัวผู้จัดการรับผิดชอบไหวไหม?”
“ฉันเองก็เห็นด้วย ผู้จัดการหวังควรขอโทษจ้าวเฉียน! เขาไม่เคยตอบโต้พวกคุณเลยสักครั้ง แต่ก็ยังทุ่มแรงกายแรงใจเพื่ออนาคตของบริษัทเราต่อไป เขาคือคุณชายจ้าวในใจของฉัน…”
“คุณชายจ้าว พวกเราต้องขอโทษอีกครั้งจริงๆ ที่เข้าใจผิด….”
เหล่าเพื่อนร่วมงานต่างแห่เข้ามาขอโทษจ้าวเฉียน ซึ่งนี่ราวกับการตบหน้าเจียงเสี่ยวปิงและคนอื่นๆ จนใบหน้าชาไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว
ทุกคนต่างเห็นใจจ้าวเฉียน และขอโทษด้วยความจริงใจ
ยิ่งเห็นแบบนี้ทั้งเจียงเสี่ยวปิง จ้าวเฉียน เจวียงหยวน และหวันชวนยิ่งรู้สึกอับอายเข้าไปใหญ่
“จ้าวเฉียน ฉันต้องขอโทษนายจริงๆ … ครั้งนี้ฉันผิดเองแหละ หวังว่านายจะให้โอกาสฉันแก้ตัว จะไม่มีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้วในอนาคต!”
หวังเฉียนเอ่ยปากของโทษจ้าวเฉียนในทันที เจวียงหยวนกับหวันชวนที่เห็นแบบนั้นก็รีบเอ่ยปากขอโทษจ้าวเฉียนตามๆ กันโดยไว
มีเพียงเจียงเสี่ยวปิงแค่คนเดียวที่ไม่เคยขอโทษต่อความผิดที่ก่อขึ้นเลยสักครั้ง
สีหน้าของหวังเฉียงมืดทมิฬลงทันใด ขึ้นเสียงตำหนิเธอทันทีว่า
“เสี่ยวปิง ยังไม่รีบขอโทษจ้าวเฉียนอีกเหรอ! ทำไมถึงทำตัวแย่แบบนี้!”
เจียงเสี่ยวปิงยังคงยึดติดกับคำว่าศักดิ์ศรีอย่างที่สุด และเธอไม่อยากเสียหน้าให้กับคนที่เคยตัดสินไปแล้วว่าเป็นแค่ขยะ เธอตอกคอกสวนกลับไปทันที
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด! ทำไมฉันต้องขอโทษมัน? นายเองที่ไม่มีความรับผิดชอบ ทั้งหมดเป็นแผนของพวกนาย! ถ้าจะขอโทษก็ขอโทษมันเอง! ขอโทษให้พอใจไปเลย!”
ทันทีที่พูดจบเจียงเสี่ยวปิงก็เชิดหน้า เดินกลับไปยังโต๊ะทำงานตัวเองทันที
หวังเฉียนยังคงตะโกนไล่หลังใส่เธอไม่หยุดหย่อน จนกระทั่งลับสายตาไป เห็นดังนั้นเขาจึงหันมาขอโทษจ้าวเฉียนอีกครั้งด้วยความลำบากใจขึ้นว่า
“เฮ้ออ…จ้าวเฉียน ฉันต้องขอโทษแทนเธอด้วย งี่เง่าจริงๆ …”
จ้าวเฉียนหัวเราะเล็กน้อยและเอ่ยตอบไปว่า
“ไม่เป็นไร ฉันชินแล้ว จากนี้ก็แยกย้ายกันไปทำงานดีไหม จากนี้ต่อไปถ้าเห็นข่าวลือก็อย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าจะได้เห็นจากตาตนแอง ฉันว่าแบบนี้คงดีกว่านะ?”
ทุกคนต่างให้สัญญากับจ้าวเฉียนว่า จากนี้ต่อไปจะไม่เชื่ออะไรง่ายๆ อีกแล้วในอนาคต และเขาคือคุณชายจ้าวในใจของพวกเขาตลอดไป
จ้าวเฉียนคลี่ยิ้มพร้อมพยักหน้าตอบ จากนั้นก็กลับไปนั่งประจำโต๊ะทำงาน แต่ฟางนี่ยังไม่สงบลงง่ายๆ เธอลากหวังเฉียงไปด่าต่อในห้องทำงานของเธอ
หวันชวนโกรธเกรี้ยวจัดจนหักปากกาทิ้งคามือ ฉันต้องการจะใช้รูปถ่ายเหล่านี้เพื่อบีบให้จ้าวเฉียนไม่มีหน้าอยู่ที่นี่อีกต่อไป แต่ตอนนี้เขากลับช่วยให้จ้าวเฉียนใกล้ชิดสนิทสนมกับเพื่อร่วมงานคนอื่นๆ แทน นี่ช่างเป็นอะไรที่แย่ยิ่งกว่าแย่มาก!
จ้าวเฉียนไม่ได้คำนึงถึงผลพลอยได้จากเรื่องนี้มาก่อนเลย ทำงานอยู่สักครู่ใหญ่ เขาก็ตรงไปขอลาจากฟานนี่และเดินทางออกจากบริษัทไป
ตอนนี้เขากำลังมาทำธุระอีกอย่างหนึ่ง ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา เขาก็มาถึงอาคารบริษัทเฟยอวี้
จ้าวเฉียนตรงไปยังชั้นสิบและแจ้งกับแผนกต้อนรับว่า เขาต้องการพบCEOของบริษัทเฟยอวี้ หรือผู้บริหารบอร์ดสักคน
แผนกต้อนรับเอ่ยถามเขาทันทีว่า มีธุระอะไรกับCEOและเขามีนัดมาก่อนหรือไม่
จ้าวเฉียนส่ายหัวและตอบกลับไปว่า
“ผมไม่ได้นัดหมายเอาไว้ พอดีต้องการคุยเรื่องแผนงานการร่วมมือในอนาคต รบกวนติดต่อเรียกอีกฝ่ายทีครับ”
พนักงานสาวที่แผนกต้อนรับพยักหน้าตอบ และโทรเรียกหยางจินตง CEOบริษัทเฟยอวี้ในทีนที
ทันทีที่หยางจินตงได้ยินว่า มีคนต้องการมาหารือเกี่ยวกับแผนการร่วมมือในอนาคต เขาจึงสั่งให้เลขาออกไปพาจ้าวเฉียนมาที่ห้องทำงานของตนโดยตรง

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

เนื้อเรื่องย่อ จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน จนเวลาผ่านไปเขาเพิ่งมารู้ความจริง อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ชวนน่าตกตะลึงกว่าคือ ตัวตนที่ที่แท้จริงของเขาคือทายาทมหาเศรษฐี บุตรชายของจ้าวฝู บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่เมื่อห้าปีก่อน หลังจากที่ฉลองปาร์ตี้ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เขาก็ขับรถกลับทั้งๆที่อยู่ในอาการเมา จนแล้วจนรอด บังเอิญไปเฉี่ยวชนเข้ากับสาวน้อยคนหนึ่ง จนเธอได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ขาดสติหนัก เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้น ตะโกนโหวกเหวกโวยวายสร้างปัญหาไปทั่วสถานีตำรวจ ระหว่างนั้นเองก็มีมือดีที่ไหนไทม่ทราบแอบถ่ายคลิปเก็บไว้ได้ทัน พร้อมถูกอัปโหลดลงโซเชียลออนไลน์ ก่อให้เกิดเป็นประเด็นข้อฉกเถียงยกใหญ่ของผู้คนในเวลานั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็กระทบไปถึงชื่อเสียงขงอตระกูล จ้าวฝูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้อำนาจเงินตรา เพื่อไล่ลบคลิปวีดีโอเหล่านี้จนหมด ไม่ให้สืบสาวไปถึงตัวลูกชายของเขา คนเป็นพ่อใช้ไม้แข็งตัดขาดจ้าวเฉียน ไล่ไสส่งออกจากตระกูลจ้าว และให้จ้าวเฉียนหาเงินมาชดใช้ค่ารักษาสาวน้อยคนนั้นเป็นจำนวน 200,000หยวน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้ ถึงจะกลับเข้ามาในตระกูลอีกครั้งได้ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา จ้าวเฉียนจำต้องทนกับความอัปยศนานาชนิด ทั้งยังต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัด จนในที่สุดเขาก็จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลจนควบตามที่กำหนดไว้ เขาได้ทุกอย่างคืนกลับมาอีกครั้ง และสิ่งแรกที่เขาต้องการคือ การแก้แค้นพวกที่เคยดูถูกเขา! “ประธานฟาง ฉันยินดีร่วมหุ้นกับบริษัทของคุณเป็นจำนวนเงิน3ล้านหยวน โดยมีเงื่อนไขว่า คุณไม่ได้รับอนญาตให้เปิดเผยสถานะที่แท้จริงของผม ไม่อย่างนั้นผมจะถอนทุนทั้งหมดออกทันที” “เข้าใจแล้วค่ะคุณจ้าว” “ฮิฮิ….ตราบใดที่เข้าใจแล้ว ก็ทำให้ได้ แล้วคุณรู้ไหมว่า ผู้จัดการหวัง เจ้านั้นมันต้องการขับไล่ผมออกจากบริษัท คิดว่าผมควรทำยังไงดี?” “ง่ายมากค่ะ! ฉันจะไล่เขาออกเดี๋ยวนี้!” “ไม่ ไม่… ผมยังเล่นกับเขาไม่จุใจเลย จะไล่ออกไปง่ายๆได้ยังไง?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset