ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี – ตอนที่ 24 นัดท้าทาย

ตอนที่24 นัดท้าทาย

จ้าวเฉียนรีบวิ่งขึ้นไปหาและดึงร่างของอู๋ซินให้มาอยู่ด้านหลังตน
“เธอเป็นอะไรรึเปล่า? มันทำอะไรเธอบ้าง? อู๋ซินเป็นเพื่อนของฉัน แกอย่ามาเกาะแกะเธอ!”
หยางหมิงที่โมโหอยู่แล้ว ตอนนี้เห็นจ้าวเฉียนก็ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่
“ให้ตายเถอะ กูกำลังตามหามึงอยู่พอดี! หนี้แค้นทั้งเก่าและใหม่จะได้สะสางกันทีเดียว!”
จ้าวเฉียนรวนหัวเราะเยาะโดยที่ไม่กลัวคำขู่ของหยางหมิงเลยสักนิด
“โอเค อย่าสะสางยังไงล่ะ?”
หยางหมิงโต้กลับไปทันทีอย่างเดือดดุว่า
“ถ้าแกแน่จริงก็ตามฉันมาที่เขาฟีนิกซ์ ถ้ามีดีแค่ปากก็คุกเขาขอขมาตรงตีนกูนี่! และต่อไปกูไม่อนุญาตให้มึงมาเจอกับอู๋ซินอีกในอนาคต!”
“ได้! รีบๆ ไปกันเถอะ แล้วก็โทรหาขี้ข้าแกด้วย ไอ้ขี้ขลาดอย่างแกไม่กล้าเจอกับฉันหนึ่งต่อหนึ่งแน่นอน”
“มึงว่าไงนะ?! ทำไมกูต้องมีคนคอยช่วย? มาดิ! ถ้ากล้าก็เข้ามาเลย!”
หยางหมิงหยิบมือถือออกมาแล้วโทรออกในทันที ไม่นานนักหลังจากวางสายไป ก็มีกลุ่มคนแห่กันเข้ามา
มีหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ในหมู่พวกเขากลุ่มนั้น เธอรีบวิ่งเข้ามาประคองแขนหยางหมิงด้วยความเป็นห่วง แต่เขากลับไม่ถึงความห่วงใยของเธอแม้สักนิด และสะบัดแรงอย่างแรงผลักร่างของเธอเกือบล้ม
“ไปให้พ้น! พวกแกจะกินอะไรเต็มที่เลย! เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง! ฉันจะไปเคลียร์กับไอ้เวรนี่สองต่อสอง ไม่ต้องมาสอด!”
หลังจากพูดจบหยางหมิงก็ควักเงินจำนวนหนึ่งขึ้นมาจากกระเป๋า และโยนให้หญิงสาวคนนั้นโดยตรง ก่อนจากออกไปเขายกมือชี้นิ้วใส่หน้าจ้าวเฉียนทีหนึ่ง
จ้าวเฉียนไม่กล้าไอ้ขี้แพ้ชวนตีแบบนี้อยู่แล้ว แต่อู๋ซินกลับไม่ยอมให้เขาไปตามคำท้าอีกฝ่าย
“จ้าวเฉียน นี่ไว้ใจไม่ได้หรอก! รีบกลับบ้านกันดีกว่า!”
“เธอไม่มีทางจบปัญหากันมันแน่ ถ้ายังไม่สะสางให้ชัดเจน! คืนนี้ฉันจะไปเองแล้วหวังว่ามันจะเลิกตามตื้อเธอสักที ไม่ต้องกังวล ฉันรู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร ตอนนี้เธอควรนั่งแท็กซี่กลับบ้านไปซะ”
“ไม่! ฉันจะปล่อยนายไว้แบบนี้ได้ยังไง? มันอันตรายเกินไป!”
ทั้งสองที่ยื้อกันไปกันมาด้วยความเป็นห่วง กลับเป็นภาพบาดตาทำให้หยางหมิงที่กำลังจากไปยิ่งโมโหมากขึ้นไปอีก
“ไอ้เวร ยังทำให้กูอับอายไม่พอใช่ไหม อู๋ซินสักวันเธอต้องเป็นของฉัน ของฉันแต่เพียงผู้เดียว!!”
อู๋ซินตะคอกสวนกลับไปทันทีว่า
“หยางหมิง ฉันไม่เคยสนใจแกแม้แต่น้อยและไม่มีวันขายวิญญาณเพื่อเงินด้วย! แกเป็นถึงทายาทมหาเศรษฐีชื่อดัง แต่ทำตัวต่ำทราม จ้างคนมาสะกดรอยตามฉัน!”
“ก็มึงเป็นผู้หญิงของกูไง! แล้วกูก็ไม่สนด้วยว่ามึงจะชอบกูไหม! ฟังไว้นะ…กูแค่อยากนอนกับมึงให้หายอยาก ผู้หญิงจนๆ อย่างแกฉันไม่เอาทำเป็นเมียจริงๆ จังๆ หรอก!!”
คำพูดอันไร้ยางอายแบบนี้หากไม่ใช่หยางหมิงเป็นคนเอ่ยออกมาเอง เกรงว่าไม่มีอีกแล้ว
อู๋ซินโกรธจัดจนใบหน้าแดงกล้ำลามไปถึงใบหู แต่ลำพังเธอเองก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน จ้าวเฉียนปลอบโยนเธอไม่ให้โมโหไปมากกว่านี้ และบอกให้เธอกลับบ้านไปโดยเร็ว
อู๋ซินก็ทราบดีเช่นกันว่า เธอไม่สามารถเกลี้ยกล่อมจ้าวเฉียนได้อีกแล้ว ทำได้เพียงบอกกับเขาว่าให้ระวังตัว และถ้าเหตุการณ์เริ่มที่จะเลวร้ายลงก็ให้รีบหนีไปในทันที
จ้าวเฉียนยิ้มและกล่าวตอบเพียงว่า ไม่ต้องห่วง มั่นใจได้เลยว่าตัวเขาไม่เป็นอะไรแน่นอน
อู๋ซินรีบพยักหน้าและเรียกแท็กซี่กลับบ้านทันที แต่เธอก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี ตอนนี้มัวแต่นั่งจ้องจอมือถือ
ในอีกด้านหนึ่ง จ้าวเฉียนขับรถไปยังหุบเขาฟีนิกซ์พร้อมกับหยางหมิง
ในเวลานี้เอง พวกเขาอยู่ประจันหน้ากันอยู่บยภูเขาลับตา ไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลยในบริเวณนั้น
แต่ในเวลานั้นเองก็มีรถจากไหนไม่รู้แล่นเข้ามาดักล้อมรถของจ้าวเฉียนทั้งหน้าทั้งหลัง
หยางหมิงระเบิดเสียงหัวเราะลั่น อาศัยจำนวนคนที่มากกว่า เอ่ยปากขึ้นอย่างหยิ่งผยองว่า
“ฮ่าๆๆ …ไอ้เวรนี่ แกสายเกินไปที่จะคุกเขาขอขมาฉันคนนี้แล้ว ว่าไง? รู้สึกเสียใจไหม?”
“หุหุ…มากันได้แค่นี้เองเหรอ?”
“ในเมื่อกูพามึงออกมานอกสถานที่ทั้งที คิดเหรอว่าจะมากันแค่นี้? อีกสักครู่คนของหลิวเปาก็จะมาถึงที่นี่ กูบอกได้เลย…มึงต้องมีความสุขแน่นอน!”
จ้าวเฉียนรู้สึกว่าชื่อหลิวเปาฟังดูคุ้นหูพิกล เหมือนจะเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อนและนึกไปสักพักกลับจำไม่ได้ จึงแค่ยิ้มและตอบไปว่า
“ในเมื่อแกมั่นใจนัก ฉันก็จะนั่งรอจนกว่าคนพวกแกจะมากันครบ”
หยางหมิงกล่าวน้ำเสียงเกรี้ยวโกรธดังว่า
“เออ รอจนกว่าพี่หลิวเปาจะมา แกไม่มีโอกาสแม้แต่ร้องขอชีวิตแน่นอน!”
จ้าวเฉียนเปิดประตูรถออกมา พลางนั่งพิงอยู่บนฝากระโปรงรถอย่างเมินเฉย
ประมาณสิบนาทีต่อมา Mercedes-Benz G และ Wuling Hongguang รถสองคันนี้ก็แล่นเข้ามาจอดเทียบข้าง
หยางหมิงระเบิดหัวเราะด้วยความสุขใจยิ่ง และรีบเข้าไปทักทายพวกเขาเหล่านั้นในทันที เมื่อคนพวกนี้ลงมาจากรถ จ้าวเฉียนแทบหลุดขำในทันใด เพราะผู้นำกลุ่มที่ว่าฟันหลอมาแต่ไกล จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากหลิวซี โจทย์เก่าในวันวาน
หลิวซีที่เห็นว่าเป็นจ้าวเฉียน เขาก็ตะโกนดังลั่นด้วยความโกรธว่า
“แกอีกแล้วเหรอ!!”
จ้าวเฉียนหัวเราะเสียงคิดคัก ตอบเสียงเรียบกลับไปว่า
“เป็นฉันแล้วจะทำไม?”
“คิดว่าตัวเองถูกรางวัลใหญ่งวดเดียวจะอวดเก่งได้แค่ไหนเชียว? ถึงขั้นที่ว่ายั่วโมโหนายน้อยหยาง แกรู้ไหมว่านายน้อยเขาเป็นใคร? ครั้งนี้โชคไม่ช่วยแกอีกแล้ว! กูจะฆ่ามึง!”
หยางหมิงดีใจอย่างมาก ทันทีที่ได้ยินว่าหลิวซีเองก็มีหนี้แค้นเก่ากับจ้าวเฉียนเหมือนกัน
หลิวซีแสยะยิ้มด้วยความพึงพอใจยิ่ง และโบกมือสั่งให้ลูกน้องที่อยู่ข้างหลัง เตรียมลงมือทันที
จ้าวเฉียนที่เห็นแบบนั้นยังคงนั่งพิงฝากระโปรงรถอย่างใจเย็น และเอ่ยแค่ว่า
“หลิวซิ่วดูเหมือนว่าฟันในปากแกยังเหลืออยู่อีกไม่น้อย อยากให้ฉันสั่งคนให้มาถอนฟันแกอีกรึไง? วันนี้กี่ซี่ดีล่ะ?”
หลิวซิ่งรู้สึกหวาดกลัวอยู่เล็กน้อยภายในใจ ความเจ็บปวดที่ได้รับ ณ ตอนนั้นยังคงจำฝังใจไม่เลือนหาย แต่อย่างไรก็ตาม หยางหู่ไม่สามารถปกป้องจ้าวเฉียนได้ทุกเวลา ตอนนี้ถือเป็นโอกาสทองของเขาแล้ว ดังนั้นจึงยิ้มตอบไปว่า
“ฮ่าฮ่าๆ …แกขู่ไม่ดูเวลาเลย! ฉันไม่เชื่อหรอกว่าวันนี้หยางหู่จะมาช่วยแก!”
“มันก็ไม่แน่…ฉันนี่ลูกค้ารายใหญ่ของเขาเชียวนะ บางทีตอนนี้อาจจะรีบบึ่งรถตามมาก็เป็นได้?”
“กลัวตายห่า! กูไม่เชื่อ…”
ทว่ายังไม่ทันที่หลิวซีจะพูดจบ เสียงเร่งรถดังสนั่นสะท้อนมาจากระยะไกล เท่าที่ฟังดูแล้วนี่น่าจะเป็นเสียงเครื่องรถสปอร์ต
หลิวซีผงะเฮือกใหญ่ หรือหยางหู่จะลงทุนมาช่วยไอ้เด็กนี่จริงๆ?
หยางหมิงยังไม่เข้าใจสถานการณ์ ณ ขณะนี้ได้อย่างไร? ทันทีที่ได้ยินเสียงรถ เขาก็สั่งให้หลิวซีเร่งมือจัดการจ้าวเฉียนโดยเร็ว ในเมื่อหลิวซีรีบเงินมาแล้วก็ต้องทำตามที่อีกฝ่ายสั่งมา แต่…
“นายน้อยหยาง กรุณรอสักครู่ ขอดูก่อนว่าใครกันที่มา?”
“นี่แกยังต้องกลัวอะไรอีกวะ? แกเป็นคนของพี่หลิวเปาไม่ใช่รึไง? หรือกลัวไอ้เวรนี่จริงๆ?”
“ผมไม่ได้กลัวเขา แต่ผมกลัวว่า คนที่มาช่วยจะเป็นพี่หยางหู่จริงๆ นายน้อยหยางก็รู้ว่า พี่หยางหู่เทียบชั้นเดียวกับพี่หลิวเปา ถ้าเขาจริง ผมคงไม่กล้าทำให้เขาขุ่นเคืองเหมือนกัน ไอ้เวรนี่ใช้เงินจำนวนหลายล้านเพื่อผูกมิตรกับพี่หยางหู่ ครั้งล่าสุดพี่หยางหู่ยังพอว่า มาจับผมถอนฟันไปอีกสองสามซี่…”

หยางหมิงที่ได้ยินแบบนั้นก็ตกใจอย่างมาก ไอ้เวรนี่สามารถใช้เงินจำนวนหลายล้านเพื่อซื้อตัวหยางหู่ได้?! นี่มัน…เป็นใครกันแน่?
“ไอ้เวร ถ้ามึงแน่จริงก็บอกมาว่าเป็นใคร!? ไม่ใช่เอาแต่ซ่อนตัวเป็นผู้หญิงอยู่แบบนี้!”
หยางหมิงคิดเอาไว้ว่า เป็นการดีกว่าที่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของจ้าวเฉียนตั้งแต่เนินๆ เพราะถ้าภูมิหลังของอีกฝ่ายเหนือยิ่งกว่าเขาหรือพ่อของเขา บางทีนี่อาจเป็นการสร้างหายนะให้ตัวเองก็เป็นได้
จ้าวเฉียนยิ้มและตอบกลับไปว่า
“ก็แค่รวยได้เพราะลอตเตอรี่ นอกจากนี้ก็ยังเป็นชายรูปหล่อธรรมดาคนหนึ่ง”
“โกหก! แค่ถูกลอตเตอรี่แล้วรวย ก็ถึงกับมีเส้นสายเป็นถึงตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในเมืองหลวงหยานจื้งเลยรึไง?”
หยางหมิงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่า สิ่งที่จ้าวเฉียนไปเป็นความจริงหรือหลอกกันแน่ แต่อย่างไรตอนนี้เขาแค่ต้องการที่จะเอาชนะจ้าวเฉียนให้ได้เท่านั้น
แต่ทันใดนั้นเอง รถสปอร์ตคันหนึ่งก็พุ่งเข้ามาคว้ากั้นระหว่างทั้งสองฝ่าย มาที่นี่แค่คันเดียวโดดๆ!
ประตูฝังคนขับของรถสปอร์ตคันหรูเปิดออก ปรากฏเป็นหยางหู่ที่ก้าวลงมาจากรถอย่างแช่มช้า
หลิวซีขนลุกซูวยันหนังศีรษะ และชายที่อยู่ตรงหน้าก็คือพี่หยางหู่ตัวจริงเสียงจริง
ไอ้หนุ่มคนนี้เป็นใครมาจากไหนกันแน่? ทำไมถึงสามารถโทรเรียกให้หยางหู่รีบมาช่วยกลางดึกแบบนี้ได้?!!

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

เนื้อเรื่องย่อ จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน จนเวลาผ่านไปเขาเพิ่งมารู้ความจริง อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ชวนน่าตกตะลึงกว่าคือ ตัวตนที่ที่แท้จริงของเขาคือทายาทมหาเศรษฐี บุตรชายของจ้าวฝู บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่เมื่อห้าปีก่อน หลังจากที่ฉลองปาร์ตี้ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เขาก็ขับรถกลับทั้งๆที่อยู่ในอาการเมา จนแล้วจนรอด บังเอิญไปเฉี่ยวชนเข้ากับสาวน้อยคนหนึ่ง จนเธอได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ขาดสติหนัก เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้น ตะโกนโหวกเหวกโวยวายสร้างปัญหาไปทั่วสถานีตำรวจ ระหว่างนั้นเองก็มีมือดีที่ไหนไทม่ทราบแอบถ่ายคลิปเก็บไว้ได้ทัน พร้อมถูกอัปโหลดลงโซเชียลออนไลน์ ก่อให้เกิดเป็นประเด็นข้อฉกเถียงยกใหญ่ของผู้คนในเวลานั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็กระทบไปถึงชื่อเสียงขงอตระกูล จ้าวฝูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้อำนาจเงินตรา เพื่อไล่ลบคลิปวีดีโอเหล่านี้จนหมด ไม่ให้สืบสาวไปถึงตัวลูกชายของเขา คนเป็นพ่อใช้ไม้แข็งตัดขาดจ้าวเฉียน ไล่ไสส่งออกจากตระกูลจ้าว และให้จ้าวเฉียนหาเงินมาชดใช้ค่ารักษาสาวน้อยคนนั้นเป็นจำนวน 200,000หยวน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้ ถึงจะกลับเข้ามาในตระกูลอีกครั้งได้ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา จ้าวเฉียนจำต้องทนกับความอัปยศนานาชนิด ทั้งยังต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัด จนในที่สุดเขาก็จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลจนควบตามที่กำหนดไว้ เขาได้ทุกอย่างคืนกลับมาอีกครั้ง และสิ่งแรกที่เขาต้องการคือ การแก้แค้นพวกที่เคยดูถูกเขา! “ประธานฟาง ฉันยินดีร่วมหุ้นกับบริษัทของคุณเป็นจำนวนเงิน3ล้านหยวน โดยมีเงื่อนไขว่า คุณไม่ได้รับอนญาตให้เปิดเผยสถานะที่แท้จริงของผม ไม่อย่างนั้นผมจะถอนทุนทั้งหมดออกทันที” “เข้าใจแล้วค่ะคุณจ้าว” “ฮิฮิ….ตราบใดที่เข้าใจแล้ว ก็ทำให้ได้ แล้วคุณรู้ไหมว่า ผู้จัดการหวัง เจ้านั้นมันต้องการขับไล่ผมออกจากบริษัท คิดว่าผมควรทำยังไงดี?” “ง่ายมากค่ะ! ฉันจะไล่เขาออกเดี๋ยวนี้!” “ไม่ ไม่… ผมยังเล่นกับเขาไม่จุใจเลย จะไล่ออกไปง่ายๆได้ยังไง?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset